ท้าดู! รวม 31 หนังผีน่ากลัวขึ้นหิ้ง + เหตุผลที่ทำไมควรดู?

ผู้ใช้สมาชิก sixthsense ได้มาแชร์ลิสต์รวบรวมหนังผีน่ากลัวและสยองขวัญที่ตนเองชื่นชอบ 31 เรื่อง มาแนะนำให้ได้เป็นแนวทางหาหนังมาดูกัน โดยความตั้งใจของลิสต์นี้คือ เลือกเอาหนังผีที่ยังพอหาดูได้ไม่ยากนัก เพราะหากอยากดูแต่ไม่สามารถหาหรือชมได้ยาก มันก็ไม่มีประโยชน์ | เรื่องอันดับ เป็นเพียงความชอบของแต่ละบุคคล | หลายๆเรื่องในลิสต์ ด้วยความรู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยมหรือบางเรื่องก็สนุก เสียจนน่าเสียดาย ที่หากความสนุกของหนัง จะมาบดบังความสยองแบบหนังผีไปบ้าง แต่ก็บันเทิงพอที่จะหามาดู | หลาย ๆ เรื่องอาจจะไม่ปรากฏอยู่ในลิสต์นี้ นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี

31 หนังผีน่ากลัว ที่ไม่ควรพลาด …. หลอนกันให้เข็ด

อันดับหนังผีสยองขวัญ

31.    The Pact (2012) บ้านหลอนซ่อนตาย

: หนังผีฟอร์มเล็กที่มันส์เกินคาด! เรื่องราวว่าด้วยแอนนี่ได้กลับไปยังบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อสมัยเป็นเด็ก เพื่อจัดงานศพให้แม่ของเธอ แต่จู่ๆ ‘นิโคล’ พี่สาวของเธอกลับหายตัวไปไร้ร่องรอย เธอเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นในบ้านหลังนี้ และลงมือสืบหามัน

เป็นเรื่องที่ลุ้นใช้ได้ มีหักมุม แม้จะไม่ได้น่ากลัวหรือชวนตกใจนัก แต่กลับสร้างบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้ใจได้ดี แม้กระทั่งตอนจบก็ยังเหลือ clue ไว้ให้ไปจินตนาการต่อ!

30.    Insidious (2011) วิญยาณตามติด

: หนึ่งในแฟรนไชส์หนังผีชื่อดังของผู้กำกับสายแมสแห่งยุคอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ผู้มีโปรเจคมากมายที่หยิบจับอะไรก็ล้วนทำเงิน นี่เป็นหนังผีเรื่องแรกๆที่สร้างชื่อให้กับเขาในวงกว้าง จนมีภาคต่อตามมาอีกเป็นพรวน! หนังพูดถึงครอบครัวหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ในบ้านที่คนพ่อซื้อมาราคาถูกๆ แต่แล้วลูกชายก็มีอาการแปลกๆ คือชอบละเมอ และฝันเห็นอะไรแปลกๆ จนกระทั่งเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางว่า เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้าน อาจไม่ได้เป็นเพราะอาถรรพ์ของบ้าน แต่บางอย่างที่ว่ามันตามเด็กมา! เรื่องนี้มีเซ็ตติ้งโลกในหนังเป็นของตัวเอง ซึ่งจะเชื่อมโยงกับภาคอื่นๆที่ออกตามมา เป็นหนังผีที่ค่อนข้างจะแฟนตาซี มีเรื่องของภพ มิติ และปีศาจ รวมอยู่ในเรื่องเดียว!

29.    คน ผี ปีศาจ (2004)

: ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ ‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ’ อีกหนึ่งหนังทริลเลอร์/สยองขวัญของไทยที่ถือว่ามีดีอยู่ในตัว เรื่องราวพูดถึงเด็กสาวที่ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กในโรงพิมพ์แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าสนิมเขรอที่ดูลึกลับพิกล มิหนำซ้ำป้าที่เป็นเจ้าของก็ดูน่ากลัวแบบที่ว่าคาดเดาไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ เป็นหนังระทึกขวัญแนวๆกักขังในพื้นที่จำกัด ที่มีดีตรงการสร้างบรรยากาศกดดันและแฝงการวิพากษ์สังคมไว้ แม้ว่าจะน้อยคนที่รู้จัก เนื่องจากในปี 2004 ถูกกลบด้วยหนังผีระดับตำนานไทยอย่างชัตเตอร์ซะมิด

