เที่ยวป่าช้าดูรูปผีบนโกศ “คนนี้สวย…ถ้าได้ดมคงดี”

เรื่องผี the shock เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ “คุณหรั่ง” ได้ประสบพบเจอมาด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องราวที่คุณหรั่งนำมาเล่าในรายการเดอะช็อคที่ชื่อตอนว่า “เรื่องเล่าจากความฝันนั้น” ต้องบอกเลยว่าแปลกพิศดารและชวนขนลุกอย่างที่ไม่มีเรื่องไหนเหมือน เพราะมีจุดเริ่มต้นมาจากกิจกรรมของพวกเขาที่ต้องบอกว่ามีรสนิยมแปลกอยู่ไม่น้อย นั่นคือการ “เที่ยวชมรูปผี” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันน่ากลัวที่กำลังตามมาโดยไม่รู้ตัว

เรื่องผี the shock “เรื่องเล่าจากความฝัน” – คุณหรั่ง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณหรั่งเจ้าของเรื่อง และเพื่อนร่วมก๊วนอีก 2 คน พวกเขามีกิจกรรมที่หากใครได้ยินเป็นต้องแปลกใจกันทุกคน กิจกรรมที่ว่านั้นคือ…การเที่ยวชมรูปผี! แม้ว่าความจริงแล้ว คุณหรั่งกับเพื่อนจะไม่เชื่อในเรื่องผีๆสางๆก็ตามที ความหมายของรูปผีที่ว่านี้ก็คือ รูปเล็กๆของคนตายที่มักจะติดอยู่บนโกศเก็บกระดูก หรือตามช่องกำแพงในวัดซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกันดีเวลาไปทำบุญให้ญาติพี่น้องที่จากไป แต่จะมีสักกี่คนที่จะมีจุดประสงค์ในการรับชมภาพเหล่านั้นเพื่อความเพลิดเพลินเริงใจ

เวลาที่กลุ่มของคุณหรั่งไปวัดใดก็ตาม แต่ละคนก็จะแยกย้ายกันเดินชมไปตามเรื่องราว เดินซอกแซกเข้าไปตามเมรุ ตามโกศที่เรียงรายกันเป็นแถว ราวกับไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แล้วรับชมภาพศิลปะ พวกเขาไม่เพียงแต่ดูเฉยๆ ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันจากเรื่องราวที่เหลืออยู่ของคนในภาพ เป็นต้นว่าวันชาตะ มรณะ แล้วคุยกันว่า “เออ…คนนี้อายุสั้นเนอะ เสียตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ไม่น่าเลย” อย่างนั้นอย่างนี้

กระทั่งวันหนึ่งซึ่งพวกเขาก็นัดออกมาทำกิจกรรมสุดพิศดารกันเหมือนทุกที “เดียร์” หนึ่งในเพื่อนร่วมก๊วนไปหยุดกึก ก่อนจะยืนจ้องรูปภาพบนโกศหลังหนึ่งอยู่นานสองนาน จนเพื่อนๆนึกสงสัยเลยเดินเข้าไปหา รูปภาพขนาด 2×4 นิ้วสีขาวดำที่ถูกฝังอยู่ในปูน แสดงใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง คุณหรั่งเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนถึงหยุดยืนดูอยู่นาน เพราะผู้หญิงผมยาวดำขลับในรูปมีใบหน้าสะสวยมากๆคนหนึ่ง

ข้อมูลใต้ภาพแสดงให้เห็นว่า เธอคนนี้เสียตอนยังเป็นวัยรุ่น ปีพ.ศ.มรณะคือ 2509 อย่างไรก็ตาม…จู่ๆเดียร์ก็พูดทักขึ้นมาว่า “สวยจริงๆว่ะ” ก่อนที่จะเอื้อมือเข้าไป แล้วใช้นิ้วลูบไล้ที่แก้มของหญิงสาวในรูป คำพูดของเดียร์ฟังดูพิกลขึ้นทุกทีเมื่อเขาบอกต่อว่า…

“คนนี้นะ กรุขอแค่ได้ดมผมสักที กรุก็ยอมทุกอย่างแล้ว…”

