โคตรหักมุม! ห้องพักหลอนย่านหลักสี่ ที่หนีผีแต่ไปเจอผีอีกตัว

ประสบการณ์สยองขวัญ
#น้องไม่กลัวพี่เหรอ
เล่าโดย : คุณแคร์

    เป็นประสบการณ์ที่เพื่อนเล่าให้คุณแคร์ฟัง เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แถวย่านหลักสี่ เมื่อแปดปีที่ผ่านมา เพื่อนของคุณแคร์ ชื่อโต้ คุณโต้กับคุณแคร์อายุเท่ากัน แต่คุณโต้จะมีลักษณะพิเศษก็คือ ผมจะหงอกมากกว่าคนรุ่นเดียวกัน

    ด้วยความสงสัย คุณแคร์ก็ถามว่า “โต้ ผมเนี่ย หงอกตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเลยหรือเปล่า” คุณโต้ตอบกลับมาว่า “เมื่อก่อนไม่ได้เป็นอย่างงี้นะ แต่ว่ามันมีสาเหตุ” คุณโต้จึงเริ่มเล่าเรื่องให้คุณแคร์ฟังว่า

    เมื่อประมาณแปดปีที่ผ่านมา คุณโต้กับแฟนย้ายหอพักไปอยู่แถวหลักสี่ เป็นซอยตัน หอพักจะมีห้าชั้น สภาพโดยรอบค่อนข้างร่มรื่น คุณโต้พักอยู่ที่ชั้นห้า ห้องห้าศูนย์ห้า แต่ห้องนี้มีลักษณะที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือภายในห้องจะมีประตูเชื่อมไปยังห้องห้าศูนย์หกที่อยู่ข้างๆ ที่เรียกกันว่าห้องคอนเนค

    หลังจากที่จัดของเสร็จเรียบร้อยแล้ว แฟนก็ขอตัวกลับบ้านที่ต่างจังหวัด คุณโต้จึงไปส่งแฟนขึ้นรถ แล้วกลับมานอนที่ห้อง สักพักได้ยินเสียงเคาะประตูทางเชื่อมไปยังห้องห้าศูนย์หก “ก๊อกๆๆๆ”

    คุณโต้ตกใจ คิดว่าใครมาเคาะประตูห้องดึกๆดื่นๆ จึงลุกขึ้นไปเปิดดู ก็เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนยิ้มให้ ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นว่า “สวัสดีครับ น้องย้ายมาอยู่ใหม่เหรอ ยินดีรู้จักนะ พี่ชื่อยุท” คุณโต้จึงแนะนำตัวกลับไป

    คุณยุทก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย จนคุณโต้มาสะดุดคำถามที่คุณยุทยิงมาว่า “น้อง น้องกลัวผีหรือเปล่า” คุณโต้นึกในใจว่าคุณยุทแกจะมาไม้ไหน จึงตอบไปว่า “ยังไม่เคยเจอครับ แต่ก็กลัวๆอยู่เหมือนกัน พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ ถึงถามแบบนี้”

    พี่ยุทตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก พี่ถามไปอย่างงั้นเอง ถ้าน้องมีอะไรก็เคาะประตูเรียกพี่ได้เสมอนะ ส่วนมากพี่ก็จะอยู่ในห้องนี่แหละ” คุณโต้ก็ตอบขอบคุณกลับไป ถือซะว่าได้เพื่อนข้างห้อง

    คืนนั้นคุณโต้นอนไม่ค่อยหลับ อาจจะเป็นเพราะว่าแปลกที่แปลกทาง จนเวลาประมาณตีสอง ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างอยู่ใต้เตียง เป็นเตียงไม้ประกอบ ลักษณะเสียงเหมือนมีหนูวิ่งอยู่ใต้เตียง “ตุ๊บๆๆๆๆ”

