ประสบการณ์หลอนคนแต่งหน้าศพ ถูกผีท้วงว่า “ทำไมไม่กรีดตาให้”

ขอเกริ่นก่อนว่า “คุณกิ๊บ” เจ้าของเรื่องเล่าในคราวนี้ เป็นผู้ที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับ “ศพ” มาตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากตัวคุณพ่อของเธอเองก็มีทหน้าที่การงานที่ต้องผ่าชันสูตรศพอยู่แล้ว และเป็นตัวคุณพ่อนั่นเองที่ชักนำเธอเข้าสู่วงการ “แต่งหน้าศพ” เพราะเดิมทีกิ๊บมีฝีมือและความใฝ่ฝันที่อยากทำงานด้านเสริมสวย ซึ่งคุณพ่อเธอก็แนะนำว่า งานทางสายนี้ก็เงินดีมิใช่น้อย รายได้ดีกว่างานเสริมสวยตามร้านทั่วไป อีกทั้งยังฝากฝังให้ได้ ก็เลยจับพลัดจับผลูจากที่ตั้งใจแต่งหน้าคน…ก็มาสู่การแต่งหน้าคนที่ไม่หายใจแล้ว

หลังทดลองรับงานดู คุณกิ๊บก็มีความเชี่ยวชาญขึ้นเรื่อยๆ โดยเธอจะรับทำแต่เพียงในโรงพยาบาลเท่านั้น และแล้วก็มีหนึ่งเคสที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลย่านรังสิต ร่างไร้วิญญาณที่กิ๊บต้องไปแต่งหน้าให้นั้น เป็นร่างของนักศึกษาสาวที่คิดสั้นจนเลือกที่จะปลิดชีวิตตัวเองด้วยการผูกคอ อันเนื่องมาจากปัญหาส่วนตัวกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเวลาที่ต้องทำงานแต่งหน้านั้น ก็จะมีตัวคุณกิ๊บเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในห้อง ไม่มีใครอื่น โดยที่ตอนนั้นก็เป็นช่วงเย็นราวๆ 4-5 โมงเย็น

เวลาที่คุณกิ๊บจะแต่งหน้าให้นั้น ตัวเธอจำเป็นจะต้องขึ้นไปนั่งบนเตียงด้านข้างร่างที่จะทำการแต่ง แม้ว่าจะมีการเตรียมเก้าอี้สูงให้ แต่มันไม่ถนัดเนื่องจากจะทำให้มีระยะห่างพอสมควร วันนั้นก็เช่นกัน ขณะคุณกิ๊บนั่งอยู่ด้านข้างของนักศึกษารายนั้น ก็เริ่มจ้องมองดูเค้าโครงหน้าก่อนแต่ง และพบว่าเธอคงเคยเป็นคนที่สวยเอาเรื่องทีเดียว พลางจินตนาการว่าก่อนที่เธอจะเสียจะมีบุคลิคเป็นอย่างไร ดูท่าเธอคงจะเป็นสาวสวยเปรี้ยว คุณกิ๊บจึงแต่งให้เข้ากับบุคลิกด้วยเครื่องสำอางสีเข้ม

สิ่งที่คุณกิ๊บเลือกหยิบออกมาจากกล่องเครื่องสำอางพกพาของเธอคือลิปสติกสีแดงสดแท่งหนึ่ง คาดว่าจะให้ลุคสวยเปรี้ยวอย่างที่คุณกิ๊บต้องการ หลังจากจัดแจงบรรจงทาลงไปที่ริมฝีปากซีดเผือดของร่างนักศึกษาจนเสร็จ กิ๊บ…ก็ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูดังว่า….

“แดงกว่านี้อีก…ได้มั้ย?”

กิ๊บสะดุ้งตกใจก่อนจะรีบกวาดสายตาไปทั่วห้องที่ยังคงว่างเปล่า ย้ำให้หังอีกครั้งว่าในห้องนั้นมีเพียงตัวเธอเองกับร่างไร้วิญญาณของนักศึกษาสาวเท่านั้น แต่อย่างประมาทกิ๊บจนเกินไป! เธอถือว่าเชี่ยวชาญในด้านนี้ ประสบการณ์ก็มีอยู่มากโข เธอรู้ดีว่าใน “สถานการณ์แบบนี้” ควรทำอย่างไร…และสิ่งที่เธอทำนั่นก็คือ…