ก่อนที่จะทิ้งนามบัตร ซึ่งระบุชื่อที่อยู่ของตัวเอง แม้กระทั่งเบอร โทรศัพท์ครบ ไว้มุมหนึ่งของโกศหลังนั้น ราวกับว่าแลกไลน์หรือแลกเฟสกับสาวสวยที่เจอกันโดยบังเอิญในสวนสาธารณะก็ไม่ปาน ตอนนั้นคุณหรั่งก็ไม่ได้คิดอะไร โดยไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่นำพาเรื่องวุ่นวายมาสู่เขาและเพื่อน

ในคืนเดียวกันนั้นเอง ขณะที่เดียร์กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องส่วนตัวของตนที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนชั้นที่ 4 โดยที่เปิดระตูห้องทิ้งไว้แล้วปิดเพียงประตูเหล็กดัดชั้นใน เพื่อให้เห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากระเบียง ระหว่างที่ใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่พักึ่งก็เกิดรู้สึกง่วงขึ้นมา เลยล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเขาฝัน…

เดียร์ฝันว่าตัวเองนั่งอยู่บนตียงเดียวกันกับเมื่อสักครู่ ก่อนที่จู่ๆจะมีเสียงจากโทรศัพท์ดัง กริ๊งงงง ขึ้นในห้อง เขาจึงลุกเข้าไปรับสายทันที ทุกอย่างดูสมจริงมาก…ราวกับว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เขาตื่นอยู่จริงๆ อย่างไรก็ตาม ปลายสายไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นใคร แต่เดียร์กลับรู้ได้ในทันที

“สวัสดีค่ะ หนูเองนะ พี่จำได้ไหม…?”

“จำได้สิ พี่กำลังรออยู่เลย…” เดียร์เล่าให้ฟังภายหลังว่า ตัวเองก็แปลกใจไม่น้อยที่เหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในความฝัน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกดีใจมากพอที่จะไม่ยอมตื่น

“หนูขอ…ขึ้นไปหาพี่ ได้ไหมคะ?”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มาสิ…ขึ้นมาเลย”

เดียร์ในความฝันยังไม่วายที่จะตระเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเข้าห้องน้ำล้างหน้า จัดแต่งทรงผม ราวกับว่าเขาเตรตัวจะไปออกเดท อย่างไรก็ตาม เธอไม่ปล่อยให้เขารอนานจนเกินไป ในที่สุดก็มีเสียงรองเท้าดัง “ต๊อก..แต๊ก” พร้อมกับกลิ่นหอมพิศวงที่ลอยตามลม มาหยุดอยู่ที่ประตูหน้าห้อง ทันใดนั้นเอง…ก็มีใบหน้าสะสวยของสาวน้อยคนหนึ่งชะโงกหน้าเข้ามาดู แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเปิดเข้ามา คล้ายกับรอการ “เชิญ” เข้าไปข้างในจากเจ้าของห้องก่อน เดียร์ก็รีบออกปากชักชวนให้เข้ามาทันที

“ให้หนู…เข้าไปได้ใช่มั้ยคะ แน่นะคะ?”

“ได้สิ น้องเข้ามาเลย”

คอนโดของเดียร์มีทั้งหมด 3 ตึก โดยเดียร์อาศัยอยู่ที่ตึกแรก ชั้นที่ 4 แต่ละชั้นจะมีอยู่ 8 ห้อง
เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป จะเจอกับห้องโถง เมื่อเดินเข้าไปทางขวามือก็จะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ

เดียร์เล่าว่า……

หลังจากกลับห้องมาในคืนนั้น ขณะที่เขากำลังเล่นอินเตอร์เนตอยู่ในห้องโถง
สมัยนั้นอินเตอร์เน็ตจะเป็นแบบเชื่อมต่อกับโมเด็ม ที่จะมีเสียงดังเวลาเชื่อมต่อ (คนยุคนั้นน่าจะนึกเสียงออกนะคะ)
เขาเปิดประตูห้องทิ้งไว้ เหลือไว้แต่ประตูลูกกรงที่เป็นมุ้งลวด อีกด้านก็เปิดม่านหน้าต่างไว้ให้เห็นวิวด้านนอก
หลังจากเล่นไปได้สักพัก เดียร์ก็รู้สึกเพลียมากและเผลอหลับไป
เขาฝันว่า มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วเขาก็ลุกเดินไปรับ ปลายสายพูดกับเขาว่า

“ฮัลโหล ฮัลโหลพี่…..หนูเอง จำได้มั๊ย?”

