เรื่องผี the shock | คุณไสยในกุฏิพระ ประสบการณ์จำวัดสุดหลอน

เรื่องผี the shock เรื่องนี้ เป็นเหตุการที่ “คุณเบน” ได้เล่าไว้ในรายการ the shock 13 fm ในชื่อเรื่องว่า “ทางผีผ่าน” โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนี่คุณเบนและน้องชายไปบวชและได้ที่พักเป็นห้องหนึ่งบนชั้นสองของกุฏิที่ว่างอยู่ แต่ภายในห้องที่ว่ากลับมีของบไางอย่างที่ดูเหมือนว่าจะถูกเตือนเอาไว้ว่า “ห้ามแตะต้องอย่างเด็ดขาด” จนน่าสงสัยว่า ของเหล่านั้นหรือแม่กระทั่งห้องนี้ เคยใช้ทำอะไรมาก่อน…

เรื่องผี the shock ประสบการณ์จำวัดในห้องที่เคยใช้ทำคุณไสยมนต์ดำ

เรื่องผีเดอะช็อคจากประสบการณ์ของคุณเบนผู้เล่า ครั้งเมื่อคุณเบนและน้องชายไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยที่พระพี่เลี้ยงก็พาทั้งคู่ไปพักที่กุฏิบนชั้น 2 อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเบนเข้าไปยังห้องดังกล่าวก็รู้สึกแปลกใจ เนื่องจากห้องอื่นๆจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานตั้งไว้ในทุกห้อง แต่ห้องที่ตนได้กลับมีบาตรที่มีลายเหมือนอักขระอาคมเขียนเอาไว้แทน

บาตรที่ว่ายิ่งดูไม่ชอบมาพากลเข้าไปอีก เมื่อพระพี่เลี้ยงกำชับอย่างหนักแน่นว่า “ห้ามไปแตะต้องบาตรนั่นเด็ดขาด” แต่คุณเบนในตอนนั้นก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นจนถึงขนาดจะออกปากถามว่าบาตรนั่นมันคืออะไร จนกระทั่งตกดึก คุณเบนกับน้องก็จัดแจงธุระส่วนตัวก่อนที่จะฝึกท่องบทสวดสำหรับประกอบการบิณฑบาตรในเช้าวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามคุณเบนพึ่งสังเกตเห็นว่า หากมองออกไปทางหน้าต่าง ห้องนี้จะมีทิศทางที่ตรงกันกับ “ทางสามแพร่ง” ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักพอดี

ขณะที่ทั้งคู่ยังคงฝึกท่องบทสวดกันอย่างขะมักเขม้น จนถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่า การออกเสียงด้วยกันจะทำลายสมาธิของกันและกันเสียมากกว่า จึงแยกย้ายกันไปฝึกโดยที่คุณเบนท่องบทสวดอยู่ในห้อง ส่วนน้องชายหรือคุณแบล็คออกไปท่องอยู่หน้าห้อง กรั่ผ่านไปสักพักหนึ่งคุณเบนก็ได้ยินเสียงของพระพี่เลี้ยงลนลานพูดขึ้นว่า “พระแบล็ค โต๊ะตัวนี้ก็นั่งไม่ได้นะ ห้ามแตะต้องเด็ดขาด เมื่อกี่หลวงพี่ลืมบอก” คุณเบนจึงออกไปดูและพบว่าน้องชายนั่งท่องบทสวดอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งตั้งว่างๆอยู่หน้าห้อง ทั้งคู่ทำตามคำขอด้วยดี แต่คุณเบนอดคิดในใจไม่ได้ว่า…อะไรกัน ทำไมข้อห้ามเยอะแยะไปหมด แม้กระทั่งการแตะต้องข้าวของเครื่องใช้ในห้อง ดูผิดธรรมชาติพิกล คุณเบนจึงชวนคุณแบล็คน้องชายลงมาท่องด้านล่างกุฏิ

