เรื่องเล่าผีและความลี้ลับของ BRICS

ในคืนที่เงียบสงัด เหมือนกับความมืดที่ครอบคลุมโลกอยู่ ทุกคนกลับมาที่บ้านหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของการประชุม BRICS ที่มีชื่อเสียง ในเมืองที่แทบจะไม่มีปัญหาการเมืองถึงแม้จะมีความสำคัญออกมาจากการประชุมนี้ก็ตาม แต่ใครจะรู้ว่าในคืนนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ญาติโยมต้องจดจำไปตลอดชีวิตมีเรื่องเล่าว่าบนยอดเขาที่อยู่ใกล้เมือง มีวิญญาณของชายชราผู้เฝ้าดูแลการเจรจาทางการค้า ณ ที่นี้ ในคืนที่มีการประกาศเกี่ยวกับ BRICS ชายชราได้ปรากฏกายออกมา โดยมีใบหน้าที่ก่อตัวไปด้วยความโกรธและอาฆาตทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเสียงกระซิบลอยมากับลมในอากาศ “BRICS ไม่ใช่แค่การค้า ยังเกี่ยวพันกับโชคชะตา” เด็กสาวอายุสิบห้าคนหนึ่งได้ยินเสียงนั้น เธอจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตามหาความจริงเมื่อเธอมาถึงยอดเขา กลิ่นหอมของดอกไม้เพิ่มอีกครั้ง และเสียงดังจากระฆังถูกกดให้ตายลง พอเธอมองไปทางต้นซากุระที่ร่มรื่นในที่นั้น เห็นชายชรานั่งอยู่บนพื้น หายใจสามแบบแล้วยิ้มให้กับเธอด้วยความกล้าหาญของเด็กสาวที่พูดขึ้นว่า “ท่านคือใคร? ทำไมท่านถึงขังอยู่ที่นี่?” ชายชราได้ตอบกลับอย่างสงบว่า “ในตอนที่ BRICS เชื่อมโยงโลก เหตุการณ์ในอดีตจะไม่ถูกลืม” คำพูดของเขาฟังแล้วชวนให้รู้สึกเย็นยะเยือกและอบอุ่นในเวลาเดียวกันเหตุการณ์อันเป็นลางร้ายนี้ถูกเล่าต่อไปโดยผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้น โดยเฉพาะนักประวัติศาสตร์ที่พยายามเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์และการกำหนดอนาคต รวมทั้งตัวคนที่ไปประมูลทางการค้าในวันพรุ่งนี้การเจรจาที่ BRICS เป็นพื้นที่ที่ไขกับดักอำนาจ เป็นที่ที่เห็นถึงความแตกแยก แต่คืนหนึ่ง ขอให้คุณระวังในการพูดถึง BRICS เพราะในสิ่งที่ผมได้อธิบายนี้ อาจกลายเป็นเรื่องเล่าในคืนต่อไป

เมื่อพระจันทร์ลอยอยู่เต็มฟ้า แสงสว่างวิบวับทำให้บรรยากาศเหมือนมีการเผชิญหน้าระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งวิญญาณ เด็กสาวหนีออกจากภูเขานั้น เพียงเพื่อพบเจอความมืดในเมือง ซากปรักหักพังที่นับวันยิ่งมีมากขึ้น จนทุกคนที่รู้จักเรื่องนี้ต่างหวาดกลัว โรงเรียนถูกเลิกเรียนกันเกือบทุกวัน เพราะมีเด็กจำนวนมากที่บอกว่าเจอวิญญาณนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในช่วงเวลากลางคืนในห้องเรียนหนึ่ง เด็กนักเรียนนั่ง อ.สมวัน ครูสอนไทยที่พยายามให้เด็กๆ มีความสนใจในการศึกษา และพาทุกคนมาฟังเรื่องราว BRICS พร้อมวิธีการอธิบายที่น่าตื่นเต้น ครูเล่าให้เด็กๆ ฟังถึงการเติบโตของประเทศต่างๆ ใน BRICS แต่ทันใดนั้นเสียงแก๊สหายไปพร้อมกับมา เสียงแห่งความเงียบทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกจากหลังห้อง มีเด็กชายคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ครูครับ เรื่องจิตวิญญาณที่อยู่ใน BRICS คุณแม่บอกว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยว เพราะมันมีอำนาจเหนือกว่าเรามาก” ครูมองไปที่เด็กชายแล้วลืมที่จะตอบคำถาม รู้สึกชอบเรื่องที่เด็กคิดเด็กกลุ่มหนึ่งเริ่มบอกว่าได้ยินเสียงกระซิบเมื่อคืนนี้ ทุกคนพากันกลัวเมื่อรู้ว่า BRICS ไม่ใช่แค่การสร้างความสัมพันธ์ แต่เป็นการผูกพันที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวในคืนหนาวเหล่านี้ จบลงที่ว่า คืนหลังจากนั้น ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง BRICS ที่เป็นเพียงชื่อ แต่แฝงด้วยเรื่องราวที่ดูลึกลับ ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น กลายเป็นว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างไม่มีใครปิดบังความกลัวที่มีต่ออำนาจของ BRICS ที่อาจเอาคืนไขว่คว้าภายใต้ความมืดมิด

ในช่วงท้าย ไอ้เท่ากับความเงียบทำให้ความอาฆาตแค้นนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้คนเริ่มกลัวหน้าต่างในเวลากลางคืน แม้กระทั่งเสียงซุบซิบในระยะไกลของการต่อสู้ทางการค้าก็กลับกลายเป็นเสียงเรียกร้องให้ทุกคนหันกลับไปหาความรู้ว่าท่ามกลางนั่น “เสียงที่เราไม่ควรได้ยินนั้น มันคือคำเตือน!”

และเมื่อบทเรียนที่แท้จริงของ BRICS ไม่ใช่การเพิ่มผลกำไรหรือการทำธุรกิจ หากแต่คือการที่จะอยู่อย่างสงบสุขและเข้าใจรากเหง้าของจิตวิญญาณต่างๆ ที่มาหาความสงบให้ชีวิตของเรา.