ปอบยั่วสวาท..ยายแก่ที่ตีซี้สาวสวยแล้วสิงร่างไปโจ๊ะพึมๆผู้ชาย

เรื่องผี the shock เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งเช่นกัน เรื่องเล่าของคุณพลอย ที่มีโอกาสได้แวะกลับไปเยี่ยมเยียนคุณพ่อที่ต่างจังหวัด โดยไม่นึกไม่ฝันว่าการกลับบ้านหนนี้จะต้องพบเจอกับเรื่องราวที่น่ากลัวและยากลำบากสำหรับตัวเธอเองที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต แค่การพูดคุยไม่กี่คำกับคนแปลกหน้า จะทำให้เธอเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้ง ผสมผสานกับเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับ “ผีปอบ” ที่บอกเลยว่าจะทำให้ขนหัวลุกพร้อมๆกันทุกเส้น

เรื่องผี the shock “ต้องรีบออก” จากคุณพลอย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัว “คุณพลอย” เจ้าของเรื่องเอง ตอนนั้นพลอยมีโอกาสได้เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านในจ.ศรีสะเกษ โดยที่ไปถึงช่วงราวๆบ่ายสามโมง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าศรีษะเกษจะอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน แต่คนในหมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้พูดภาษาอีสานกัน หากแต่จะใช้ “ภาษาส่วย” ซึ่งถือเป็นภาษาท้องถิ่นในแถบนั้น

หลังจากที่มาถึงได้ไม่นาน หลานสาวก็ชวนพลอยไปเที่ยวตลาดในหมู่บ้านกัน แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่าชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็จำเป็นต้องมีความเคร่งครัดมากพอสมควร คุณพ่อจึงได้แนะนำว่าให้กลับก่อนมืดค่ำ เพราะชาวบ้านแถวนี้เอง หากตกเย็นแล้วก็ไม่มีใครออกมาเดินเพ่นพ่านกัน พลอยก็รับคำอย่างว่าง่าย

พลอยกับหลานสาวใช้เวลาเดินเที่ยวเล่นอยู่ในตลาดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพากันกลับบ้าน แต่ขณะที่กำลังจะออกจากตลาด ก็มีหญิงชราที่ในมือถือตระกร้าไม้สานใบหนึ่งไว้เดินผ่านมาทางพวกเธอ ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างสะกิดแขนพลอยพร้อมบ่นพึมพำพลางพยักเพยิดไปทางของในตระกร้า แต่พลอยไม่รู้ภาษาส่วยจึงทำได้แค่ยิ้มให้ยายคนดังกล่าว พอยายเห็นว่าไม่ใช่คนในพื้นที่เลยเปลี่ยนมาใช้ภาษากลางแทน ซึ่งคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็ใช้กันเป็นภาษาที่สอง

ขณะที่กำลังจะเดินออกจากตลาดเพื่อกลับบ้าน ก็ไปเจอกับยายคนหนึ่งเดินถือตะกร้ามาแล้วก็สะกิดแขน แล้วพูดออกมาเป็นภาษาส่วย ซึ่งพลอยฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยิ้มให้กับยายคนนั้น ยายเลยพูดเป็นภาษากลางว่า…

“หนูเอ้ยย ช่วยยายซื้อหน่อยนะ ยายเหลือไม่เยอะแล้วลูก”

“ยายเอาถั่วกับลูกกระบกมาขาย ยายขายไม่แพงหรอก ถุงละแค่ 10 บาทเอง ถือว่าช่วยคนเฒ่าคนแก่นะ”

แม้บทสนทนาจะดูเหมือนกับยายมีเจตนาเพียงจะขายของให้ได้ แต่ในขณะที่ยายกำลังพูดเจื้อยแจ้วอยู่นั่น กลับมีพฤติกรรมแปลกๆ คือยายคล้องตะกร้าไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง แต่อีกมือหนึ่งก็เอาแต่จับและลูบไล้แขนของพลอยไม่ยอมปล่อย มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว และจู่ๆยายก็พูดขึ้นมาว่า…

“ผิวหนูนี่เนียนนุ่มน่าดูเลยเนาะ … หนูไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ย”

