เรื่องเล่าผี: เมื่อที่บ้านฉันขาย “โลงศพ”

เรื่องเล่าผี เรื่องนี้เดิมทีมีที่มาจากรายการ the shock ในปี 2015 ซึ่งเจ้าของเรื่องเล่าชื่อ “คุณหมวย” ได้โทรไปบอกเล่าประสบการณ์ผีๆ จากการที่ที่บ้านทำกิจการเปิดร้าน “ขายโลงศพ” และได้พบเจอกับสิ่งที่อธิบายไม่ได้หลายเหตุการณ์

เรื่องเล่าผี จากปากคำของลูกสาวร้านขายโลงมีอยู่ว่า…

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาในชีวิตของ “หมวย” ซึ่งเล่าเรื่องผีผ่านรายการชื่อดังอย่าง “the shock” ว่าเดิมทีหมวยอาศัยอยู่กับคุณยายในภาคเหนือ แต่แล้วตอนประถมปีที่ห้า หมวยต้องย้ายไปอยู่กับแม่ที่จ.นครราชสีมา ซึ่งที่นั่นเป็นกิจการร้านขายโลงศพ โดยเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้น ร้านนี้จะติดกันสองคูหา โดยที่คูหาแรกจะเต็มไปด้วยโลงศพแบบต่างๆที่วางเรียงรายกันแน่น จนมีเพียงทางเดินแคบๆให้เดินเข้าไปได้เท่านั้น ส่วนอีกคูหาจะเป็นส่วนที่จัดวางสินค้าสังภัณฑ์สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ตอนมาแรกๆหมวยยอมรับว่ารู้สึกกลัวมาก เพราะนอกจากบ้านที่เต็มไปด้วยโลงศพแล้ว ตามแต่ละมุมของอาคารจะมีผ้ายันต์แปะเอาไว้จนทั่ว อย่างไรก็ตามหมวยก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยพบเจอหรือไม่เข้าใจในเรื่องเหล่านี้ เวลาที่หมวยได้ไปยังสถานที่แปลกถิ่นใดๆ ก็มักจะบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง หรืออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองอยู่เสมอ ด้วยถูกสอนมาเช่นนั้น

กระทั่งช่วงบ่ายของวันหยุดวันหนึ่ง ขณะที่หมวยอยู่ในอาคารคูหาแรกคนเดียวซึ่งเป็นที่ที่ใช้จัดเรียงโลง โดยที่ทั้งแม่กับอาทำธุระขายของกันอยู่อีกคูหาหนึ่ง ตอนที่ตนกำลัง่องกระจกอยู่นั้นก็มีเสียงเสียงหนึ่งกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู เรียกด้วยชื่อของเธอ “หมวย….” แม้จะเป็นแค่ลมเย็นเพียงแผ่วเบา แต่มันทำให้หมวยถึงกับขนลุกชูชันขึ้นทั้งตัว ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นนอกจากเธอ และถึงว่าจะเป็นช่วงบ่ายแต่เนื่องจากโลงที่ตั้งเรียงรายแน่นขนัด จนแม้แต่แสงแดดก็ส่องเข้ามาไม่ถึง ห้องด้านในจึงมืดขมุกขมัว ชวนให้หมวยนึกได้เพียงว่า….นี่ไม่น่าจะใช่เสียงคนแล้วล่ะ เป็นที่มาของ เรื่องเล่าผี เรื่องแรกของหมวย

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดไปมากกว่านั้น เสียงเดิมก็แว่วเข้ามาอีก แต่คราวนี้ไม่ต้องรอให้คิดออก เธอมั่นอย่างนึงว่า…อยู่ตรงนั้นไม่ได้แล้ว! กระทั่งวิ่งหนีมาหาแม่ที่อีกคูหานึงที่อยู่ติดกัน หมวยถามแม่อย่างไม่ค่อยอยากได้คำตอบ อาจจะเพราะรู้อยู่แล้ว

“เมื่อกี้…แม่ได้ไปเรียกหนูรึเปล่า!”

แน่นอนว่าเปล่า! แม่ไม่ได้เดินเข้าไปในนั้นด้วยซ้ำ อีกทั้งเธอย่อมจำเสียงของแม่ได้ เสียงของแม่ค้าที่มีเอกลักษณ์ที่หนักหน่วงตามแบบฉบับ ซึ่งต่างกับเสียงหวานเย็นเยียบที่เธอได้ยินอย่างชัดเจน หากใครได้ทันฟังเรื่องผีเดอะช็อคเรื่องนั้นกัน คงต้องขนลุกอยู่แน่ๆ

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ว่านั้นยังคงคาอยู่ในใจของหมวยมาอีกหลายปีกระทั่งขึ้นม.ปลาย เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน หมวยกลับบ้านมาแล้วขึ้นไปชั้นสองยังห้องของเธอที่อยู่ทางด้านหลัง วันนั้นอากาศร้อน เธอจึงเปิดประตูห้องนอน รวมถึงประตูห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าและประตูกระจกระเบียงห้องนั้น เพื่อให้อากาศไหลผ่าน เนื่องจากประตูทั้งสามบานตั้งอยู่ในแนวเดียวกัน เธอล้มตัวลงนอนด้วยความเพลียอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเดินผ่านไปสู่ทางเดิบนชั้นสอง ตรงไปทางระเบียง เธอเข้าใจว่าคงเป็นแม่ของเธอเลยทักออกไปว่า “แม่เหรอ จะเก็บผ้าห่มที่ตากไว้ใช่มั้ย ไม่ต้อง…เดี๋ยวหนูเก็บเอง”

