โดนผีหลอกแบบ4D เพราะเชิญคนตายเข้าบ้าน

เรื่องนี้เกิดขึ้นกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับพี่ข้างบ้านติดกัน โดยที่เรื่องราวใน “คืนนั้น” ยังคงฝังแน่นในความทรงจำ กับเรื่องที่มีชื่อว่า “คืนแรกที่กลับบ้าน” เรื่องมีอยู่ว่า… ‘คุณน้อง’ เป็นชาวจังหวัดลำพูน แต่เนื่องด้วยไปทำงานต่างจังหวัดจึงไม่ได้อยู่ที่บ้าน นานๆจึงจะกลับมาเยี่ยมที ทำให้การข่าวสารภายในท้องถิ่นหรือหมู่บ้านอาจจะไม่ทันเขาบ้าง ปกติคุณน้องมักจะกลับบ้านในเย็นวันศุกรหลังเลิกงาน ซึ่งนั่นทำให้กว่าจะมาถึงก็ค่ำมืดแล้ว คืนเกิดเหตุนั้นเอง… คุณน้องกลับมาบ้านเวลาสองทุ่ม ได้ร่วมโต๊ะทานข้าวกับทางบ้านที่รออยู่ จนกระทั่งขึ้นไปที่ห้องชั้น 2

“คืนแรกที่กลับบ้าน” โดยคุณน้อง

ลักษณะบ้านของคุณน้อง จะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยที่ห้องของคุณน้องจะมีหน้าต่างอยู่ 2 บาน เตียงในห้องนอนตั้งอยู่ติดกับหน้าต่างดังกล่าว หากนั่งลงบนเตียงนั้นจะสามารถเกาะหน้าตาง เท้าตางมองทิวทัศน์ข้างนอกได้อย่างสบายอารมณ์ ภายนอกนั้นจะมองเห็นซอยเล็กๆที่มอเตอร์ไซค์พอวิ่งสวนกันได้ 2 ริมทางเรียงรายไปด้วยบ้านเรือนของผู้คนในละแวกนั้น ซึ่งบ้านในสมัยนั้นไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิด ทุกหลังจึงอยู่ติดถนนเรียงๆกันไป บ้านของคุณน้องก็ตั้งอยู่บนซอยที่ว่านั้นเช่นกัน

คืนนั้นขณะนอนหลับไปได้สักพัก ท่ามกลางความเงียบสงัดในย่านชนบท ที่แม้แต่เสียงแผ่วเบาก็ฟังดูชัดเจน

“ฮือออออ… ฮืออออออ…”

เสียงร้องไห้ดังลอยมาจากนอกหน้าต่าง คุณน้องนอนฟังอยู่สักพักจึงลุกขึ้นดู ตรงข้ามหน้าต่างข้างเตียงนั้น เผยให้เห็นใครบางคนยืนหันหลังร้องไห้อยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้าม คุณน้องรู้ได้ในทันทีว่านั่นคือ “พี่ฝน” ลูกสาวเพื่อนบ้านตรงกันข้ามนั่นเอง ซึ่งพี่ฝนได้มีครอบครัวและแยกไปอยู่บ้านอีกหลังห่างออกไปในหมู่บ้านเดียวกัน หากแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดพี่ฝนจึงออกมายืนสะอื้นกลางดึกแบบนี้ แถมคนในบ้าน.. พ่อแม่ ยังปิดประตูเงียบเชียบ ไม่มีใครออกมาดูดำดูดีกันเลยหรือ? และแล้วคุณน้องก็เฝ้าดูเหตการณ์ต่ออีกพักหนึ่ง จึงตัดสินใจร้องทักขึ้น…

“พี่ฝน พี่ฝนๆ … พี่ร้องไห้ทำไม”

พี่ฝนค่อยๆหันหน้ามาช้าๆ ราวกับตอบสนองต่อเสียงเรียก หันมาได้เพียงครึ่งหน้าก็หันกลับไป… “อ้าว ทำไมถามไม่ตอบวะ” คุณน้องคิดในใจ ในที่สุดคุณน้องก็วิ่งลงไปดู จับแขนเรียกพี่ฝน

“พี่ฝนเป็นอะไร มาทำอะไรอยู่ตรงนี้”

“พี่หนีแฟนพี่มา”

คุณน้องคุยกับพี่ฝนหน้าบ้านหลังนั้นอยู่สักพัก สืบความได้ว่า พี่ฝนหนีแฟนมา เนื่องจากถูกแฟนจับได้ว่าตัวพี่ฝนแอบคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ และเกิดการทะเลาะกันขึ้น จึงวิ่งหนีออกมาถึงที่นี่ ฝนสภาพเท้าเปล่ากว่า 2 กิโลเมตร