“ด..ได้ค่ะ เดี๋ยวทำให้ใหม่นะคะ…”

กิ๊บคุยกับร่างนักศึกษาเงียบๆคนเดียว และแล้วเคสนั้นก็ได้ผ่านพ้นไป… อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอต้องเจอกับเรื่องชวนขนหัวลุก งานของเธอนั้นไม่เป็นเวล่ำเวลาเหมือนคนอื่นเขา เป็นต้นว่าหากมีเคสอุบัติเหตุเข้ามาเวลาตี 1-2 เธอก็ต้องรุดมาจัดแจงให้ ซึ่งปกติแล้ว หลัง 2 ทุ่มไปเจ้าหน้าที่คอยดูแลห้องดับจิตก็ไม่ค่อยอยู่กับที่กับทาง เดี๋ยวหายไปเข้าห้องน้ำมั่ง พักเบรคมั่ง มีครั้งนึงที่กิ๊บกำลังจะเข้าไปทำงานของตัวเอง ก็เจอเข้ากับหญิงสาวในเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ที่อยู่ด้านหน้าเดินเลี้ยวหายไปในห้องดับจิต กิ๊บเข้าใจว่าเธอคนนั้นคงเข้าห้องผิด เลยร้องเรียกด้วยความหวังดีเดี๋ยวจะตกใจกลัวว่า

“น้องคะ ห้องนั้นเป็นห้องดับจิตนะคะ! เข้าไม่ได้ค่ะ”

แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆจากหญิงคนนั้น ก่อนที่เธอจะเดินลิ่วหายไปในมุมมืดของห้องดับจิต กิ๊บพยายามเดินไล่ตามไปแล้วเปิดไฟในห้อง แต่…กลับไม่พบหญิงชุดดำหรือคนเป็นๆสักคนอยู่ในห้องนั้น!

เป็นไปได้ยังไง? เราว่าเราเห็นชัดๆไม่ได้ตาฝาดแน่นอน อย่างไรก็ตามกิ๊บเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อได้ฟังดังนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจก่อนจะทำถ้าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง และพาเธอไปหน้าตู้เก็บศพใบหนึ่งก่อนจะเลื่อนๆออกมาให้ดู สิ่งที่กิ๊บเห็นคือ…ร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวในเสื้อยืดสีดำ ในขณะที่ช่วงท่อนร่างแหลกเละราวถูกอะไรบางอย่างทับ แต่ยังคงเหลือร่องรอยของกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน!

สิ่งที่เห็นทำเอาคุณกิ๊บถึงกับสะอึก แม้ว่างานอย่างคุณกิ๊บจำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดี แต่การมาเจอซึ่งหน้าแบบนี้ บางทีก็รับมือไม่ทันเหมือนกัน ขณะเดียวกันคุณพ่อของเธอก็ถามขึ้นว่า… “ที่เจอน่ะ ใช่คนนี้ไหม” “คนนี้แหละที่จะให้แต่งหน้าให้คืนนี้” !! ต้องยอมรับว่าแม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังหลอนไม่หาย แต่ด้วยหน้าที่ก็นำเป็นต้องทำ บางทีเขาคงมาตามเราไปช่วยแต่งหน้าให้เขาเร็วๆก็ได้มั้ง!!?

จะว่าไปแล้วงานอย่างคุณกิ๊บนั้น ก็ไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้ พูดอีกอย่าก็คือ ไม่ว่าเขาหรือเธอเหล่านั้น…จะมาในสภาพแบบไหน ก็ต้องทำให้ได้ทำให้ดีเท่านั้น ดังเช่นเคสหนึ่งที่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าซีกนึงยุบลงไปอันเนื่องมาจากการวิวาทกับคู่กรณีที่เป็นแฟนหนุ่ม ถูกทุบด้วยถังดับเพลิง… คุณกิ๊บพิจารณามองดูอยู่หลายมุม ก็พยายามจะตบแต่งให้สวยเท่าที่จะทำได้ แต่ส่วนที่ถูกทุบจนยุบตัวลงไป ก็ำทอะไรไม่ได้มากนัก กิ๊บจึงเว้นอายไลเนอร์ในบริเวณข้างนั้นไว้