    คุณโต้นอนฟังนิ่งๆ คิดหาวิธีที่จะทำให้หนูมันออกมาจากใต้เตียง ในขณะที่กำลังนอนฟัง เสียงมันเริ่มดังขึ้น จนเหมือนไม่ใช่เสียงหนูวิ่ง “ปึ้งๆๆๆ” มันเหมือนมีคนเอามือตบที่ปลายเตียง

    จากเสียงตบ เริ่มกลายเป็นเสียงเล็บที่ขูดไปกับฝาไม้ของเตียง “ครืดๆๆๆๆ” คุณโต้นอนฟังอยู่นาน เริ่มแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่เสียงของหนูแน่ จึงลุกขึ้นนั่ง ในจังหวะนั้นเอง มีเสียงคนเอามือตบที่ปลายเตียงอีกครั้ง “ปึ้ง!!” จนฝาเตียงด้านข้าง ดีดเปิดออกเอง ทำให้เห็นเป็นช่องดำๆใต้เตียง

    คุณโต้สะดุ้ง ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง พรางคิดว่าไม้มันดีดออกมาได้ยังไง จึงเดินไปเปิดไฟ แล้วหยิบไฟฉายมาส่องดูที่ใต้เตียง เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันมีอะไรอยู่ใต้เตียง แต่ก็พบเพียงแค่ฝุ่นผงกับหยากไย่

    จึงสรุปเอาเองว่า เตียงมันคงจะเก่า เวลาทิ้งตัวนอนลงไป ทำให้น็อตหรือหมุดยึดมันคลายตัว คุณโต้ดันแผ่นไม้ที่อ้าออกกลับเข้าที่ ได้ยินเสียงพี่ยุทเคาะที่ประตูทางเชื่อม พร้อมกับพูดว่า “น้อง พี่ได้ยินเสียงทุบอะไรในห้องน้องหลายรอบแล้ว มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”

    คุณโต้จึงเดินไปเปิดประตู แล้วบอกว่า “ไม่มีอะไรครับพี่ เตียงมันลั่น” พี่ยุทพูดเหมือนกับแกล้งคุณโต้ว่า “เหรอ พี่นึกว่าน้องโดนซะแล้ว” คุณโต้ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่คิดว่าพี่ยุทคนนี้ ต้องเป็นคนที่นิสัยเสียแน่ๆ ถึงชอบมาอำเรื่องแบบนี้

    คืนนั้นคุณโต้นั่งดูทีวีทั้งคืน เพราะหลับไม่ลง อาศัยนอนช่วงกลางวัน จนคืนต่อมา ก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม รู้สึกระแวงไปทั่ว กลัวว่านอนไปแล้วจะได้ยินเสียงอะไรอีก จนเวลาย่างเข้าตีสอง

    เสียงใต้เตียงก็เริ่มดังขึ้นอีก เริ่มจากเสียง “ตุ๊บๆๆๆ” ดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคืนแรกไม่มีผิด คุณโต้เริ่มคิดในใจแล้วว่า แบบนี้มันไม่ปกติ ต้องมีอะไรสักอย่าง ควรจะทำยังไงดี หรือจะเดินไปเคาะห้องข้างๆ ให้พี่ยุทมานั่งคุยเป็นเพื่อนดีหรือเปล่า

    ในขณะที่กำลังนั่งคิดอยู่ แผ่นไม้ข้างเตียงแผ่นเดิม มันดีดออกมาอีกครั้ง “ปึ้ง!!” ถึงคุณโต้จะสะดุ้ง แต่ก็ยังคงนอนนิ่ง ดูสถานการณ์ต่อว่า ถ้าเจ้าแผ่นไม้มันดีดเปิดออกมาแล้ว เสียงต่างๆที่อยู่ใต้เตียงมันจะหายไปหรือเปล่า