“แล้วทำไมพี่ไม่เรียกให้พ่อกับแม่ลงมาเปิดประตู”

“ไม่ได้ เรียกไม่ได้ เดี๋ยวพ่อกับแม่ว่าพี่เอา”

“แล้วแฟนพี่มันอยู่ไหน”

“แฟนพี่มันต้องตามมาแน่ พี่จะหนีไปไหนได้ มันถือปืนถือมีดมาด้วย พี่เข้าไปไม่ได้หรอก”

“งั้นพี่มานี่ มาหลบกับหนู แฟนพี่มันไม่รู้หรอกว่าหนูกลับมาบ้าน”

“พี่เข้าไปได้เหรอ… ถ้าพี่เข้าไปมันอาจจะทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไป”

คุณน้องไม่ทันได้เอะใจในความหมายแฝง จึงตอบไปว่า “ได้ซี่ มันไม่รู้หรอกว่าพี่อยู่นี่ พ่อแม่หนูก็นอนหลับหมดแล้ว”

คุณน้องดึงแขนพี่สวยเข้าไปในบ้านตนเองทันที ระหว่างเดินผ่านบันไดไม้ขึ้นไปสู่ชั้น 2 เสียงไม้ก็ดังเอียดอาดแปร่งๆ คุณน้องพาพี่ฝนเข้าไปนั่งปลายเตียง ในห้องที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากนอกหน้าต่างส่องผ่านเข้ามาบ้าง ไม่ได้เปิดไฟในห้องเนื่องจากเกรงว่าแฟนพี่สวยจะสังเกตเห็น ส่วนคุณน้องก็มิวายไปเกาะขอบหน้าต่างสังเกตุการณ์ตามเดิม

ไม่ทันไร…เสียงมอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นมาแต่ไกล แฟนพี่ฝนมาถึงแล้วนั่นเอง แฟนพี่ฝนลงมาจากรถยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วตะโกนเรียกเสียงดัง

“อีฝน! อีฝนเมิงลงมา เมิงลงมาคุยกับกรุเลยนะ”

สักพักพ่อกับแม่พี่ฝนเปิดประตูบ้านออกมาดู… “มาทำอะไร อีฝนมันไม่ได้มานี่”

“พ่อรู้มั้ย ว่าลูกพ่อมันทำอะไรให้ผม มันมีชู้ มันสวมเขาให้ผม”

คุณน้องแอบฟังไปสักพัก ทางนั้นก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะลงกันง่ายๆ ต่างด่าสาดเสียด้วยอารมร์รุนแรงกันอยู่ตรงหน้าบ้านั้น เสียงพี่ฝนร้องไห้สะอื้นเบาๆมาจากปลายเตียงไม่หยุด น่าแปลกว่าบ้านข้างเรือนเคียงกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณน้องนึกว่าจะได้เห็นบ้านนั้นบ้านนี้เปิดไฟออกมาดู

“อีฝน! เมิงจะลงมามั้ย ถ้าเมิงไม่ลงงั้นกรุจะยิงใส่พ่อเมิง!”

แฟนพี่ฝนชักปืนออกมาจากที่เหน็บไว้ใต้เสื้อ ทำท่าจะขู่จ่อไปทางพ่อพี่ฝน ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง วิ่งแทรกออกมาจากประตูบ้านพี่ฝน แล้วผลักปืนขึ้นฟ้า… ปืนลั่นดัง ‘ปัง’ ขึ้นหนึ่งนัด ดูเหมือนเหตุการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้แฟนพี่ฝนฉุนขาด จึงเล็งและยิงไปที่ผู้หญิงคนนั้นหนึ่งนัดจนล้มลง เผยให้เห็นหน้าตาชัดๆเป็นครั้งแรก… และคนๆนั้นกลับเป็นพี่ฝนซะเอง!! ทันใดนั้นปากกระบอกปืนก็เลื่อนไปจ่อที่พ่อพี่ฝน ‘ปัง’ ล้มลงอีกหนึ่ง แมพี่ฝนที่ทำท่าจะวิ่งหนีก็โดนไปอีกหนึ่งนัดจนล้มลงไปกองไม่ห่างออกไป คุณน้องทั้งอึ้งและสับสนกับภาพที่ตนเห็น….นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ถ้าคนที่ล้มลงไปเมื่อครู่คือ ‘พี่ฝน’ แล้ว ‘คน’ ที่นั่งสะอื้นไม่ขาดสายอยู่ปลายเตียงเป็นใคร?

