นี่คือเรื่องผี Pantip ที่พิศวงที่สุดเรื่องนึงเท่าที่เราเคยได้ยินมา เมื่อสมาชิกเว็บไซต์พันทิป “คุณ chocolatebun” ออกมาเล่าประสบการณ์ระทึก หลอน สะพรึงของเหตุการณ์ที่ตนเองถูก “ผีหลอกผ่าน Facebook” เนื่องจากไปขำในขณะที่ดูภาพร่างไร้วิญญาณที่ถูกฟีดผ่านไทม์ไลน์ของเธอ และนี่เป็นชนวนที่ทำให้เธอถูกวิญญาณซึ่งไม่เคยรู้จักหรือพบกันตัวเป็นๆมาก่อน…ตามติดถึงคอนโด!
เรื่องผี Pantip : เจอผีจากไทม์ไลน์ในเฟสที่เพื่อนแชร์มา!
เรื่องเล่าผีเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ราเจอมากับตัวเอง มันเริ่มต้นจากในวันที่เรากำลังไสลด์เฟสบุ๊คไปเรื่อยๆ ก็มีโพสต์นึงของเพื่อนของเราขึ้นมา ซึ่งมันเป็นโพสต์ที่เพื่อนแชร์มาอีกที โพสต์ที่ว่าคือรูปของคนผูกคอสภาพอย่างสยดสยอง โผล่ขึ้นมากลางไทม์ไลน์จนแทบผงะ มีเนื้อข่าวเป็นแคปชั่นขึ้นมากำกับว่า เป็นหญิงสาวชาวสกลนครที่มาทำงานอยู่ที่จ.ภูเก็ต สภาพของร่างเธอเรียกว่า…ดูไม่ได้เลย ขึ้นอืดมาก อย่างไรก็ตาม ในใจเราตอนนั้นสาบานได้ว่าไม่ได้คิดลบหลู่อะไรกับภาพที่เห็น ออกจะรู้สึกสงสาร สังเวชและปลงด้วยซ้ำ
แต่แล้วตาของเราก็ดันไปเหลือบเห็นคอมเมนท์ของเพื่อนอีกคนว่า… “โห เป็นศพแล้วอืดขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย! ขนาดตอนนี้เรายังไม่ตาย ร่างก็อืดจะแย่แล้วนะ”
เราหลุดขำออกมาอย่างที่กลั้นไวไม่ได้ ยอมรับว่าอ่านแล้วขำจริงๆ แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่าเราเองไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ผู้เสียชีวิตเลยนะคะ ตอนนั้นไม่ทันฉุกคิดเลยด้วยซ้ำ
กระทั่งเรากลับมาที่คอนโดของตัวเอง ลักษณะของที่นี่คือเมื่อขึ้นลิฟท์มาแล้วจะพบว่าทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางหนีไฟฉุกเฉิน และที่ทิ้งขยะ ทางขวาก็จะไปสู่ห้องพัก ซึ่งบนชั้นนี้มีเพียงห้องเรากับเพื่อนบ้านอีก 1 ห้อง ประมาณตี 3 ของคืนนั้น เราก็ทำธุระต่างๆไปเรื่อย แล้วก็กะว่าจะเอาขยะไปทิ้งข้างนอก ขาเดินไปทิ้งก้าวแรกก็ไม่มีอะไร พอทิ้งเสร็จหันกลับมา…ก้าวต่อไปเจอเต็มๆ!
สิ่งที่เราพบเจอคือ…ร่างของคนเดียวกันกับที่อยู่ในเฟส! มาปรากฎในสภาพเดียวกัน ท่าเดียวกัน ความบวมและขึ้นอืดเท่ากัน!
