ถูกผีตามราวี…เธอให้ผมหาผัวที่หนีไปมาพบ

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านเช่าที่อยู่แถวๆย่านสามเสนเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เมื่อตอนนั้น คุณแบงค์อายุ 25 ได้ทำงานเป็นครีเอทีฟอยู่บริษัทแถวๆนั้น คุณแบงค์นั้นพักอยู่ซอยระนอง 1 และก็มีรุ่นน้องอีกคนนึงอยู่ซอยระนอง 2 แล้วอยู่ๆเขาก็ได้ไปเช่าบ้านเช่า 2ชั้นหลังนึง แต่เขาจะแบ่งให้เช่าแยกกันระหว่างชั้นบนกับชั้นล่าง รุ่นน้องคุณแบงค์ได้ห้องเช่าข้างบน แต่พอรุ่นน้องเข้าไปอยู่ได้ 4 วัน เขาก็ย้ายออก และพอกลางดึกรุ่นน้องคนนี้ก็โทรมาหาคุณแบงค์และบอกว่า พี่แบงค์ว่างเปล่า คุณแบงค์ก็ตอบไปว่า ว่างดิ รุ่นน้องก็บอกต่อว่า พี่ ไปเฝ้าของให้คืนนึงสิ คุณแบงค์ก็ถามว่าทำไม รุ่นน้องก็บอกว่า อ๋อ ผมได้หอใหม่ ดีกว่าที่เดิม ก็กะว่าจะย้าย คุณแบงค์ก็บอกว่า ได้ๆๆ เดี๋ยวพี่ไปเฝ้าให้ แล้วรุ่นน้องก็บอกต่ออีกว่า พี่พาใครก็ได้มาเป็นเพื่อนซักคนนะ กันพลาด คุณแบงค์ก็คิดว่าจะกันพลาดทำไม คุณแบงค์ก็เลยบอกว่า ไม่ต้องหรอก แต่รุ่นน้องก็ยังย้ำอยู่ว่า พี่ พามาเถอะ คุณแบงค์ก็เลยโทรชวนรุ่นน้องอีกคนนึงชื่อว่า ไฮน์ ไฮน์ก็ตกลงที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแบงค์

คุณแบงค์ก็นัดเจอกับไฮน์ที่ซอยระนอง 2 พอมาถึงที่บ้านก็เป็นเหมือนทาวเฮ้าท์ไม้ 2 ชั้น สภาพบ้านถือว่าดูดี ตอนเดินเข้าไปก็เจอลุงยามคนนึง แกเปิดประตูออกจากห้องมา พอเขาเห็นพวกคุณแบงค์เขาก็ดูแปลกๆ แล้วก็ค่อยเดินออกไป ตอนนั้นคุณแบงค์ก็คิดว่า เขาคงสงสัยหละมั๊งว่าเราเป็นใคร ทีนี้คุณแบงค์กับไฮน์ก็ขึ้นไปบนห้อง แล้วไฮน์ก็บอกคุณแบงค์ว่า พี่ผมขอไปอาบน้ำก่อนนะ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่นอกห้องนอน คุณแบงค์ก็บอกว่า ได้ แล้วคุณแบงค์ก็นั่งทำงานอยู่บนที่นอน

ซักแปปนึงก็ได้ยินเสียงไฮน์ออกจากห้องน้ำและเปิดประตูห้องเข้ามา แล้วไฮน์ก็เรียก พี่แบงค์ คุณแบงค์ก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ไฮน์ก็เรียกอีกด้วยเสียงสั่นๆว่า พี่แบงค์ จนครั้งที่ 3 คราวนี้เสียงเรียกของไฮน์เหมือนคนจะร้องไห้ ทีนี้คุณแบงค์ก็ลุกขึ้นมาถามว่า ไฮน์เป็นอะไร แล้วไฮน์ก็เรียกอีกครั้งแบบว่าไม่ไหวแล้วว่า พี่แบงค์ครับ คุณแบงค์ก็ถามไฮน์ว่า ไม่สบาย หรือหนาวหรือเปล่า ไฮน์ก็บอกว่า พี่ผมทะเลาะกับแฟนอ่ะ ผมไปหาแฟนก่อนนะ คุณแบงค์ก็บอกว่าไปว่า อ้าว มีเรื่องกันหรอ ไปๆๆๆ ไฮน์ก็บอกกับคุณแบงค์ว่า พี่แบงค์อยู่ได้นะพี่ คุณแบงค์ก็บอกว่า อยู่ได้ แต่ไฮน์ก็พยายามพูดในทำนองว่า พี่ไปกับผมดีกว่านะ