ระหว่างที่คุณน้องยังสั่นสะท้าน เนื่องจากอดคิดไม่ได้ว่า… ตนเองได้ยื่นมือเข้าไปรู้ในเรื่องไม่ควรรู้ ได้เข้าไปเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว แฟนพี่ฝนก็เดินกลับไปที่รถ และยัดปากกระบอกเข้าไปในปากตัวเอง ‘ปังงง’ ปิดฉากชีวิตตนเองตามไปอีกราย คุณน้องหันไปดู ‘ใครบางคน’ ที่ปลายเตียง ใบหน้าใต้ผมดำยาวที่เผยใบหน้าออกมาเพียงครึ่งนั้น ไม่ได้ร้องไห้หรือแสดงความเสียใจออกมาเหมือนเมื่อครู่ และนั่นเป็นภาพสุดท้ายที่คุณน้องเห็น..ก่อนที่จะสติดับวูบไป

คุณน้องเล่าว่าตื่นมาอีกทีด้วยความรู้สึกปวดไปทั้งตัว ภาพดูเบลอไปหมด พอได้สติจึงมองสำรวจดู ดูเหมือนคุณน้องจะอยู่ในโรงพยาบาล คุณแม่ที่อยู่ข้างๆจึงถามขึ้นว่า ‘มันเกิดอะไรกันขึ้น’ คุณน้องพยายามเล่าเรื่องที่พบเจอมาเมื่อคืน แต่คำพูดของคุณแม่กลับทำให้คุณน้องอยากหลับไปอีกสักรอบนึง

“พี่ฝนน่ะ…เค้าตายไปตั้ง 2 เดือนกว่าแล้วนะ!!”

“ทั้งพ่อ แม่ แล้วก็แฟนเค้า…ตายกันไปหมดแล้ว”

หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจึงสรุปได้ว่า…สิ่งที่คุณน้องเห็นนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน นั่นเป็นสาเหตุให้บ้านฝั่งตรงข้ามตน ‘ดับยกครัว’ เรื่องราวนี้ไม่เคยไปถึงหูคุณน้องเนื่องจากไม่ค่อยได้กลับบ้าน ทางคุณแม่คุณน้องก็ไม่ได้คิดจะเล่าเหตุการณ์น่าสะพรึงและสะเทือนขวัญให้ฟังมาก่อน

“แล้วบ้านหลังนั้นที่ว่าน่ะ มันก็ถูกทุบทิ้งเป็นหินเป็นปูนไปหมดแล้วนะ”

แทบไม่เชื่อหูตัวเอง คุณน้องจำได้ว่าคืนนั้นบ้านหลังตรงข้ามก็ยังอยู่ในสภาพดี ทุกอย่างดูเป็นปกติ มีก็เพียงเพื่อนบ้านที่ราวกับไม่รู้เห็นเหตุกาณณ์วันนั้น วันที่ทำให้คุณน้องต้องเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ ซึ่งก่อนที่ตนเองจะหมดสติไปในคืนนั้น ไม่รู้ว่าด้วยความตกใจกับภาพที่เห็นหรืออำนาจลี้ลับอะไร จึงทำให้คุณน้องที่นั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่ริมหน้าต่าง พลัดร่วงตกลงมาจากชั้นสอง โชคยังดีที่เพียงบาดเจ็บเท่านั้น แต่ไม่ถึงชีวิต

ในภายหลังคุณน้องและครอบครัวต้องทำบุญบ้านใหญ่ มาคิดย้อนดู…สิ่งที่คุณน้องทำ การที่พาพี่ฝนเข้ามาหลบในบ้านก็เหมือนกับการ ‘เชิญผีเข้ามาในบ้าน’ และยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ‘บ่วงกรรม’ ของเขา พวกเขาจำเป็นต้องชดใช้กรรมจากการฆาตกรรมที่ตรงนั้นซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งผลจากการกระทำของคุณน้องเป็นเหตุให้วิถีของวิญญาณเหล่านั้นเปลี่ยนไป ปัจจุบันบ้านหลังนั้นก็ยังคงเป็นซากปรักหักพังมาจนทุกวันนี้ และก็ยังมีคนเล่าลือว่าได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์แฟนพี่ฝน เสียงพ่อพี่ฝน กันอยู่เนืองๆ

ขอบคุณที่มาเรื่องเล่าผี : คืนแรกที่กลับบ้าน โดยคุณน้อง

อ่านเรื่องเล่า เรื่องผีเดอะช็อค เรื่องอื่นๆ >> คลิก

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์