อย่างไรก็ตาม ในค่ำคืนนั้นกิ๊บรู้สึกได้เลยว่า เหมือนกับมีคนอื่นนอกจากเธอกับร่างตรงหน้า ยืนข้างๆเธอราวกับจะกำกับการทำงานของเธอ จนกิ๊บต้องเผลอหันไปมองซ้ายที่ขวาทีบ่อยๆ แล้วในขณะที่กิ๊บนั่งแต่งหน้าอยู่บนเตียงเดียวกันกับร่างนั้น จู่ๆเตียงก็สั่นเบาๆขึ้นมาเองเสียอย่างนั้น ดังกริ๊กๆกรั๊กๆ ราวกับมีใครไปเขย่าขาเตียงก็ไม่ปาน ทำเอากิ๊บต้องผงะ โดดโหยงลงมาทันที ก่อนที่เหงื่อกาฬจะพากันไหลออกมาท่วมตัว แม้จะอยู่ในห้องที่แอร์เย็นจนควรเรียกได้ว่าหนาว

อย่างที่กล่าวไปแล้ว คุณกิ๊บคือ “ผู้เชี่ยวชาญ” เธอรู้ว่าต้องทำอย่างไร เธอพนมมือขึ้นมาก่อนจะสงบสติอารมณ์แล้วทักขึ้นว่า…

“หากมีอะไรต้องการจะบอก ก็ขอให้บอกกันดีๆ บอกแบบนี้กิ๊บไม่รู้…”

หลังจากนั้นกิ๊บก็ตั้งมั่นทำงานของตัวเองต่อไป ในขณะที่จะเปิดกล่องเครื่อมือหยิบเครื่องสำอางชิ้นอื่นๆมาแต่งต่อ จู่ๆอายไลเนอร์แท่งหนึ่งก็กระโจนกลิ้งออกมาตกลงไปบนพื้น “แกร๊งง!” เสียงแท่งพลาสติกกระทบพื้นห้องดับจิตเงียบสงัด ก้องกังวาลไปทั่ว

“อ๋อ เข้าใจแล้ว อยากได้อายไลเนอร์เหรอ? เขียนให้ได้นะ แต่จะออกมาสวยหรือไม่นั้น เราไม่รู้”

“เพราะเราก็เห็นๆกันอยู่… ว่าตอนนี้สภาพร่างของคุณเป็นยังไง แต่ถ้าจะให้เขียน เราก็เขียนให้ได้ค่ะ…”

กิ๊บก้มลงหยิบแท่งสีดำขลับบนพื้นขึ้นมาบรรจงเขียนให้ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก กระทั่งแล้วเสร็จสิ้น กิ๊บก็เดินออกไปหาญาติของศพที่ยืนรออยู่หน้าห้อง ก่อนจะแจ้งให้ทราบว่างานเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจึงขอตัวกลับ

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น หลังกิ๊บกลับบ้านและเข้านอน ในขณะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น จู่ๆก็รู้สึกชาไปทั้ตัว ขยับร่างกายไม่ได้ดังใจนึก กิ๊บพยายามจะลืมเปลือกตาขึ้มากวาดสายตาเพื่อมองไปรอบๆห้อง มีแต่เพียงความมืดมิด ความรู้สึกหวั่นๆต่ออะไรบางอย่าง เริ่มแทรกเข้ามาในช่องว่างของจิตใจ กระทั่งมีเสียงกระซิบแผ่วเบาดังอยําข้างหูกิ๊บ…

“ที่สั่นเตียง… ไม่ใช่ว่าเพราะว่าโกรธอะไร…”

“แต่ทำไม…ถึงไม่จุดธูปบอกกัน..ก่อน…”

“ชั้น…ชอบเขียนอายไลเนอร์…มากกก ทำไม…คุณถึงสะเพร่าแบบนี้…”

ตามปกติแล้วเวลาที่กิ๊บจะแต่งหน้าให้ ไม่ว่าเคสไหนๆก็ไม่เคยจุดธูปบอกกล่าว หรือขอขมาลาโทษใดๆทั้งสิ้น เพราะกิ๊บเองถือว่าตนมาช่วยเขาเหล่านั้นแท้ๆ และก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งหลังจากเหตุการณ์นี้มา กิ๊บจึงจุดธูปบอกกล่าวก่อนทุกครั้ง โดยจะบอกทั้งก่อนที่จะเริ่มแต่ง และหลังจากที่แต่งแล้วเสร็จ จนเป็นธรรมเนียมปฎิบัติของเธอไปซะแล้ว และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

จากเรื่อง : “คนแต่งหน้าศพ” คุณกิ๊บ the shock