พอลงมาด้านล่างกุฏิ ก็พบกับหลวงพี่อีกท่านนึง ยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเองก่อนจะสอบถามว่าทั้งคู่พักอยู่ห้องไหน คุณเบนจึงชี้ขึ้นไปยังห้องบนชั้น 2 ของกุฏิแล้วบอก หลวงพี่ท่านนั้นเห็นแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยพรางหัวเราะร่วน “ห้องนี้เองเหรอ ตรงข้ามกับห้องอาตมาพอดีเลย” คุณเบนเห็นท่าทางนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ จึงพยายามสอบถามว่าที่ห้องนั้นเคยมีประวัติอะไรหรือเปล่า ทีแรกหลวงพี่ก็เหมือนจะเลี่ยงๆ กระทั่งพอถูกถามซ้ำก็ตอบว่า “ถ้าจะให้อาตมาเล่าให้ได้ ท่านทั้งสองอย่ากลัวนะ…” คุณเบนกับน้องกับตบปากรับคำ หลวงพี่ก็เล่าให้ฟังว่า ห้องนั้นมีประวัติจริง! ก่อนหน้านี้พระเจ้ากุฏิเก่าเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีคุณไสย โดยนำร่างผีตายโหงมาไว้ในห้อง ก่อนที่จะมรณะภาพไป! โดยเฉพาะโต๊ะที่คุณแบล็คน้องชายนั่งเมื่อสักครู่ เคยเป็นที่ที่ใช้วางศพพอดิบพอดี

คุณเบนกับน้องชายได้ฟังแล้วก็หักห้ามความกลัวไม่ได้จริงๆ คิดแต่เพียงว่า แบบนี้นอนไม่ได้แน่ๆ จึงตัดสินใจนำหมอนผ้าห่มลงมาขอนอนในกุฏด้านล่าง ปรากฏว่ากุฏิด้านล่างก็มีพระหลวงพี่นอนอยู่ 2 รูปแล้ว ซึ่งรูปหนึ่งควรจะต้องนอนในชั้น 2 ที่ว่านั่น แต่ก็ไม่สามารถนอนได้เช่นกันจนต้องหนีลงมานอนข้างล่างแทน อย่างไรก็ตามหลวงพี่ท่านก็ได้อนุญาตให้นอนด้วยกันได้ กระทั่งตกดึกมีเพียงคุณเบนเท่านั้นที่ยังตื่นอยู่ เมื่อสังเกตไปรอบห้องก็พบว่าพระรูปอื่นๆกระทั่งน้องชายหลับไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรตนก็ไม่อาจจะข่มตาหลับได้หลังได้รบฟังเรื่องชวนขนลุกดังกล่าว

ระหว่างที่พลางครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย คุณเบนก็ได้ยินเสียงคล้ายกับ “มีใครบางคน?” เดินย่ำไปมาอยู่บนห้องชั้นบน ที่ซึ่งไม่ควรจะมีใครอยู่บนนั้น คุณเบนกวาดสายตาไปรอบห้อง ครั้นจะปลุกหลวงพี่ขึ้นมาฟังก็เกรงใจ จึงสะกิดน้องข้างๆแทน แต่ทันทีที่น้องลืมตาตื่นขึ้นมา…จู่ๆก็เกิดสะดุ้งตกใจอย่างรุนแรงราวกับเจอผีสางนางไม้ จนรีบผงะถอยครูดเข้าไปติดหลวงพี่ จนหลวงพี่ต่างรู้สึกตัวและเปิดไฟในห้องจนสว่างไปทั่ว คุณเบนสอบถามน้องว่าเกิดอไรขึ้น เป็นอะไรไป แต่คุณแบล็คน้องชายก็สงบลงก่อนที่จะบอกปัดๆไปว่าเปล่า ไม่มีอะไร จึงเป็นอันว่าหลวงพี่ก็ปิดไฟจะนอนต่อ ในระหว่างนั้นเองที่น้องชายสารภาพกับคุณเบนว่า…ตัวเองเจอดีเข้าให้แล้ว!

