สาวชุดดำ

สมปอง  เดินทางเข้ามาทำงานด้วยการเป็นคนขับรถแท็กซี่ แต่มาไม่นานก็ต้องเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีผู้โดยสารใช้บริการ เขาวิ่งรถมา 2-3 วันแล้ว เงียบกริบจนเขาเองก็ท้อ

วันนี้สมปองขับรถวนไปทั่วก็ยังไม่มีผู้โดยสาร ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เขาต้องรีบกลับบ้านเพราะจะติดเคอร์ฟิว เขาขับรถไปด้วยอารมณ์หดหู่สุดชีวิต ในใจก็คิดว่า ถ้ายังเป็นอย่างนี้อีกเขาคงต้องกลับบ้านไปทำนาเสียแล้ว ขืนอยู่ต่อไปคงอดตายเป็นแน่แท้

21.30 น.

วันนี้สมปองก็ต้องตีรถเปล่ากลับบ้าน วันนี้ไร้วี่แววผู้โดยสารอีกแล้ว  ทุกคนกลัวโรคระบาด งดเดินทาง ล็อคดาวน์ประเทศ เขามองถนนที่วิ่งอย่างว่างเปล่าไปตามถนนที่ค่อนข้างเงียบเชียบ ไฟทางอยู่ห่างกันและริบหรี่เต็มที จนกระทั่งรถขับผ่านวัดๆหนึ่ง

“สาธุ วันนี้ขอให้ลูกได้ลูกค้าด้วยเถิด เพี้ยง!!”

พลันสายตาเขาก็ไปเจอร่างนึงที่ยืนอยู่ข้างทาง ไฟรถส่องไปปะทะเป็นผู้หญิงผมยาวท่านหนึ่ง กำลังโบกมือช้าๆ สมปองดีใจมาก ค่อยๆชะลอรถเทียบข้างทาง เมื่อเข้าไปใกล้ เขาตกใจเล็กน้อย สาวเจ้าผมยาวแถมผมเผ้ารุงรัง ตัวขาวซีดใส่ชุดเดรสสีดำคลุมเข่า ก้มหน้า มองไม่ชัด

“ไปไหนครับ”

“ซอย… ”

 “ได้ครับ  เชิญ..”

สมปองอ้าปากค้างไปนิดนึง เขายังไม่ทันพูดจบหญิงสาวขึ้นมานั่งตั้งแต่ตอนไหน แถมไม่ได้ยินเสียงปิดประตูรถด้วย แต่ด้วยเวลาใกล้จะเคอร์ฟิวแล้ว เขาจึงรีบไปยังจุดหมายและเป็นความโชคดีที่ว่าทางที่เขาจะไปเป็นทางเดียวกันกับทางกลับบ้าน

ตลอดทางเขาพยายามชวนคุย สาวเจ้าเอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่ตอบ จนรถเคลื่อนมาถึงซอยที่เธอบอก ก็พบกับวัดหนึ่ง เธอบอกให้เขาขับเข้าไปตามถนนที่ตัดเข้าวัด แต่ไม่เท่าไหร่ก็เจอกับทางตันมีเพียงกำแพงวัดที่เต็มไปด้วยรูปผู้เสียชีวิต เขารู้สึกกลัวมาก หันไปหาผู้โดยสารเธอหายไปแล้ว เขาจึงรีบออกรถ และด้วยอารมณ์ตกใจ แทนจะใส่เกียร์ถอยกับเหยียบคันเร่งจนชนเข้ากับกำแพงวัดที่บรรจุรูปคนตายพอดี

สมปองเปิดประตูไปดูว่าเขาชนอะไรไป ก็มองเห็นว่ากำแพงวัดแตก ช่องที่บรรจุอัฐิเปิดออก เขาเดินไปเห็นรูปหญิงสาวก็ขนลุก เธอคือคนเดียวกับที่เขารับขึ้นรถมาแน่ ๆ ถึงจะเห็นไม่ชัดแต่เขาจำได้ถนัด

ตุ๊บ!!

เสียงเหมือนมีอะไรหล่นลงมาที่หน้ากระโปรงรถ สมปองหันขวับทันที เขาก็พบกับร่างหญิงสาวในชุดเดรสสีดำ แต่ตอนนี้ร่างกายผิดรูป แขนหัก ขาหัก พยายามพยุงกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก และคลานลงจากรถของเขาตรงมาที่สมปองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้มือจับที่ข้อขาของเขา เป็นผลทำให้เขาล้มลงก้มจ้ำเบ้าอย่างแรก พร้อมทั้งแหกปาก ให้คนช่วยเสียงดัง ฉี่ราดกางเกงอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะได้ยินเสียงผีสาวพูดก

“มาอยู่ด้วยกันเถอะ มาอยู่กับหนูเถอะ ฮี่ๆๆ”

อ๊ากกกกกกกก

สมปองร้องสุดเสียง ก่อนที่สติสัมปะชัญญะทุกอย่างจะดับวูบลง

รุ่งเช้า ท่านเจ้าอาวาสให้ชาวบ้านมาช่วยปฐมพยาบาลสมปองจนฟื้นคืนสติ แต่หลังจากได้สติสมปองมีอาการตื่นกลัว ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ร้องแต่กลัวๆๆๆ จนท่านเจ้าอาวาสท่านต้องทำน้ำมนต์มาปะพรมให้ ผ่านไปนับชั่วโมงจึงมีสติกลับคืนมาได้

เมื่อได้สติ จึงค่อยๆเล่าให้ท่านเจ้าอาวาสและชาวบ้านฟัง ทุกคนมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะมีมัคนายกเล่าให้ฟังว่า หญิงสาวที่สมปองเจอน่าจะเป็น ส้ม เด็กสาวที่เสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน

ท่านเล่าให้ฟังว่า ส้ม บ้านอยู่ถัดจากวัดไป 200 เมตร วันนั้นดึกแล้ว ส้มน่าจะกำลังกลับบ้านจึงโบกรถแท็กซี่ให้มาส่ง แต่แท็กซี่คันนั้นคิดไม่ดีจะพาเธอไปข่มขืน แต่เธอน่าจะไม่ยอมพยายามต่อสู้ตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้งคู่น่าจะทะเลาะกัน เลยทำให้รถเสียหลักชนต้นไม้ตรงใกล้ๆกับที่สมปองจอดรับ แต่รถเกิดติดไฟ ตัวคนขับหนีออกมาได้ ส้มติดในรถออกไม่ได้ถูกไฟคคลอกตาย ศพก็มาทำพิธีที่วัดนี้และเอาอัฐิไปใส่ช่องกำแพงที่รถคุณชนนั้นแหละ หลังจากนั้นก็มักจะคนเจอเธอมายืนโบกรถอยู่ข้างทางเสมอ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ โดนหลอกประจำ

หลังจากนั้น สมปองก็ซ่อมและคืนรถกับอู่ เดินทางกลับบ้านไปทำไร่ไถนา แต่ก่อนกลับไม่ลืมที่จะไปขอขมาส้มและซ่อมแซมกำแพงวัดให้เรียบร้อย