    ถ้าเสียงทุกอย่างหายไป งั้นแสดงว่ามันเป็นเพราะเตียง คุณโต้นอนมองไปตรงมุมเตียง ที่แผ่นไม้มันดีดตัวเปิดออก ปรากฏว่าคุณโต้เห็นมือยื่นออกมาจากช่องโหว่ที่ไม้มันดีดตัวเปิดออก

    ลักษณะเป็นมือขาวซีดเล็กๆ โผล่ออกมาขึ้นแขน คุณโต้มองด้วยตาที่เบิกโพลง แขนสีซีดนั่นค่อยๆงอข้อศอก แล้วตบลงบนเตียงนอน “ตุ๊บๆๆ” ลักษณะเหมือนกำลังหาของอะไรสักอย่างบนเตียง

    จนเฉียดปลายเท้าของคุณโต้เพียงเล็กน้อย คุณโต้อยากจะหุบขากลับเข้ามา แต่ความกลับมีมากเกินไป จนทำให้ตัวชา ได้แต่นอนตัวแข็ง จ้องสิ่งที่น่าขนลุกด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

    มือเล็กๆซีดๆนั่นก็ค่อยๆหดกลับเข้าไป แต่มีอีกมือหนึ่ง เป็นมือข้างขวา ค่อยๆยื่นขึ้นมาจากด้านขวาของเตียง แล้วตบลงบนที่นอน เหมือนกับพยายามจะคลำหาอะไรสักอย่าง “ตึบๆๆ” จากที่ยื่นออกมาทีละข้าง แต่ตอนนี้มันกลับยื่นออกมาพร้อมกันสองข้าง ทั้งซ้ายและขวา ค่อยๆตบลงบนที่นอนเบาๆ “ตึบๆๆ”

    คุณโต้ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนตัวสั่นอยู่กลางเตียง ไม่รู้ว่าตัวเองสวดมนต์ไปแล้วกี่จบ สักพักใหญ่ๆ มือทั้งสองข้างก็ค่อยๆหดกลับเข้าไปใต้เตียง คุณโต่คิดในใจว่า ต้องรีบวิ่งไปเคาะห้องพี่ยุทให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นต้องแย่แน่ๆ

    แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัว คุณโต้ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง อยู่ข้างๆเตียง คล้ายๆเสียงเหมือนกับคนลากของอะไรสักอย่าง ด้วยความสงสัย คุณโต้ค่อยๆผงกหัวขึ้นช้าๆ เพื่อไม่ให้อะไรก็ตามที่อยู่ตรงนั้นรู้ตัว

    ปรากฏว่าเป็นร่างของผู้หญิง ไม่มีหัว และน่าจะไม่มีขา ใช้มือลากลำตัวอยู่ข้างๆเตียง แล้วใช้มือป่ายขึ้นมาบนขอบเตียง ค่อยๆดึงลากลำตัวไปเรื่อยๆ “พรืดดดด..พรืดดดด..พรืดดดด” เหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างในห้อง

    คุณโต้คิดว่านาทีนี้คือที่สุดแล้ว นอนตัวเกร็งจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไม่รู้จะทำยังไง ตัดสินใจดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง กระโดดทีเดียวไปถึงหน้าประตูห้องข้างๆ ตุบประตูเรียกคุณยุทด้วยอาการลนลาน “พี่ๆๆๆ”

    สักพักได้ยินเสียงอีกฝั่งหนึ่งตะโกนมาว่า “เออ อะไรน้อง อะไร” แล้วรีบเปิดประตูพรวดเข้ามา คุณโต้พูดด้วยเสียงตะกุกตะกักว่า “พี่ ผีหลอก ผมโดนพี่หลอก” พี่ยุทพูดแทรกขึ้นว่า “น้อง ใจเย็นๆ น้องฝันหรือเปล่า”

    คุณโต้ตอบน้ำเสียงสั่นๆว่า “ไม่ได้ฝันพี่ ผมยังไม่ได้นอนเลย เตียงมันเปิดออกมาก่อน” พี่ยุทแกพูดด้วยเสียงนิ่งๆว่า “คนที่มาเช่าอยู่ก่อนน้อง เค้าก็เจอนะ แต่ไม่เจอหนักเหมือนน้อง”