คุณแบงค์ก็บอกว่า ไม่เป็นไร นายทะเลาะกับแฟน ก็ไปเคลียร์กับแฟนให้รู้เรื่อง ไม่ต้องเกรงใจพี่ ไฮน์ก็ยังบอกอีกว่า พี่ ไปเถอะ แต่คุณแบงค์ก็บอกให้ไฮน์รีบไป เพราะแฟนของไฮน์เป็นคนที่อารมณ์ร้ายมาก ไฮน์ก็เลยยกมือไหว้แล้วก็พูดว่า ผมขอโทษนะ แล้วก็เก็บของทุกอย่างหมดเลย คุณแบงค์ก็เลยถามว่า จะไม่กลับมาละหรอ ไฮน์ก็บอกว่า ไม่กลับมาแล้วพี่ ผมคงไปนอนค้างนู่นเลย คงเคลียร์กันยาว

หลังจากนั้นพอไฮน์เปิดประตูออกไป คุณแบงค์ก็ได้ยินเสียงไฮน์วิ่งลงไปจากบันไดเร็วมาก ซึ่งตามปกติ ไฮน์จะเป็นคนที่เชื่องช้ามาก แล้วบ้านของไฮน์ค่อนข้างมีฐานะ พ่อแม่ก็ซื้อมอเตอร์ไซด์ DUCATI ให้ แต่ว่าไฮน์เป็นคนที่ขับ DUCATI ช้ามาก แต่คืนวันนั้นคุณแบงค์ได้ยินเสียงไฮน์บิดมอไซด์แล้วก็หายไปเลย คุณแบงค์ก็คิดว่าสงสัยจะทะเลาะกันแรง ถึงรีบขนาดนี้

คุณแบงค์ก็เลยทำงานต่อ แล้วคุณแบงค์เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเปิดแอร์ ก็เลยเปิดแค่พัดลมธรรมดา แล้วซักพักพัดลมก็หยุดเองแต่ด้วยความที่คุณแบงค์ไม่เชื่อเรื่องผี คิดว่าพัดลมมันเก่า คุณแบงค์ก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วซักพักคุณแบงค์ก็เข้านอน แต่พอนอนอยู่ ตัวขยับไม่ได้ ตาลืมไม่ได้ เหมือนโดนผีอำ แต่คุณแบงค์ก็คิดว่าพักผ่อนน้อย หรือนอนทับเส้นหรือเปล่า และนอนแปลกที่ด้วย ซักแปปนึง คุณแบงค์ก็ขยับตัวได้ ก็ลุกขึ้นมานั่งมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีอะไร

แต่พอนอนต่อ คราวนี้มันหนักกว่าเดิม โดยที่ตัวคุณแบงค์ขยับไม่ได้ แต่ตาลืมได้ แล้วก็มีเสียงผู้หญิงพูดข้างๆหูว่า ต้องให้กูทำยังไง มึงถึงจะยอมออกไปจากบ้านกู ต้องให้กูออกไปให้มึงเห็นใช่มั๊ย แล้วบนฝ้าของบ้านก็เหมือนมีเสียงคนเดินอยู่ข้างบนฝ้า เดินมาจากด้านหลังเดินมาตรงด้านหน้าประตู ซึ่งด้านหน้าประตูก็จะมีฝ้าที่แตกอยู่ช่องนึง พอที่จะมีคนโดดลงมาได้