แต่ครั้นพยายามจะลุกเธอก็ลุกไม่ขึ้น ทำได้เพียงลืมตามองไปทั่วๆ จนสังห็นเงาดำๆวิงไหวไปมารอบเตียง ทั้งยังกระโดดขึ้นลงเตีงของเธอ เสียงเด็กเล่นหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน หากแต่เธอไม่ได้สนุกด้วย จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายมาตะคอกใส่ข้างหูเธอ เป็นภาษาที่เธอไม่รู้จัก หมวยพยายามดิ้นรนขยับร่างแต่ไม่มีการตอบสนอง จะร้องตะโกนออกไปก็ทำไม่ได้ เสียงยังคงดังอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนจะดังขึ้นกว่าเดิม หมวยพยายามตั้งสติและพูดในใจว่า “ไม่ก็หรอก ถ้าแน่จริง จะทำอะไรก็ทำสิ” ในที่สุดเธอก็กลับมาขยับร่างกายได้อีกครั้ง ดูเหมือนความมุ่งมั่นกล้าหาญของเธอจะได้รับรางวัลตอบแทน

หลังพยายามตั้งสติอยู่นาน คิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น พอมองไปรอบๆห้องก็สังเกตว่า หน้าต่างห้องเธอเปิดอยู่และวิวที่อยู่ข้านอกก็เป็นตึกโรงพยาบาลพอดี ใช่แล้วอาคารหลังนี้อยู่ติดกบรั้วโรงพยาบาลแห่งหนึ่งนั่นเอง อีกทั้งหน้าต่างห้องยังตรงกับห้องดับจิตพอดีอีกด้วย มันเรียงเป็นแนวกันไปจนถึงหน้าระเบียง อาจจะเป็นนี่ก็ได้ ที่เค้าเรียกกันว่า “ทางผีผ่าน” สินะ บางทีมันอาจจะบังเอิญเชื้อเชิญให้วิญญาณเข้ามา แล้วเธอไปนอนขวางทางพอดีก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม…นี่ยังไม่ใช่ เรื่องเล่าผี สุดท้ายของเธอ!

หลังจากวันนั้นหมวยก็ย้ายไปนอนกับแม่และน้องที่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งห้องนอนมีเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียงติดกัน คืนนั้นมีหมวย แม่ น้อง และอาสาวอยู่ด้วยกัน แม้จะมีคนอยู่เยอะ แต่จะว่าไปแล้ว หมวยรู้สึกว่าอาคารหลังนี้น่ากลัวกว่าหลังที่ใช้เก็บโลงศพที่เธอเคยนอนอีก แม้จะอธิบายไม่ได้แต่เธอรู้สึกได้ ที่บริเวณเพดานมุมห้องจะมีรอยคราบที่เกิดจากน้ำฝนซึมลงมาจากโดนฝ้า แต่ความรู้สึกลึกลับที่สัมผัสมันก็ทำให้หมวยมองเห็นรูปใบหน้าผู้หญิงที่มีแววตาเศ้าสร้อย และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

ขณะที่เธอนอนอยู่ จู่ๆก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงคนคุยกัน เสียงนั้นหมวยรู้จักดีเป็นเสียงของแม่และอา แต่บทสนทนานี่สิแปลก เพราะหลังพยายามจับใจความเงี่ยหูฟัง พบว่าคนทั้งคู่กำลัง “เล่าเรื่องผี” กันอยู่นี่สิ แถมเรื่องที่เล่าก็ชวนสยองจนขนลุกไปทั้งตัว หากแต่หมวยก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาดูหรือถาม เพราะเกรงว่าพอลุกขึ้นมาแล้ว…จะเห็นว่าแม่กับอานอนอยู่เฉยๆนี่สิ! และเช้าวันนั้นหมวยก็ถามแม่กับอาว่า

“เมื่อคืนนึกยังไงกัน ถึงลุกขึ้นมาเล่าเรื่องผีกันกลางดึก”

คำตอบที่ออกมาจากปากคนทั้งคู่ ทำให้หมวยสะพรึงยิ่งกว่าเรื่องผีไหนๆ

“เปล่า ไม่มีนะ…ใครจะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนั้น ก็นอนกันปกติดีนี่”

บทสรุปของ เรื่องผีเดอะช็อค …

ภายหลังนี้ให้คนเช่า โดยได้สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นผู้เช่าซึ่งก็พบเจอกับเรื่องที่ไม่สามาถอธิบายได้เช่นกัน คืนหนึ่งผู้ชายนอนๆอยู่ก็มีผีผู้หญิงมานอนกอดด้วย! หรือคนผู้หญิงที่เคยเห็นผีสาวนั่งอยูริมระเบียง อย่างไรก็ตาม มันเป็นความเคยชินของหมวยไปแล้ว โดยปกติเวลาก่อนที่จะขายโลงได้หรือมีคนมาซื้อ มักจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกันว่า “โลงลั่น” กล่าวคือจะมีเสียงเหมือนใครมาเคาะๆโลง หรือกระทั่งแม่ของหมวยเองยังเคยเจอวิญญาณมาขอซื้อโลงที่ร้าน ก่อนญาติจะมาซื้อให้ซะอีก! และนี่ก็คือ เรื่องเล่าผี ทั้งหมดที่เจอมา

ขอบคุณที่มาจากกระทู้ผีพันทิป : https://pantip.com/topic/36304736

อ่านเรื่องเล่า เรื่องผีเดอะช็อค เรื่องอื่นๆ >> คลิก

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์