อันดับหนังผีสยองขวัญ

28.    ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)

: หากพูดถึงหนังสยองขวัญในหมวดหนังผีของไทย ‘ชัตเตอร์’ คงเป็นเรื่องแรกๆที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคุย เนื่องจากเป็นกระแสอย่างแรงในสมัยที่ออกฉาย หนังหยิบยกเรื่องราวของภาพถ่ายติดวิญญาณทั้งหลายมาผูกกับประเด็นดราม่าที่พบเจอได้ทั่วไปอย่าง ‘ความรู้สึกผิด’ ต่อการกระทำในอดีต แม้หนังจะไม่ได้เน้นความน่ากลัวเต็มสูบ แถมยังได้กลิ่นอายของผีเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี แต่เรื่องนี้ก็นับว่าเป็นต้นแบบของหนังผีไทยหลายๆเรื่องต่อมา โดยเฉพาะฉากขึ้นหิ้งอย่าง “ผีขี่คอ” อันลือลั่น!

27.    The Conjuring (2013) คนเรียกผี

: อีกหนึ่งแฟรนไชส์ทำเงินของผู้กำกับมือดีอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ซึ่งนอกจากจะมีภาคต่อเป็นพรวน ยังมีภาคแยกย่อยอีกมากมาย จนเรียกว่าเป็นหนังจักรวาลหนังผีเหมือนหนังซุปเปอร์ฮีโร่เค้าทำกันแล้ว โดยเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอย่างดงาม หนังหยิบเอาประเด็นเรื่องจริงของ ‘มือปราบสิ่งลี้ลับ’ คู่หูสามีภรรยาที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือเคสอาถรรพ์คำสาปต่างๆ เหมือนเป็นศูนย์บรรเทาทุกข์ผี อันที่จริงเรื่องนี้ได้รับการชื่นชมในแง่การสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวกดดัน โดยไม่ต้องพึ่งฉากตุ้งแช่ แต่กับคนที่จิตแข็งมากหน่อย อาจจะเฉยๆไปเลย

26.    Below (2002) ดิ่งลึกหลอนสยอง

: หนังลึกลับสยองขวัญที่มีคอนเซปต์คือ “ความกลัวของมนุษย์” หนังพูดถึงลูกเรือดำน้ำทางการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีภารกิจต้องดำดิ่งลึกลงไปในโลกที่ไร้แสงสว่าง ความมืด ความไม่รู้ เป็นจุดเริ่มต้นของความกลัว นอกจากข้าศึกในสงคราม ภัยอันตรายใต้ทะเล ยังมีเรื่องราวตำนานลึกลับที่ถูกกล่าวขาน ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้จิตใจของผู้คนในที่แคบๆเริ่มสั่นคลอน

แม้ตัวหนังจะเล่าช้าๆ แต่ด้วยบรรยากาศในที่แคบ ทำให้เรารู้สึกกดดันและมีส่วนร่วมตามไปด้วยไม่ยากเย็น

อันดับหนังผีสยองขวัญ

25.    Three อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต (2002)

หนังผีสยองขวัญร่วมทุนสร้างของ 3 ชาติ คือไทย เกาหลี และฮ่องกง โดยได้ 3 ผู้กำกับจากแต่ละชาติมารังสรรค์ไอเดียของตัวเองลงในหนังซึ่งแบ่งย่อยเป็นสามตอนที่เป็นเอกเทศกัน ถือว่าเป็นอีกหนังผีไทยในยุครุ่งเรื่องของหนังผี

ตอนที่ 1 : The Wheel โดย นนทรีย์ นิมิตรบุตร (#ประเทศไทย)

เรื่องราวของคณะละครหุ่นกระบอกที่ในอดีตบรรพบุรุษได้รับสืบทอดมาโดยไม่ชอบ จนนำคำสาปตกทอดมายังรุ่นลูกหลาน มีอันต้องเป็นไป เป็นตอนที่เน้นแสดงออกถึงความเป็นผีไทย มีผีนางรำ  ผีชฎา เนื้อหาตามสูตรที่จะเริ่มจากความแค้นที่นำมาสู่คำสาป

ตอนที่ 2 : Memories โดย คิมจีวุน (เกาหลีใต้)

เป็นตอนที่เริ่มต้นด้วยบรรยากาศคล้ายหนังระทึกขวัญ ซึ่งพูดถึงหญิงสาวผู้สูญเสียความทรงจำ และพยายามจะสืบความเป็นมาขอบตนเองจากร่องรอยที่มี แม้ว่าสิ่งที่รอคอยอยู่ปลายทางจะเป็นอะไรที่ชวนขนลุกก็ตาม ฉากผีเอานิ้วจกเข้าไปในหัวตอนท้ายเรื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งฉากไอคอนนิคของหนังผีระดับคลาสสิค!