คุณแบงค์ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ก็เลยคว้าทุกอย่างที่คว้าออกมาได้ แล้วก็วิ่งออกจากห้องไป ขึ้นมอเตอร์ไซด์เรียบร้อย โดยที่ไม่สนว่าห้องรุ่นน้องจะโดนงัดแงะหรืออะไร ระหว่างที่คุณแบงค์กำลังจะสตาร์ทเครื่อง คุณแบงค์ก็เงยหน้าขึ้นไปดูที่บนบ้าน ปรากฏว่า เห็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง แต่หน้าเขาจะคล้ำๆกว่าปกติ ใส่เสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ขายาว นั่งอยู่บนขอบระเบียงและชี้นิ้วลงมา เหมือนว่าโกรธมาก ตอนนั้นคุณแบงค์ทำอะไรไม่ถูก ขับมอไซด์ไม่เป็น คุณแบงค์ใช้เข็นจากซอยระนอง 2 มาซอยระนอง 1 กลับมาบ้านตัวเอง จะเข้าห้องก็ไม่กล้า วินาทีนั้นคือกลัวทุกอย่าง เอามอเตอร์ไซด์จอดฝากยามไว้ แล้วก็หิ้วของที่มีกลับบ้านที่จังหวัดสมุทรสาคร

คุณแบงค์ก็ไปเรียกแท็กซี่ แท็กซี่ก็ยอมให้คุณแบงค์ขึ้นมา แล้วเขาก็เห็นว่าคุณแบงค์ดูท่าทางผิดปกติ เขาก็เลยถามว่า น้องมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า คุณแบงค์ก็บอกว่า ขอเปิดไฟนะ ไม่ไหวจริงๆ ผมกลัว เขาก็เปิดไฟให้ พอคุณแบงค์สงบสติอารมณ์ได้แล้ว คนแรกที่คุณแบงค์โทรหาเลยก็คือ ไฮน์ ว่าไฮน์เป็นอะไรบ้างหรือเปล่า เจออะไรบ้างหรือเปล่า พอโทรไป คำแรกที่ไฮน์พูดก็คือ พี่ผมขอโทษ คุณแบงค์ก็ถามว่า ไฮน์เจอหรอ ไฮน์ก็ตอบว่า ครับพี่ ผมเจอ แล้วไฮน์ก็เล่าให้ฟังว่า

ตอนที่ออกจากห้องน้ำมา พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าคุณแบงค์นอนทำงานอยู่ และก็เห็นว่าข้างๆตัวก็มีผู้หญิงนั่งอยู่ตรงขอบๆที่นอน แล้วก็ชะโงกหน้ามองคุณแบงค์ พอไฮน์เห็นก็ตกใจ ทีแรกก็คิดว่า คุณแบงค์พาแฟนมาหรือเปล่า แต่ว่าถ้าพามาพร้อมกันก็ต้องเห็นตั้งแต่แรกแล้วสิ แล้วไฮน์ก็ถามคุณแบงค์ว่า ที่พี่เจอคือ เสื้อยีนส์กางเกงยีนน์ขายาว ผมยาวๆใช่มั๊ย คุณแบงค์ก็ตอบว่า ใช่ ไฮน์ก็บอกอีกว่า ผมเจอก่อนพี่ แต่ผมพูดไม่ได้จริงๆ

เหตุผลที่ไฮน์ไม่พูด เพราะว่า ตอนที่ไฮน์เรียกคุณแบงค์ครั้งแรก คุณแบงค์ไม่หัน แต่ว่า ผู้หญิงนั้นหันไปมอง พอเรียกครั้งที่ 2 คุณแบงค์ก็ยังไม่เห็น แต่ผู้หญิงมองไฮน์แบบจิกตา และพอเรียกครั้งที่ 3 คุณแบงค์ก็ถามไฮน์ว่ามีอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ชี้หน้าไฮน์ ประมาณว่า มึงเงียบนะ พอครั้งที่สี่ ที่ไฮน์เรียกว่า พี่แบงค์ครับ ปรากฏว่าร่างของผู้หญิงคนนั้นหายไป พอฟังจบ คุณแบงค์ก็บอกไฮน์ไปว่า พี่ไม่ได้โกรธ แล้วก็ถามไฮน์ว่าปลอดภัยนะ ไฮน์ก็ตอบว่า ปลอดภัย แล้วคุณแบงค์ก็เล่าให้ฟังว่าเจออะไร