ในตอนนั้นเขารู้ตัวทันทีว่าเขาเองนั้นฝันไป แต่ก็ไม่วายที่จะตอบกลับปลายสายไปว่า … “จำได้”

“พี่…หนูขึ้นมาได้ไหม?”
“ขึ้นมาเลย…ขึ้นมาสิ”

หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาในห้อง โดยที่มีเดียร์ยืนรอรับรับอยู่ และพาไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ในห้องโถง แทบไม่เชื่อสายตา เธอเป็นหญิงงามคนเดียวกันกับที่เคยอยู่ในรูปบนโกศเมื่อกลางวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นตัวจริงๆเต็มๆตาและใกล้ชิดขนาดนี้ เดียร์ยอมรับว่าเธอดูสวยยิ่งกว่าในรูป โดยเฉพาะผมยาวดำเป็นมันที่กำลังโชยกลิ่นหอมอ่อนออกมา จนเดียร์แทบอยากเอาจมูกไปสูดดมใกล้ๆ แต่ความเป็นสุภาพบุรุษก็ยับยั้งใจเขาเอาไว้ก่อน

“พี่…ไปหรือยัง?”  เธอถามเขาขึ้นมา
“ไปไหนเหรอ?”  เขาตอบรับด้วยความสงสัย
“เข้าห้องไงพี่………………..”  (เธอหมายถึงห้องนอนนะคะ)
“ไปสิ ไปๆ”

เขาลุกขึ้นพร้อมกับดึงมือเธอจะพาเธอไปที่ห้องนอน แต่ก่อนที่จะไปนั้นเขาขอปิดคอมพิวเตอร์ก่อน
เขาเดินกลับไปปิดคอมพิวเตอร์….และเดินกลับมาหาเธอ

“เอ้ย….เดี๋ยวพี่เดินไปหยิบน้ำก่อน”

มันเป็นเรื่องปกติของเดียร์ที่ว่าที่หัวนอนของเขาจะต้องมีน้ำดื่มตั้งไว้ที่หัวเตียง
เขาจับมือของเธอเพื่อจะพาเธอไปที่ห้องนอน ตอนนั้นเธอเดินตามหลังเขา
….แต่แล้วก็มีความคิดขึ้นมาว่าควรจะเอาหนังสือไปด้วยมั๊ย

“เออ…เอาหนังสือไปอ่านด้วยมั๊ย เดี๋ยวพี่เดินไปเอาหนังสือก่อน…” เขาถามออกมาโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปมองคนที่เดินตามมาเลยสักนิด

“เมิงงงจะเข้านอนได้หรือยัง!”    

เดียร์รู้สึกกลัวขึ้นมา สายตาเขาเหลือบไปเห็นที่ประตูห้อง
เขาเห็นผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ชายคนนั้นถามเขาขึ้นมาว่า

“หนุ่ม….รู้จักเขาด้วยเรอะ?”

เพื่อนผมจึงหันไปมองที่ประตู ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร 
จู่ๆก็มียายคนหนึ่ง โผล่ออกมายืนข้างๆผู้ชายคนนั้น…และยายก็พูดกับเขาว่า

“หนุ่ม…ให้เขาออกไป…อย่าให้เขาเข้ามา!”

แต่ว่าเพื่อนผมใจก็กล้าๆกลัว แต่ก็ยังไม่ได้หันไปมองเธอที่เขาจูงมือมา
ทันใดนั้นเองผู้หญิงคนนั้นก็ผลักเขาเข้าไปยังห้องนอน
เขาตกใจมากจึงรีบล็อคประตู แต่ด้วยความที่ล็อคลูกบิดเสีย เขาจึงทำได้แค่ใส่กลอนที่เป็นสายยูเท่านั้น
เขาเอาตัวของเขาเองดันประตูไว้….เขารู้สึกเหนื่อยมาก จนสุดท้ายก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

ความฝันนั้นทำเขาเหนื่อยมากจริงๆ เขาจึงลุกขึ้นไปเพื่อหยิบน้ำดื่มที่ตู้เย็น
ในความมืดของห้องนั้น เขาลุกขึ้นมาจากเตียง….เดินไปที่ประตู มือกำลังจะปลดสายยู………..

เอ้ย…..แต่เมื่อกี๊เขาหลับอยู่ที่โซฟาข้างนอกนี่นา!