ตอนที่ 3 : Going Home โดย ปีเตอร์ ชาน (ฮ่องกง)

หนังตอนนี้เล่าถึงชายคนหนึ่งที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับร่างไร้วิญญาณของภรรยาในห้องเช่าเก่าๆ รายกับเธอยังคงมีชีวิตอยู่ หนังพาเราไปดูว่าทำไมชายคนหนึ่งถึงยังควรักภรรยาได้ขนาดนี้ จนดูเหมือนกับเป็นหนังรักที่เศร้ามากกว่า จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่หนังเปิดเผยถึงความลับหักมุมที่สมกับเป็นหนังสยองขวัญ กับตอนจบที่ชวนสะเทือนใจคนดูเป็นอย่างมาก

อันดับหนังผีสยองขวัญ

24.    Session 9 (2001) โรงพยาบาลซ่อนหลอน

เรื่องราวของคณะเก็บกวาดที่ถูกส่งมาโรงพยาบาลจิตเวชเก่าร้าง เพื่อเตรียมปรับปรุงพื้นที่ แต่ที่นี่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยประวัติดำมืด พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีภัยบางอย่างค่อยๆคืบคลานเข้ามา ลูกทีมเริ่มเป็นบ้า กระทั่งไปพบวิดีโอเทปลับม้วนหนึ่งซึ่งเป็นของคนไข้จิตเวชที่เคยก่อเหตุชวนเหลือเชื่อ

หนังมีเทคนิคที่แพรวพราว บรรยากาศของโรงพยาบาลร้างชวนให้หลอนอยู่ในใจ ในการทำให้คนดูรู้สึกระแวดระวัง ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ ปริศนาต่างๆที่ซ่อนอยู่ซึ่งถูกเฉลยในช่วงท้ายก็หักมุมแบบที่เดาได้ไม่ง่าย

อันดับหนังผีสยองขวัญ

23.    The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสท์

หนังสยองขวัญขึ้นหิ้งระดับคลาสสิค ที่ต่อมามีการนำมารีเมคหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการยอมรับเท่าภาคแรกในปี’73 อีกเลย

หนังว่าด้วยเรื่องราวของลูกสาวดาราชื่อดังที่มีอาการคล้ายจิตเภท เด็กสาวที่เคยเรียบร้อยกลับสบถด้วคำหยาบคาย รูปร่างหน้าตาที่นับวันก็ยิ่งดูเหมือนคนป่วยหนัก  จนสุดท้ายต้องเดือดร้อนหลวงพ่อมาทำพิธีปราบผี หากแต่สิ่งที่มันสิงสู่อยู่ในกายเธอ กับเป็นสิ่งที่ร้ายกาจยิ่งกว่าผีสางนางไม้ใดๆ ขนาดที่หลวงพ่อจากโบสถ์ดังก็เอาไม่อยู่!

นี่คือหนัง Horror ที่เคยเข้าชิงออสการ์กว่าสิบสาขา! นี่คือหนังผีที่มีฉากปราบผีซึ่งเป็นต้นแบบของวงการ..อันลือลั่น! นี่คือหนังสยองขวัญที่เบื้องหลังมีอาถรรพ์ชวนสยองไม่แพ้หน้าหนัง! แต่สำหรับคนยุคใหม่ที่กลับไปดูเรื่องนี้ อาจรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ควรแค่แก่การหามาดูสักครั้ง

อันดับหนังผีสยองขวัญ

22.    Trick ‘r Treat (2007) กระตุกขวัญวันปล่อยผี

“อย่าลบหลู่วันฮาโลวีน”

วันฮาโลวีนซึ่งเด็กๆต่างเฝ้ารอคอยที่จะได้แต่งตัวแฟนซี จัดปาร์ตี้แสนสนุก และเที่ยวเคาะประตูรับขนม ภายใต้บรรยากาศที่ดูสนุกสนาน เฮาฮา กลับมีเรื่องชวนขนลุกคลืบคลานอยู่อย่างเงียบๆภายใต้เสียงหัวเราะ เนื่องจากมีบางคนละเมิดกฎของวันฮาโลวีน