ทีนี้ก็รุ่นน้องเจ้าของห้อง ที่บอกให้พาเพื่อนมาด้วยนะ กันพลาด คุณแบงค์ก็โทรหารุ่นน้องคนนี้ ชื่อว่า ต้น พอโทรหาต้น ต้นก็พูดคำแรกว่า เจอแล้วใช่มั๊ยพี่ คือต้นรู้อยู่แล้ว แล้วต้นรู้ว่าคุณแบงค์ไม่เชื่อเรื่องผี คิดว่าถ้าไม่เชื่ออาจจะไม่เจอ แล้วต้นก็เล่าเรื่องให้คุณแบงค์ฟังว่า วันแรกที่เข้าไปอยู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอวันที่ 2 เสื้อผ้าที่อยู่ในตู้กระจายมาอยู่ตรงพื้นหมดเลย ต้นก็เข้าใจว่า ยามต้องเข้ามารื้อห้องตอนที่เขาหลับ แต่ไม่มีของมีค่าหาย จนมาคืนที่ 3 ต้นก็นอน พอนอนๆอยู่ เหมือนว่า มีอะไรเฉี่ยวจมูก พอต้นลืมตามาก็เห็นสิ่งที่เฉี่ยวจมูกของต้นคือ เท้าของผู้หญิง เป็นผู้หญิงผูกคอตายอยู่กับพัดลมเพดานซึ่งพัดลมหมุนอยู่ แล้วปลายเท้าก็เลยแกว่งมาโดนจมูกของต้นพอดี ต้นก็มองตาค้างอยู่แบบนั้น จนผู้หญิงกระตุกตัวแรงๆเหมือนจะให้หลุดลงมา พอต้นเห็นแบบนั้นก็สลบไปเลย ตื่นเช้ามาก็ไม่อยู่แล้ว ค่ามัดจำก็ไม่เอาแล้ว

แล้ววันถัดมา คุณแบงค์ก็กลับมาเอาทองที่ลืมไว้บนหัวนอน แล้วก็มาเจอลุงยาม ลุงยามก็เรียกคุณแบงค์ว่า น้อง เข้ามาคุยกันในห้องดีกว่า พอพี่ให้สัญญาณน้องเข้าห้องนะ แล้วเขาก็สวดอะไรงึมงัมๆแล้วก็เป่าไปที่มือ แล้วก็จับลูกบิดเปิดประตูเข้าห้องเลยแล้วเขาก็บอกอให้เข้ามาเลย คุณแบงค์ก็รีบเข้าไป เขาก็ปิดประตูล็อคห้อง ซึ่งห้องของเขาที่ชั้นล่าง มีดินสอพองเขียนทั้งห้องเลย เขาบอกว่าเขาอ่ะเป็นพระมาก่อน สึกออกมามาทำงานเป็นยาม

ซึ่งแรกๆที่มาอยู่เนี่ย โดนทุบห้องบ้าง โดนเตะบ้าง โดนบีบคอบ้าง ลุงยามท่านนี้ก็เลยเปลี่ยนไปทำงานกะกลางคืน ตอนกลางวันก็นอน ก็ดีขึ้นมาหน่อย บางทีเขาก็มานั่งร้องห่มร้องไห้ ลุงยามก็เล่าให้ฟังอีกว่า ผู้หญิงคนนี้ ตะก่อนเขาอยู่ด้วยกัน ผัวเมีย แล้วผัวหนีตามเมียน้อยไป เสร็จแล้วผู้หญิงเขาก็รักผัวเขามาก เขาก็ไม่รู้ว่า ทำไมผัวถึงทิ้งเขาแล้วเขาก็ทำใจไม่ได้ เขาก็ใส่เสื้อผ้าที่ผัวซื้อให้ แล้วก็ขึ้นไปผูกคออยู่ในห้องนั้น แล้วก็มีการเคยให้พระมาเชิญวิญญาณให้เขาไปสู่สุขคติ แต่ก็ยังมีคนเจอกัน จนกระทั่งเอาร่างทรงมา ร่างทรงก็บอกว่า เนี่ย เขาอ่ะอยากไป แต่เขาอยากจะเคลียร์กับสามีเขาหน่อยว่า ทำไมถึงทิ้งเขา

ตอนนั้นคุณแบงค์ก็เริ่มที่จะรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้น แล้วคุณแบงค์ก็ถามลุงยามว่าผัวของเขาชื่ออะไร ซึ่งงานที่คุณแบงค์ทำก็สามารถที่จะพอหาข้อมูลได้บ้าง ก็เลยไปเช็คข้อมูลได้ว่า ผู้ชายคนนี้อาศัยอยู่ที่บ้านแพ้ว สมุทรสาคร คุณแบงค์ก็ตามไปที่บ้านหลังนี้จนมาเจอบ้านเขา คุณแบงค์ก็เลยบอกเขาไปว่า พี่ แฟนพี่ รอเจอพี่อยู่นะ เขาไม่ทำอะไรพี่หรอก เขาแค่อยากคุยกับพี่ พี่ช่วยไปคุยหน่อยได้มั๊ย พี่ผู้ชายก็พูดดีนะบอกว่า “อ่ะ น้องได้ป่ะ พี่จะไปคุยให้ ถ้าไปคุยแล้วมันจบ แต่มึงรับปากกูได้มั๊ย ว่ากูไปแล้วกูจะปลอดภัย ถ้ากูตายไปลูกเมียกูจะอยู่ยังไง” แล้วก็เอาขันเอาอะไรขว้างใส่คุณแบงค์ แล้วก็ไล่คุณแบงค์ออกจากบ้าน คุณแบงค์ก็เลยถ่ายรูปบ้านเขา จดที่อยู่บ้านเขา แล้วก็ปริ๊นท์รูปใส่กระดาษ และเขียนที่อยู่ไว้บนกระดาษแล้วก็กลับไปที่ห้องที่ผู้หญิงผูกคอตายอีกครั้งนึง แล้วก็วางกระดาษนั้น

ที่กลางห้อง ยกมือไหว้ แล้วคุณแบงค์ก็บอกว่า “พี่ ผมช่วยพี่ได้แค่นี้นะ พี่ไม่ต้องมาขอบคุณอะไรผม ผมกลัวพี่แล้ว เอาว่าเราช่วยกันก็แล้วกัน” หลังจากนั้นคุณแบงค์ก็บวชเลย เพราะตอนนั้นคุณแบงค์ก็อายุ 25 แล้วด้วย พอคุณแบงค์บวชก็ไม่เจออะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีกเลย พอไปสอบถามข้อมูลที่บ้านที่ลุงยามอยู่ ปรากฏว่าไม่มีใครเจออะไรเลย แต่ว่าคุณแบงค์ไปดูที่บ้านแพ้ว ที่ผู้ชายคนนั้นอยู่ ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นย้ายบ้านไปแล้ว