เขาจำได้เป็นอย่างดีว่าเขานอนหลับอยู่ที่โซฟา…เขาแค่ฝันว่ามาที่ห้องนอน… ใช่สิ เขานอนที่โซฟา
ตอนนั้นมือหนึ่งของเขายังคงจับลูกบิดประตูไว้ แต่จู่ๆประตูก็เหมือนกับว่ามีแรงกระแทกจากข้างนอก
แรงกระทุ้งนั้นรุนแรงคล้ายๆกับว่าพยายามจะเปิดประตูให้ได้ แต่ว่าดันติดสายยูที่คล้องเอาไว้จึงเปิดไม่ได้

“เปิดได้หรือยังห๊ะ เปิดได้หรือยัง” เสียงจากด้านนอกของประตูตะโกนถามเขา

เขามั่นใจแล้วว่าตอนนั้นเขาไม่ได้ฝัน เขากระโดดกลับไปยังเตียงนอน
ห้องนอนของเขาเปิดม่านทิ้งไว้ เมื่อมองออกไป เขาเห็นยายแก่ๆคนนั้นนั่งอยู่ที่ตรงระเบียงแคบๆที่ไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์

“อย่าเปิดนะ อย่าเปิดนะ!”

นี่ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปแล้ว นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่กับเขา 
ซ้ายก็น่ากลัว….ขวาก็ใช่ย่อย…. เขาจึงตัดสินใจที่จะอยู่กลางห้อง คลุมโปง.. จนเผลอหลับไป

————————————————————————————–

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

ในตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเดียร์
วันนั้นพวกผมนั่งเล่นกันอยู่ที่ชั้นหนึ่งของคอนโดกับเพื่อนๆอีกสองคน

ป้าที่อยู่ชั้น 6 แกคนเป็นชอบร้องคาราโอเกะครับ
แกสั่งทีวีใหม่มาส่งที่คอนโด แต่คนส่งของส่งให้แกได้แค่ที่ชั้นล่าง พวกผมเลยอาสาที่จะช่วยยกขึ้นไปให้
ทีวีที่แกสั่งมาใหญ่เกินไปที่จะขนเข้าไปในลิฟต์ พวกผมเลยต้องช่วยกันแบกขึ้นบันใดมาทีละชั้นจนถึงชั้น 6

พอเปิดประตูเข้าไปที่ห้องของป้า จู่ๆเดียร์ก็ปล่อยทีวีของป้าตกลงมากระแทกเข้าที่เท้าของเขาจนเลือดนองพื้น

ผมกับเพื่อนอีกคนก็งง จนสุดท้ายแล้วเราแหงนหน้าขึ้นไปมองก็เจอกับรูปผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในกรอบรูปสีชมพู
ท่าทางของป้าแกดูโกรธไม่น้อย แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอยู่ดีๆเกิดอะไรขึ้น
ป้าเห็นเรามองรูปอยู่แบบนั้น ป้าแกจึงเล่าว่า

“ผู้หญิงในรูปน่ะเหรอ……เค้าเป็นน้องสาวป้าเอง”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรืออย่างใด 
รูปผู้หญิงที่โกศศพคนนั้น เป็นรูปเดียวกับที่อยู่ในรูปที่ห้องป้า……และเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของป้าคนนี้

“จะเอาสักใบมั๊ยล่ะ” ป้าถามพวกเดียร์ว่าอยากได้รูปน้องสาวไหม แต่เดียร์ก็รีบปฏิเสธไป

หลังจากเหตุการณ์นั้นเอง…เดียร์ก็จึงเริ่มเราเหตุการณ์ให้พวกเราฟัง

——————————————————————————————–

เดียร์ตัดสินใจที่จะย้ายออกจากคอนโดนั้น แต่ระหว่างที่หาที่อยู่ใหม่เขาก็เลยตัดสินใจกลับไปอยู่บ้าน
สามวันให้หลังจากที่เดียร์ย้ายกลับบ้านไป แม่ของเดียร์ก็โทรมาหาเพื่อนคนหนึ่งของผมและแจ้งข่าวว่า

“เดียร์ตายแล้วนะ”