    ระหว่างนั้น คุณโต้หันกลับไปมองที่เตียง ผู้หญิงที่คลานอยู่รอบๆห้อง ตอนนี้หายไปแล้ว คุณยุทพูดออกมาคำนึงว่า “น้องกลัวผู้หญิงคนนั้นเหรอ” คุณโต้ตอบในขณะที่กำลังสอดส่องสายตาไปรอบๆห้องของตัวเองว่า “กลัวสิครับพี่”

    คุณยุทถามด้วยเสียงเย็นๆว่า “แล้วน้องไม่กลัวพี่เหรอ” คุณโต้หันกลับมาทันที ปรากฏว่าไม่มีใครยืนอยู่ตรงหน้าของคุณโต้ มีเพียงแค่ความมืดสลัวๆ คุณโต้เพ่งมองเข้าไปในห้องของคุณยุท

    เป็นห้องมืดๆที่ว่างเปล่า แสงไฟจากด้านนอกสาดเข้ามาทางระเบียง ทำให้มองเห็นว่าเตียงไม่ได้ถูกคลุมผ้าไว้ เป็นแค่ฝูกเปล่าๆ ประตูตู้เสื้อผ้าเปิดทิ้งไว้ทั้งสองบาน เพื่อระบายอากาศ มีกลิ่นละอองฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่ทั่วห้อง

    ในขณะนั้น คุณโต้ลืมเรื่องของผู้หญิงที่คลานอยู่รอบเตียงทันที อึ้งอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ในหัวตีกันมั่วซั่ว คิดว่าคุณยุทหายไปไหน ความกลัวแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย เริ่มจุกที่ท้องน้อย จนทำให้คุณโต้เข่าอ่อน ทรุดตัวนั่งลงคาประตู

    พยายามมองเข้าไปในห้องของคุณยุท เผื่อว่าเรื่องนี้มันจะเป็นแค่การล้อเล่น จังหวะนั้น สายตาเหลือบไปมองที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปรากฏว่าเห็นหน้าของคุณยุท โผล่ออกมาจากในกระจก เปล่งเสียงแหบๆออกมาว่า “น้องไม่กลัวพี่เหรอ”

    เป็นความกลัวที่สุดจะบรรยายออกมาได้ คุณโต้ตะเกียกตะกายมาเปิดประตูห้อง แล้ววิ่งหนีลงบันไดแบบไม่คิดชีวิต มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่ตัวเองกำลังนั่งอยู่หน้าเซเว่น หน้าปากซอย นั่งตัวสั่นจนถึงเช้า

    วันรุ่งขึ้น แฟนก็กลับมา คุณโต้จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และขอย้ายออกวันนั้นเลย ก่อนที่จะออก คุณโต้ได้เข้าไปถามผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าผู้ดูแลไม่ยอมบอก บอกแค่ว่า “ไม่มีอะไร”

    หลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์ ด้วยความที่คาใจ คุณโต้จึงกลับไปถามคนที่อยู่แถวนั้น เป็นแม่ค้าที่ขายของอยู่ในซอย แม่ค้าบอกว่า ผู้หญิงคนนั้น อาศัยอยู่ในห้องห้าศูนย์ห้ากับสามีชาวจีน

    แต่ผู้หญิงแอบเล่นชู้กับผู้ชายห้องข้างๆ นั่นก็คือคุณยุท จนสามีชาวจีนจับได้ จึงฆ่าทั้งคู่ แล้วตัดหัวกับขาของผู้หญิงตัวเอง ทยอยเอาออกไปทิ้ง จนเหลือส่วนลำตัว แต่โดนจับได้สะก่อน

    เหตุการณ์นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณโต้ มีผมหงอกก่อนวัยอันควร และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด