ตำนานเฮี้ยนของตั้มวิชญะจารุจินดา

เรื่องราวของตั้มวิชญะจารุจินดา เริ่มต้นขึ้นในหมู่บ้านหนึ่งที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของป่าใหญ่ ในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อเดือนเต็มดวงส่องแสงจ้า เป็นคืนที่ผู้คนในหมู่บ้านได้ยินเสียงกระซิบเล่าเรื่องขึ้นมาอย่างน่ากลัวเกี่ยวกับตั้มวิชญะจารุจินดา ผู้ที่เคยเป็นคนธรรมดา ก่อนจะกลายเป็น วิญญาณที่ไม่สงบ ตัวเขาได้รับการกล่าวถึงในฐานะที่เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ แต่ด้วยพลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เขาเผชิญกับชะตากรรมที่น่าสยดสยองตั้มวิชญะจารุจินดา เป็นเด็กหนุ่มผู้มีพลังจิตที่เหนือธรรมชาติ เขาสามารถเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น มีการทำนายอนาคตได้ แต่ความสามารถนี้กลับมาพร้อมกับความเลวร้าย เพราะทุกครั้งที่เขาทำนายอะไร แสดงว่าสิ่งนั้นจะต้องเกิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อตั้มเริ่มเห็นวิญญาณที่ล่องลอยอยู่รอบตัวเขา มันส่งผลให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และความกลัวที่มีอำนาจสุดท้ายเขาพบวิญญาณหนึ่งที่ต้องการคำตอบ ตั้มพยายามจะสื่อสาร แต่กลับพบว่ามันเป็นความผิดพลาดที่เลวร้าย วิญญาณนั้นสั่งให้เขาต้องทำสิ่งที่เขาไม่ต้องการการต่อสู้เกิดขึ้นในจิตใจของเขาและทำให้เขาตัดสินใจผิดพลาดแยกตัวออกจากผู้อื่นจะกระทบอย่างมากเมื่อความจริงเปิดเผยออกมาตั้มวิชญะจารุจินดา แต่ละคืนเขาเห็นภาพของการเสียชีวิตของคนที่ไม่รู้จัก รู้ว่าตัวเองไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าเริ่มพอกพูนขึ้น จนในที่สุดเขาได้ตัดสินใจที่จะจบชีวิตตัวเองในวันแรม 15 ค่ำ บนเขาที่เขาเคยเล่นในวัยเด็ก เสียงที่ทุกคนได้ยินในคืนหมู่บ้านนั้นสั่นสะเทือนจิตใจเพราะมันเกิดจากการจากไปของจิตที่ยังดองดึง วิธีที่เขาจากไปทำให้วิญญาณของเขากลายเป็นของเล่นของวิญญาณอื่น ในขณะที่คนในหมู่บ้านเคยชินกับเสียงซึ่งเต็มไปด้วยความสยดสยอง จนกระทั่งเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานมาถึงวันนี้ตตั้มวิชญะจารุจินดา ยังเป็นที่กล่าวถึงในสถานที่ต่างๆ เพราะเชื่อกันว่า คนที่ได้รับพลังจิตหรือสามารถเห็นวิญญาณมีโอกาสสูงที่จะพบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด และบางคนถึงขั้นเกิดประสบการณ์ที่หลอนอย่างรุนแรง