ทุกอย่างมันเหมือนว่าจะจบแล้ว จนคุณแบงค์ก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ว่าเมื่อ 1 อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมา ตอนแรกคุณแบงค์ก็นอนอยู่แล้วก็ฝันถึงผู้หญิงคนนั้น เขาบอกคุณแบงค์ว่า คุณ ช่วยฉันอีกอย่างได้มั๊ย คุณแบงค์ก็ถามว่า คุณเป็นใครอ่ะครับผู้หญิงก็บอกว่า คุณจำฉันไม่ได้หรอ เขามาในชุดเดิม แต่ตอนนั้นคุณแบงค์ก็ลืมเรื่องนั้นไปแล้ว แล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกอีกว่า ฉันอยากฝากคุณบอกให้ทีว่า “หนียังไง ฉันก็ตามเจอ” คุณแบงค์ก็รับปากไปส่งๆว่า เดี๋ยวผมบอกให้ละกัน พอเช้ามาคุณแบงค์ก็ลืม พอคืนถัดมาคุณแบงค์ก็ฝันอีก ฝันเหมือนเดิมแต่เขาดูค่อนข้างที่จะหงุดหงิด จนวันที่ 3 คราวนี้เขามาแรง เขาบอกว่า “กูบอกให้มึงบอกให้กู ทำไมมึงไม่บอกให้กู” คุณแบงค์ก็ถามว่า แล้วผมจะไปบอกยังไง ผมก็ไม่รู้ที่อยู่ เขาก็บอกว่า กูไม่สน มึงต้องบอกให้กู แล้วคุณแบงค์ก็ตื่น แต่พอคุณแบงค์ตื่น ผู้หญิงคนนั้นก็นั่งอยู่บนที่นอน มองหน้าคุณแบงค์และชี้หน้า แล้วก็พูดว่า “มึงต้องบอกให้กู” แล้วเขาก็หายไป

แล้วคุณแบงค์ก็ฝันอยู่แบบนี้ทุกคืน จนคุณแบงค์ติดต่อมาทางรายการ The Shock เพื่อที่จะมาเล่าเรื่องนี้ เพราะคิดว่า น่าจะเป็นทางเดียวที่คุณแบงค์จะบอกกับผู้ชายคนนั้นได้ อาจจะเป็นเขาหรือญาติๆเขาที่ฟังอยู่ก็ได้ หวังว่าญาติๆคงจะพอรู้เรื่องบ้างว่าที่ผู้ชายคนนั้นย้ายบ้านหนีก็น่าจะพอรู้เรื่องบ้าง จากตอนที่คุณแบงค์เอากระดาษไปวางไว้ให้กับวิญญาณดวงนี้แล้ว พอ 1 อาทิตย์ต่อมาผู้ชายคนนั้นก็ย้ายบ้านหนีไปแล้ว เหมือนกับว่าวิญญาณตามไปแล้ว แล้ววันที่คุณแบงค์โทรมาเล่านั้น คุณแบงค์หลับไปแล้ว ทีนี้เขามาอีกประมาณว่า ทำไมมึงไม่ช่วยกู แต่พอคุณแบงค์ตื่นขึ้นมา เขาก็อยู่บนตัวคุณแบงค์ แล้วก็เอามือจับตรงบ่าและเขย่า ซึ่งปกติแล้วไหล่ขวาของคุณแบงค์จะหลุดง่าย เพราะเคยเกิดอุบัติเหตุ แล้ววิญญาณดวงนั้นเขาก็เขย่าบ่าคุณแบงค์จนไหล่หลุด คุณแบงค์ก็บอกว่า ผมจะช่วยๆ แล้วเขาก็ลุกออกจากตัวคุณแบงค์ไป

จนคุณแบงค์ได้มาเล่ากับทางรายการ The Shock คุณแบงค์ก็บอกผ่านทางรายการว่า “คุณวิทย์(เป็นชื่อของผู้ชายคนนั้น)ครับ ถ้าคุณฟังตรงนี้อยู่นะ ถ้าจะให้คุณไปตรงนั้นคุณคงจะไม่กล้าไปหรอก แต่ผมอยากรบกวนคุณนิดนึง เพราะผมเจอเหตุการณ์หนักๆผมก็ไม่ไหว คุณช่วยจุดธูปก็ได้ บอกเขาหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณต้องทำแบบนั้นกับเขา จะขอโทษหรือจะอะไรเขา คุณทำเลย การหนีมันไม่ได้ช่วยหนีปัญหาอะไรทั้งสิ้น มันทำให้ผมกลัวไปกับคุณด้วย แล้วผมบอกเลย ถ้ายังเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่ ถ้าคุณยังอยู่ในสมุทรสาคร วันนึงผมเจอคุณ คุณกับผมได้คุยกันแน่”