นี่เป็นหนังสยองขวัญที่รวมเรื่องสั้น 4 เรื่องที่มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างกันทั้งผี ปีศาจ อาถรรพ์ภายใต้บรรยากาศวันฮาโลวีน ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะมีจุดที่เชื่อมโยงกัน  เป็นหนังผีที่มีหลายอรรถรสเลยทีเดียว

อันดับหนังผีสยองขวัญ

21.    The Ring (2002), Ringu (1998) เดอะริง คำสาปมรณะ

“ผีทะลุจอ”

หนังซึ่งสร้างมาจากงานเขียนของนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลากหลายเวอร์ชัน แม้กระทั่งฮอลลีวูดก็เคยนำไปรีเมค ที่ถึงแม้แต่ละเวอร์ชันจะถูกดัดแปลงแตกต่างไปจากนิยายต้นฉบับ แต่มันก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

เรื่องราวจะพูดถึงวิดีโอเทปต้องคำสาป ที่หากใครได้รับและเปิดดูจะมีอันเป็นไปภายใน 7 วัน ไม่มีทางหนี ไม่มีทางแก้ ไม่มีข้อยกเว้น เป็นหนังผีแนวคำสาปทวงแค้น ขณะที่ภายหลังมีหนังสือภาคต่อออกมาจากเดอะริง ที่ขยายปมแลถเบื้องหลังของคำสาปนี้ชนิดที่หน้ามือกลายเป็นหลังมือเลยทีเดียว ส่วนซาดาโกะผีในเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในต้นแบบของผีเอเชียระดับคลาสสิคเลยทีเดียว ด้วยท่าคลานออกมาจากจอทีวีอันตราตรึง!

อันดับหนังผีสยองขวัญ

20.    Drag Me to Hell (2009) กระชากลงหลุม

“อย่าลองดีกับมนุษย์ป้า”

เรื่องราวของพนักงานธนาคารสาวที่มีหน้าที่ไปทวงหนี้ลูกค้าเบี้ยว ในครั้งนั้นเป็นคราวของป้าแก่ประหลาดนางหนึ่งที่ร้องห่มร้องไห้เพราะไม่อยากถูกยึดบ้าน …

Admin

09/04/2018

สปอย 13 หนังสยองขวัญหักมุมชวนเงิบ รับประกันความเหวอโดย “ป้าอีที”

หากใครที่ชื่นชอบในภาพยนตร์แนว horror น่าจะคุ้นเคยกับเพจเฟสบุ๊คอย่าง “แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ” กันดี ซึ่งเป็นเพจที่รวบรวมรายชื่อและเรื่องย่อของหนังสยองขวัญจากทั่วทุกมุมโลกให้คุณได้ตามดูกัน โดยเฉพาะทีเด็ดอย่างการ “สปอยหนัง” โดย..สปอยเลอร์จิตอาสาลูกเพจขาประจำอย่าง คุณป้า Chuchat Chotikachattham (aka ป้าอีที) ที่ทำให้คุณได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แม้ว่าจะกลัวจนไม่กล้าหยิบมาดูก็ตาม

และนี่คือ..สปอยหนังสยองขวัญ ที่จะทำให้คุณแทบหงายเงิบ!

1. Devil’s Pond (2003)

สปอยล์ หนังหักมุม

#Devil’s Pond (2003) คุณหนูลูกเศรษฐี เห็นหนุ่มหล่ออยากได้ทำผัว แม่ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง เถียงฉอดๆๆ สุดท้ายรู้ความจริงว่าหนุ่มคนนั้น . . . เล่นเอาหงายท้องเงิบ!