บอกตามตรงตอนนนช็อคมาก แทบไม่เชื่อสายตาว่าจะจุดใต้ตำตอ เจอคนที่พึ่งเจอในไทม์ไลน์เมื่อตะกี้ แต่ไม่ได้มาในสภาพคน ขาเราแข็งจนก้าวไม่ออก เหมือนมันไม่ตอบสนองกับความคิดของเราซะแล้ว ตอนนั้นก็พยายามประมวลบทสวดมนต์ที่มีในหัวแล้วท่องไปเรื่อยๆ จนพักหนึ่งตั้งสติได้ก็รีบวิ่งตัดมาเข้าห้องอย่างไวที่สุด โดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองเลย พร้อมจะโกนเรียกเพื่อนซึ่งอยู่ในห้องอีกคน
พอเข้ามาถึงห้องได้ก็พบเพื่อนนั่งหน้าตาตื่น นางก็ถามเราว่าเป็นอะไรๆ บอกตามตรงตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เอาจริงๆคือมันเหลือเชื่อจนเราเองก็ไม่กลาแม้แต่จะกล้าเดินกลับไปเช็คในสิ่งที่เห็นเมื่อกี้เหมือนกัน เราแกล้งกลบเกลื่อนไปว่าไม่มีอะไรหรอก พลางหยิบแก้วน้ำมาดื่มให้ใจเย็นลง คุณพระช่วย! ยังไม่ทันได้ยกดื่ม อยู่ๆแก้วที่ไร้รอยร้าวใดๆก็แตก ‘เปรี๊ยะ’ คามือเราซะอย่างนั้น! เรายิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวมันชักไม่ชอบมาพากลแล้วสิ จึงได้เข้าห้องไปเพื่อที่จะสวดมนต์เงียบๆคนเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะสวดบทแล้วบทเล่าใจเรามันก็ไม่ยอมหยุดสั่น ความกลัว กังวลมันรุมเร้า เลยตัดสินใจพูดกับเพื่อน เพื่อนก็ปลอบว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวเช้าเราไปใส่บาตรกัน อีกไม่กี่ชั่วโมงเอง ทนๆหน่อย
เล่าให้ฟังว่า โดยปกติตัวเราเองเป็นคนมีเซ้นซ์ พูดตรงๆว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก เจออยู่บ่อยๆเหมือนกัน แต่…ไม่เคยมีครั้งไหนที่เห็นชัดเจนเป็นตัวเป็นตนแบบนี้มาก่อน แถมมาในสภาพที่พูดได้ว่า ‘เละ’ เลยแหละ เราพยายามจะคิดหาเหตุผลว่ามันเกิดอะไร เขามาหาได้ยังไง หรือต้องการอะไรจนเครียด แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่ทราบ แต่…เราก็พลาดซะได้ ด้วยความเครียดและเพลีย เนื่องจากตอนเกิดเหตุเกือบตี 3 พอผล็อยหลับก็ยาวเลย เราตื่นไม่ทันใส่บาตรตอนตี 5 แต่ก็นับว่ามีโชคอยู่บ้าง เพราะก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติน่ากลัวๆอีกเลย จนกระทั่ง…คืนที่ 3
คืนนั้นหลังจากที่เข้านอนตามปกติ เราก็ฝัน…ฝันว่าตัวเราเองไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่ง สถานที่นี้มีลักษณะเป็นตึกแถวที่มีห้องพักเรียงราย ส่วนด้านล่างของตึกจะเป็ร้านอาหารตามสั่ง ดูเหมือนตัวเราในฝันกำลังจะขึ้นไปข้างบนตึกเพื่ออะไรสักอย่าง ขณะที่กำลังจะขึ้นไปก็มีผู้หญิงสามคนมาทักเรา พูดถึงชื่อผู้หญิงคนนึงที่เราไม่รู้จัก แล้วถามว่าจะไปหาคนคนนี้เหรอ ขอขึ้นไปด้วยได้มั้ย เราก็ตอบตกลงไปว่าได้ค่ะ เดี๋ยวเราขึ้นไปหาด้วยกัน แต่ขณะที่คุยกันอยู่มีคนดูแลหอนั่งอยู่กับโต๊ะหน้าบันไดทางขึ้น แล้วเรียกทักขึ้นว่า… “ไม่ต้องขึ้นไปหรอก มาดูในกล้องวงจรปิดก็ได้เจอแล้ว…” เราก็ไปดูที่จอมอนิเตอร์ด้วยความสงสัยว่าจะให้ไปดูอะไร ปรากฎว่าเป็นภาพของบันไดทางขึ้นหอพักนี้นั่นเอง แต่ในภาพมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในสภาพคุ้นตา…ใช่แล้ว เป็นคนเดียวกันกับที่เราเจอที่คอนโดนั่นเอง!