คุณเบนพยายามสอบถามว่าไปเจออะไรเข้า คุณแบล็คเลยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่คุณเบนปลุกขึ้นมานั้น ตนก็ค่อยๆหรี่ตาขึ้นมา แต่แทนที่จะเห็นหน้าพี่ชาย กลับกลายเป็นหน้าใครบางคนแสยะยิ้มสยองให้แทน! คุณเบนอดรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาซะเฉยๆไม่ได้ ขณะที่หลวงพี่ก็พยายามปลอบว่าอย่าไปคิดมากเลย เดี๋ยวอาตมาจะเฝ้ายามให้ ให้ทั้งคู่นอนพักผ่อนเถอะ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะหลับกันได้ง่ายๆในสถานการณ์เช่นนี้ กระทั่งคุณเบนสังเกตเห็นว่าพระหลวงพี่ที่นั่งเฝ้ายามนั้น ไม่ได้นั่งเฝ้าเฉยๆ แต่ท่องคาถาบทสวดอะไรบางอย่างไปด้วย จึงเริ่มรู้สึกคลายกังวลและหลับไปในที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้นคุณเบนและน้องก็ออกบิณฑบาตและปฏิบัติกิจวัตรของสงฆ์ได้อย่างเป็นปกติ กระทั่งคืนนั้นคุณเบนและน้องก็สวดมนต์แล้วเข้านอนกับหลวงพี่เช่นเดิม ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเดินไปมาอยู่ด้านบนเหมือนเมื่อคืน แต่ที่แย่กว่านั้นคือ…เสียงที่ว่าคล้ายกับค่อยๆย่างฝีเท้าลงมาตามบันได ก่อนที่จะมาหยุดที่หน้าประตูแล้วเดินไปมาอยู่รอบๆ! คุณเบนเล่าว่ารู้สึกเหมือนกับว่ามีใครเข้ามาเดินสวนไปมาอยู่รอบๆตัวในความมืด แม้จะไม่เห็นตัวก็ตาม แต่คงจะมีมากกว่า 3 !! คุณเบนพยายามเรียกหลวงพี่ข้างๆก่อนจะถามถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น แต่หลวงพี่ตอบสั้นๆเพียงว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” แต่คุณเบนไม่สามารถคิดแบบนั้นได้แต่ๆ

เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกคืน จนคุณเบนต้องกินยาช่วยให้นอนหลับอยู่เป็นประจำ กระทั่งคืนที่ 9 เป็นคืนที่มีหลวงพี่บวชใหม่จะมาพักห้องด้านบนที่ว่า คืนนั้นคุณเบนกับน้องก็สวดมนต์เหมือนที่ทำทุกคืน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปมา และขึ้นลงบันไดอยู่ 4 เที่ยว แต่เนื่องจากเริ่มจะชินชาเลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่แล้วจู่ๆคราวนี้ก็มีเสียงเคาะประตูดังลั่นจนตกใจกันทั้งห้อง ปรากฎว่าเป็นหลวงพี่มาใหม่นั่นเองที่มาเคาะ ก่อนที่จะออกปากถามว่า “มีใครมาเคาะประตูห้องอาตมาเล่นหรือเปล่า?” ได้ใจความว่าหลวงพี่ท่านนี้ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู แต่พอเปิดออกไปดูก็ไม่พบใครอยู่หลายรอบ คุณเบนจึงสอบถามว่าคืนนี้หลวงพี่เดินลงมากี่รอบ? ท่านตอบกลับมาว่า “พึ่งจะลงมารอบเดียวนี่แหละ” สรุปว่าหลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ครู่นึง หลวงพี่ท่านนั้นก็ตัดสินใจลงมานอนด้วยกันเพิ่มเป็น 5 รูป

ขอบคุณที่มา เรื่องเล่าผี : https://pantip.com/topic/36405715

อ่านเรื่องผี เดอะช็อค เรื่องอื่นๆ >> กดที่นี่

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์