ทุกคนต่างไม่เชื่อความรู้สึกตัวเองว่าเดียร์ตายแล้วจริงๆ เพราะพวกเราเพิ่งเห็นกันอยู่ไม่กี่วันนี่เอง
ผมไปที่งานศพของเดียร์ ก็ได้มีโอกาสเจอกับเพื่อนของเดียร์ที่ทำงานอยู่มูลนิธิ และเพื่อนคนนี้ก็เป็นคนไปเก็บศพของเดียร์เอง

เพื่อน: เดียร์มันตายน่าสงสารมากเลยนะ
ผม: ทำไมอ่ะ มันตายยังไงเหรอ
เพื่อน: ก็ตอนมันตายอ่ะ ตามันเหลือก มือมันหงิก แต่ที่น่าแปลกก็คือ มันอ่ะอมรูปผู้หญิงเอาไว้ 
         แล้วก็อมเหรียญห้าใหญ่ (เหรียญสมัยก่อน) เอาไว้ 1 เหรียญ

ด้วยความที่สงสัย หลังจากงานศพของเดียร์ เราจึงติดต่อไปยังเพื่อนที่ทำงานมูลนิธิเพื่อขอดูรูปที่เดียร์อมไว้
และแน่นอนครับ…..รูปใบนั้นมันเป็นรูปของเธอ…รูปที่เราเห็นที่หน้าศพ…รูปที่เราเห็นในกรอบรูปสีชมพูในห้องป้า

เราติดต่อไปยังป้า บอกป้าว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นและเราขอดูรูปในห้องป้าหน่อยได้มั๊ย?
ป้ายืนยันกับเราว่ารูปใบนั้นยังอยู่ในกรอบดี แต่ก็อนุญาตให้พวกเราขึ้นไปดูได้
……แต่เมื่อพวกเราและป้าไปดูที่กรอบรูปนั้นก็พบว่า……ไม่มีรูปใบนั้นอยู่ในกรอบ…รูปถูกดึงออกไป

พวกเรามั่นใจว่าเดียร์ไม่ใช่คนที่ดึงรูปออกไปแน่ๆ เพราะตัวเดียร์ก็ไม่ได้อยากได้รูปใบนั้นอยู่แล้ว
เรื่องราวการตายของเดียร์นั้นเป็นข่าวออกหนังสือพิมพ์ ในคอลัมภ์ประมาณว่า ตายพิสดาร

เพื่อนของผมอีกคนที่ได้ไปสำรวจโกศศพด้วยกันวันนั้น…ก็ได้เสียชีวิตไปเช่นกัน
ผมคิดว่าการตายของเขาคงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของผู้หญิงคนนี้ แต่มันเกี่ยวข้องกับคำสาบาน และทำให้เกิดอุบัติเหตุตาย

การไปสำรวจของพวกเรา จริงๆแล้วก็ไม่ใช่การลบหลู่หรืออย่างใดนะครับ
เพราะบางครั้งการที่ได้เดินดูรูปผู้เสียชีวิต วันที่เสียชีวิต มันก็ทำให้เราได้ปลงกับชีวิตของเราเหมือนกัน
แต่ก็ยอมรับว่ามีบางครั้งที่มีการเล่นแบบอุตริ เช่นเพื่อนของผมเอารูปคนที่โกศ (ที่ยังไม่ได้โบกปูน) เอากลับมาด้วยก็มี

ผมเองก็ฟังเดอะช็อคมาก็ 18 ปี ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เคยเจอผีเป็นตัวตนนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับการตายของเพื่อน ผมเชื่ออยู่แล้วว่าสาเหตุการตายเกิดจากผู้หญิงในรูปที่เขาเอานามบัตรไปวางไว้
เป็นไปไม่ได้แน่ที่เพื่อนของผมจะเอารูปและเหรียญยัดใส่ปากตัวเอง แล้วฆ่าตัวตาย คงเป็นเรื่องของผีมาเอาชีวิตไปแน่ๆ
ทางการแพทย์สรุปสาเหตุการตายว่า…หัวใจวายเฉียบพลัน

เรื่องนี้คนอื่นอาจจะไม่เชื่อ แต่มันเป็นเรื่องที่ผมและเพื่อนมองตากันก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น………………………..

ขอบคุณที่มาเรื่องเล่าผี : เรื่องเล่าจากความฝัน โดย คุณหรั่ง the shock 13

อ่านเรื่องผี the shock เรื่องอื่นๆ >> คลิก

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์