เราตกใจร้องกรี๊ดดด และเหมือนจะรู้สึกตัวว่าเรากำลังอยู่ในฝัน สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่เรื่องจริง ก็พยายามจะปลุกตัวเอง ปลุกสติกลับมา แต่พอสะดุ้งตื่นขึ้น..ก็เหมือนยังไม่ตื่น! ราวกับเป็นฝันซ้อนฝันแบบอินเซปชั่น เพราะหลังจากที่ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา คือใบหน้าบวมอืดของเธอแบบระยะโคลสอัพ! ตาปลิ้นลิ้นจุกปากออกมาอย่างงี้เลยล่ะคุณเอ้ย! พูดไม่ออกเลยทีเดียว เราก็หลับตาแน่นพลางภาวนาบอกว่าเราไม่เคยมีอะไรบาดหมางกัน ได้โปรดอย่าจองเวรซึ่งกันและกันเลย เดี๋ยวมีเวลาเราสัญญาจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณโดยเร็วที่สุด
รุ่งเช้าวันนั้น เราตัดสินใจโทรไปปรึกษาเล่าให้แม่ฟังเรื่องราวทั้งหมด แม่ก็กำชับมาเลยว่าให้รีบไปวัดทำบุญให้เขาอย่างเร็วที่สุด เขาคงต้องการความช่วยเหลือ เพราะการกระทำที่จากไปด้วยน้ำมือตัวเองนั้น ย่อมจะเป็นบาปและเป็นบ่วงกรรมผูกรั้งไม่ให้ไปที่ชอบๆได้
หลังจากคุยกับแม่เสร็จ เราฉุกคิดถึงเนื้อหาข่าวที่เพื่อนเคยโพสต์ไว้ยนไทม์ไลน์ เลยเริ่มต้นด้วยการค้นหาข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เลยได้ทราบว่าเดิมทีเธอคนนี้ทำอาชีพนวดอยํ่ที่จ.ภูเก็ต แล้วช่วงหนึ่งได้กลับบ้านเกิดที่จ.สกลนคร แต่ดันกลับไปเจอแฟนเก่าและถูกทำมิดีมิร้ายโดยตัวเองไม่ยินยอม จึงเป็นมูลเหตุให้เธอรู้สึกหมดอาลัยในชีวิตและคิดสั้นในที่สุด ตามข่าวที่ระบุรายละเอียดไว้ตามนี้
หลังจากนั้นเราก็ค้นหาเบอร์ของร้านนวดที่เธอเคยทำงานอยู่ แล้วจึงโทรไป ปรากฎว่ามีผู้ชายที่ร้านรับสาย เลยเล่าคร่าวๆถึงจุดประสงค์ว่าต้องการติดต่อคุณแม่ของผู้หญิงคนนี้ เลยได้เบอร์โทรศัพท์มา จากนั้นเราก็โทรไปทันทีและเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เราพบเจอมาอย่างละเอียดให้ทางนั้นฟัง คุณแม่ของผู้หญิงคนนี้ก็ดูตกใจดับเรื่องที่เล่า และบอกว่าแม่ก็พึ่งจะฌาปนกิจเผาไปไม่กี่วันเอง ยังไม่มีใครเจอวิญญาณของเธอมาหาเลย
แต่เราก็ยืนกรานว่า เรื่องที่เราพูดทั้งหมดเป็นความจริง เราเจอมาจริงๆ และเธอก็มาหาเราจริงๆ แม้ว่าเราจะไม่มีความรู้ด้านนี้มากนักว่าเกิดเรื่องแบบนี้เพราะอะไรก็ตาม แต่ก็ทำให้เราใช้ชีวิตลำบาก จากการเจอมา 2 ครั้งในรอบสัปดาห์ ทำเอาเราไม่สามารถนอนหลับได้สนิทสักคืน อย่างไรก็ตามทางนั้นก็คงจนปัญญาจะช่วยในเรื่องลี้ลับแบบนี้เช่นกัน การสนทนาจึงตัดจบลงเพียงแค่นั่น
วันถัดมาเราจึงไปวัดเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล กรวดน้ำแผ่เมตตาให้เธอทันทีค่ะ ตามที่ได้ตกลงสัญญากันไว้ในคืนนั้น และหลังจากวันนั้น เธอก็ไม่เคยมาปรากฎตัวให้เห็นอีก ไม่ว่าจะเป็นที่คอนโดหรือในฝัน กระทั่งผ่านไปได้สักพักใหญ่ เราก็ฝันถึงเธอ เธอมานั่งอยู่ตรงบันไดเหมือนที่เคยเห็น แต่คราวนี้มาในสภาพที่ดูดี ไม่เละบวมเหมือนครั้งก่อนๆ ซึ่งพูดตามตรงว่าเราก็จำหน้าไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันมั้ย?
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ชวนพรั่นพรึงในครั้งนี้ ก็เป็นบทเรียนให้เราสำรวมในการใช้ชีวิต ใครจะไปคิดว่าผีจะออกมาหลอกหลอนกันจากในเฟสได้ ทำให้เราตระหนักว่าการให้เกียรติผู้คนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนเป็นหรือคนตาย ภายหลังเราได้มีโอกาสคุยกับคนทีศึกษาและมีความเชื่อในเรื่องราวของโลกวิญญาณว่า ของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะไม่มีทางได้เจอภูตผีหรือวิญญาณเลย แต่บางคนที่มีเซนส์และจิตแข็งพอแบบเรา ก็มักจะได้เจอเรื่องเล่าผีอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเขาต้องการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ที่เขาไม่สามารถบอกกับคนทั่วๆไปได้ ซึ่งบอกตามตรงว่า…เราเองก็ไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่พบเจอนัก แต่หากเลือกได้ขออย่าได้เจออีกเลยดีกว่าค่ะ! และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
ความคิดเห็นจากสมาชิกชาว Pantip
สมาชิกหมายเลข 1636130 ให้ความเห็นว่า ตนเองก็เคยเจอเรื่องราวในทำนองเดียวกัน เนื่องจากเคยไปชมภาพยนต์เรื่อง พุ่มพวง ดวงจันทร์ และอินกับเนื้อเรื่องในพาร์ทดราม่าครอบครัวของพี่พุ่ม หลังจากไปเสิร์จหาประวัติของสามีคนแรกของพี่พุ่มใน google ก็ได้ออกปากวิพากษ์วิจารณ์ในตัวสามีไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร และในคืนนั้นเอง เธอก็ถูกผีผู้ชายอำ!
ในขณะที่สมาชิกอีกท่านนึงให้ความเห็นว่า น่าจะไม่เกี่ยวกับการวิจารณ์หรือหัวเราะผ่านเฟสบุ๊ค แต่น่าจะเป็นเพราะบังเอิญว่าคลื่นของทั้งคู่จูนติดกันพอดี โดยที่การไปพบข่าวของผู้หญิงคนนั้นในเฟสเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้ได้พบกัน จึงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้
ขอขอบคุณเรื่องผี Pantip : เจอผีจาก Timeline Facebook ของเพื่อน
อ่านเรื่องผีจากพันทิป เรื่องอื่นๆ >> คลิก
กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์