“เปล่าค่ะยาย หนูเพิ่งมาจากกทม. เผอิญว่าได้มาเรื่องแถวอุบล เลยหาเวลาแวะมาเยี่ยมคุณพ่อกับแม่เลี้ยงที่นี่น่ะค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ยายคนนั้นก็ยังคงลูบไล้แขนของพลอยอยู่ตลอดเวลาที่พูดคุยกัน จนพลอยเองยังอดที่จะรู้สึกอึดอัดแปลกๆไม่ได้ เลยช่วยยายแกซื้อถั่วมา 2 ถุง ก่อนที่ยายแก่จะถามต่อว่า

“แล้วบ้านที่ว่าน่ะ อยู่ไหน…”

มาถึงจุดนี้ เป็นฝ่ายพลอยเองที่เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว รู้จักกันรึก็ไม่ใช่ แต่ยายคนนี้ดูพยายามตีสนิทชิดเชื้อมากพิกล ตอนนั้นพลอยอดคิดไม่ได้ว่าจะเจอมิจฉาชีพเข้าให้แล้ว หากแต่ความจริงกลับเป็นอะไรที่น่ากลัวและสะพรึงกว่านั้น หลานสาวที่ดูเหตุการณ์อยู่จึงตัดสินใจสะกิดเตือนพลอย ว่าไม่ต้องไปต่อความยาวคุยกับยายแกแล้ว รีบกลับบ้านกันดีกว่า

“อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลนี่แหละค่ะ” หลังตัดบทจากยายแก่ได้ ก็รีบพากันกลับบ้านในทันที

ในค่ำคืนเดียวกันนั้นเอง หลังจากทานข้าวและอาบน้ำอาบท่า ก่อนเตรียมตัวจะเข้านอน พลอยใช้เวลากับการเล่นมือถืออยู่พักหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจขึ้น เพราะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติที่มุ้งนอน อะไรที่ว่ามันดูคล้ายกับใบหน้าของคน ที่กำลังโน้มตัวลงมาพาดมุ้ง จนหย่อนลงมาเกือบจะถึงแขนทางด้านซ้ายของเธอ และด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัว พลอยเผลอทำมือถือหลุดออกจากมือ จนไม่ทันได้สังเกตว่า…มีบางอย่างมาสัมผัสที่แขนของเธอเข้าให้แล้ว

กว่าพลอยจะรู้ตัวก็ตอนที่รู้สึกถึงความเย็นวาบที่บริเวณแขน ราวกับมีใครเอาน้ำแข็งเย็นเยียบมาถูแขนเธอไปมา แต่เนื่องด้วยความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นต้นเหตุของความเย็นที่ว่า อย่างไรก็ตามยังคงมีแสงไฟจากจอคอมพิวเตอร์แลปท็อปสว่างพอให้เห็นรอบๆตัว หลังสายตาเริ่มชินกับความมืด พลอยก็ตระหนักแล้ว…ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในความมืด กระทั่งเคลื่อนแสงไจากจอไปจับกับสิ่งนั้น พลอยช็อคทั้งยืนจนแทบสิ้นสติเพราะสิ่งที่กำลังเห็นตรงหน้า มีใครบางคนกำลังลงลิ้น…เลียที่แขนนุ่มเนียนของเธออย่างเอร็ดอร่อย !! นั่นทำให้โสตประสาทของเธอสั่งการให้ร้องกรี๊ดอย่างดังที่สุดโดยไม่ต้องคิด กระทั่งพ่อกับแม่เลี้ยงที่นอนอยู่ชั้นบน ต้องวิ่งลงมาดูทันที

“พ..พ่อคะ! คะ..ใครก็ไม่รู้…มันเป็นใครก็ไม่รู้ โผล่หน้าเข้ามาในมุ้ง ทำเหมือนจะม..มากัดแขน แล้วมันก็แลบลิ้นมาเลียแขนหนู!!”

ฝ่ายพ่อก็เลยบอกให้แม่เลี้ยงดูสิว่ามันคืออะไร ก็พบว่าที่มุ้งก็มีรอยน้ำเหมือนน้ำลายและที่แขนก็มีรอยน้ำเหมือนน้ำลายเช่นกัน พอเห็นดังนั้นแม่เลี้ยงก็ไปเคาะประตูเรียกยายที่นอนอยู่ห้องข้างๆ ยายเลยเอาผ้าขาวม้าพาดคอแล้วเดินออกไปนอกบ้านแล้วพูดภาษาส่วยพร้อมกับจุดธูป จากนั้นก็ให้แม่เลี้ยงเอาธูปไปปักที่มุมบ้านทั้งสี่มุม แล้วให้พ่อเอาไม้ไปเคาะตามเสารั้วบ้านขณะที่ยายเดินไปพร้อมกับพ่อ

ยายก็พูดเป็นภาษาส่วย ฝ่ายแม่เลี้ยงหลังจากเอาธูปไปปักที่มุมบ้านเสร็จแล้วก็พาพลอยขึ้นบ้านไปไหว้พระและเอาตะกรุดมาให้ใส่ ส่วนยายก็ขึ้นไปสวดมนต์ หลังสวดมนต์เสร็จก็เอาสายสิญจน์มาคล้องที่คอ ข้อแขนและขาทั้งสองข้าง แล้วบอกให้พลอยเข้านอน ฝ่ายพลอยซึ่งกำลังเสียขวัญก็ขอที่จะกินยานอนหลับ แต่แม่เลี้ยงบอกว่า

“ต้องนอนแบบที่ถ้าไปปลุกแล้วต้องรู้สึกตัว ถ้าหลับแบบไม่รู้สึกตัวเขาจะมาเอาพลอยไปได้” !

ในที่สุดคืนนั้นพลอยก็ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วเผลอหลับไป

พอตื่นขึ้นมาประมาณเจ็ดโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ยายก็บอกพลอยว่า “อย่าพึ่งออกจากบ้าน” เพราะไม่รู้ว่าเขาไปรึยัง แล้วไปตามหมอธรรมมาทำพิธีให้ตอนเที่ยง และให้พลอยเอาไข่ไก่ดิบไปให้เขา เพื่อทำพิธี ฝ่ายแม่เลี้ยงก็จะออกไปหาของมาทำกับข้าวกินตอนเที่ยง ขณะนั้นมีรถขายผักมาจอดขายของอยู่อีกฟากหนึ่งของสนามฟุตบอลที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน แม่เลี้ยงก็เลยเดินผ่านสนามฟุตบอลเพื่อที่จะไปซื้อของ

ขณะที่แม่เลี้ยงเดินไปได้ประมาณครึ่งสนามก็หันหน้ากลับไปมองที่พลอย เหมือนแกจะตะโกนถามว่า จะเอาอะไรมั๊ยลูก คุณพลอยก็พยายามจะฟังว่าแกพูดอะไร จู่ๆก็ล้มลงที่กลางสนาม สักพักก็ลุกขึ้นมา ตาขวางใส่ แล้ววิ่งตรงอย่างเร็วไปหาพลอย น้าข้างบ้านที่กำลังตั้งท้องอยู่เห็นดังนั้น ก็รีบเข้ามาขวางแม่เลี้ยงไว้ ฝ่ายพ่อกับน้าเขยพอเห็นก็รีบเข้าไปช่วยกันจับแม่เลี้ยงเอาไว้ แล้วแม่เลี้ยงก็ตะโกนออกมาเป็นภาษาส่วยในลักษณะเหมือนการด่าทอ ตอนนั้นพลอยก็ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เพราะฟังไม่รู้เรื่อง ฝ่ายน้าสะใภ้ก็บอกว่า…

“หนู! รีบไปเอาเสื้อผ้า เอาของที่จำเป็น แล้วสตาร์ทรถไปเดี๋ยวนี้ !”

ฝ่ายพลอยที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไปเอาของบนบ้าน จากนั้นก็ขี่รถออกจากบ้านพร้อมกับน้าสะใภ้ไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งของญาติ แล้วน้าสะใภ้ก็บอกให้ พลอยอยู่ที่นี่ซักพักก่อน พอซักประมาณบ่ายสามโมงพ่อก็โทรมาหาแล้วก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า รู้มั๊ยว่าที่แม่เลี้ยงตะโกนน่ะ พูดว่าอะไร…

“กรุจะเอาเมิง กรุจะเข้าเมิง กรุจะสิงเมิง กรุจะเข้าหุ่นเมิง เอาตัวมัน… ถ้ากรุเข้าได้ กรุจะไปนอนกับผู้ชาย! ถ้าเมิงไปหาผู้ชายมานอนไม่ได้ กรุจะกินเมิงแทน !”

“กรุจะเข้า กรุจะเข้าาาา !!!”

พลอยเลยถามกลับว่าแม่เลี้ยงเป็นอะไรไป… พ่อเลยบอกว่าคนที่มาเข้าสิงเนี่ย..เขามาเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืน แต่คนในบ้านเราสวดไล่เขาตั้งแต่เมื่อคืน

“กรุเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืนแต่บ้านพวกเมิงสวดไล่กรุ จนถึงตอนเช้า..ถ้ากรุยังเข้าหามันไม่ได้ กรุถึงจะเข้าอินี่! ผ่านอินี่ไปหามันนนน”

อาศัยร่างแม่เลี้ยงเพื่อที่จะผ่านเจ้าที่เจ้าทางแล้วจะมาเข้าพลอย!

“กรุเลียมันแล้ว… รูมันไม่เปิด กรุเข้ามันไม่ได้ !”

แต่พ่อก็บอกว่าสบายใจได้ เพราะตอนนี้หมอธรรมทำพิธีให้แล้ว พร้อมกับบอกว่าพลอยน่ะไปสัมผัสไปให้เขาจับ ยายคนนี้จะมาตีสนิทกับผู้หญิงต่างถิ่นที่ผิวพรรณดี หน้าตาดี แล้วเขาก็จะมาสิงจากนั้นก็จะไปนอนกับผู้ชาย ให้มีอะไรกันกับผู้ชาย จนเสร็จกิจแล้ว..ตอนเช้าเขาก็จะออกไป แต่ถ้าหากมีญาติพี่น้องรู้ว่าโดนมันเข้า… ยายคนนั้นก็จะกินข้างในคนที่ถูกสิงแทน !!

มีประวัติผู้หญิงต่างถิ่นมาเสียที่นี่แล้วถึง 4 ราย และก็มีอีกไม่รู้กีคนที่ถูกเข้าสิงแล้วไปนอนกับผู้ชายแบบไม่มีสติอีก และก็มีคนบอกว่าคนที่จะโดนเข้าก็จะเป็นคงที่ธาตุอ่อน ดวงตก เขาก็จะเข้าได้ แต่โชคดีที่ตอนนั้นคุณพลอยดวงไม่ตกเขาเลยเข้ามาได้ ส่วนประวัติของยายคนนี้ก็คือ เมื่อก่อนนั้นยายจะเป็นคนที่ทำคุณไสยให้กับผู้หญิงทำให้มีเสน่ห์ให้คนหลงรัก แต่ก็ไม่มีลูกหลานคนไหนมาสืบทอดต่อ จนมันย้อนกลับเข้าตัวเอง ทำให้แกยังคงหมกหมุ่นเรื่องแบบนี้อยู่ พอเวลามีงานเทศกาลต่างๆ ยายคนนี้ก็จะแต่งตัวสวยๆออกจากบ้าน แต่จะไม่มีใครเห็นยายที่งานเลย และก็จะมีข่าวว่ามีหญิงสาวหมู่บ้านอื่นถูกลักไปหรือถูกรุมโซมตลอด

หลังจากนั้น พ่อของคุณพลอยก็ให้คุณพลอยกลับไปที่บ้านพักที่จ.อุบลเลย เพราะกลับมาที่บ้านพ่อไม่ได้แล้ว พอวันรุ่งขึ้นคุณพลอยตื่นม ารอยที่โดนเลียนั้นก็เป็นสีม่วงช้ำ เหมือนคนโดนทุบโดนตี เป็นอยู่ 10 กว่าวันรอยนี้ถึงจะหายไปหลังจากเหตุการณ์นี้คุณพลอยก็ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านนั้นอีกเลย

ขอบคุณที่มาเรื่องเล่าผี : ต้องรีบออก โดยคุณพลอย the shock 13 FM

อ่านเรื่องเล่า เรื่องผีเดอะช็อค เรื่องอื่นๆ >> คลิก

กลับสู่หน้าแรก สยองสแควร์