หนังหักมุมสุดเงิบเรื่องนี้ไง…ที่มีคนถามกันเข้ามามาก

เรื่องมีอยู่ว่า คุณหนูไฮโซแสนสวย เพรียบพร้อมทุกอย่าง เกิดไปปิ๊งหนุ่มหล่อหน้าตาดี แม้จะไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าดี แต่ด้วยความที่หนุ่มเจ้านั้นต้องสเปคนางแบบคนในฝัน เห็นครั้งแรกก็อยากฉิมพลีให้เลย งานนี้อยากได้ก็ต้องได้

นางหลงหัวปักหัวปำจนรำร้องจะแต่งงานสายฟ้าแลบให้ได้ เดือดร้อนถึงแม่ที่ทั้งห้ามทั้งบ่นเท่าไหร่นางก็ไม่ฟัง พร่ำบอกแต่ว่า “แม่ไม่เข้าใจหนู หนูจะเอาคนนี้” “เราเกิดมาคู่กัน เราเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดหายของกันและกัน” “เขาเป็นคนดีไม่ห่างเหิน!” เถียงคำไม่ตกฟาดฉอดๆๆๆ คือจะเอาให้ได้ว่างั้น

สุดท้ายได้แต่งงานอย่างที่หวัง ถึงวันฮันนีมูนพากันไปสวีทกันที่เกาะไพรเวทแห่งหนึ่ง ซึ่งปรากฎว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่นางเจอนั้นทำเอาเงิบมากๆๆๆๆ ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนจนอำอึ้งไปเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่นางได้ไปประสบพบเจอคืออะไรต้องหากันมาดู…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

2. Honeymoon (2014)

สปอยล์ หนังหักมุม

#Honeymoon (2014) คู่รักใหม่ปลามัน ผัวพาเมียไปฮันนีมูนตั้งแคมป์ในป่าอยู่ดีๆ พอตกดึกเมียไม่รู้เป็นอะไร หายไปยืนโทงเทงล่อนจ้อนกลางป่า พอพากชับมาพฤติกรรมก็เปลี่ยนเป็นคนละคน

เรื่องนี้ไงที่มีคนถามกันมาเยอะ หนังหักมุมสุดเงิบในป่า

คือมันจะมีหนังอยู่เรื่องนึง ดูจบนี่ถึงกับปวดหัวเลย เรื่องมีอยู่ว่าคู่รักพึ่งแต่งงานพากันไปสหวีวี่วีกันสองต่อสอง เนื่องจากผัวเป็นรักป่าไม้ จึงพาแฟนไปตั้งแคมป์ ชมธรรมชาติ ดูบรรดาสิงสาราสัตว์ คือเป็นอะไรที่น่าจะโรแมนซ์มากๆ แต่มันก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อคืนนั้นเองที่ผัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าแฟนหายตัวไป หลังออกตามหาอยู่พักหนึ่ง ปรากฎว่าไปเจอแฟนยืนล่อนจ้อนโทงเทงท้าน้ำค้างกลางป่า ผัวก็พากลับและได้สังเกตเห็นความผิดปกติคือ นางมีรอยจ้ำๆอยู่เต็มตัว แถมบริเวณ “นาผืนน้อย” ของเจ้าหล่อนก็มีน้ำไสไหลเย็นหยดลงมาเรี่ยราดเป็นทาง หากอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางและผัว ต้องหาเรื่องนี้มาดู บอกเลยว่าเงิบ!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

3. The Snare 2017

สปอยล์หนังหักมุม

#The Snare 2017 คนเราถึงจะเคยกินหรูอยู่แพง แต่เวลาอับจนหนทาง หาอะไรได้คว้าอะไรเจอก็ต้องกิน!

หนังเรื่องนี้เคยดูกันไหม หนังที่มีตอนจบหักมุมหงายเงิบอีกแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่าคณะเพื่อน 1 ชาย 2 หญิง ชวนกันไปหาความสุนทรีย์ริมทะเลในช่วงวีคเอ็น แต่กว่าจะเดินทางไปถึงได้เนี่ย มันช่างลำบากยากเย็น ต้องข้ามเขา ผ่านทางลัดเลาะคดเคี้ยววกวนไปมากว่าจะถึง จนอดสงสัยไม่ได้ว่า มันมีอะไรให้ไปดูในที่ห่างไกลขนาดนั้น แต่ผลลัพธ์ของความเหนื่อยยากคุ้มค่าเสมอ! สถานที่คือสวยมากกกก ที่พักสูงมองลงมาเห็นวิว มันต้องเป็นประสบการณ์เเสนพิเศษ เเต่ไม่เลย… เพราะทั้งเขาและเธอถูกขังปิดตายจากภายนอกอยู่ในนั้น อาหารและขนมขบเคี้ยวที่ตระเตรียมมาฟินก็เริ่มร่อยหรอลง แม้แต่น้ำดื่มก็ไม่เหลือ

สถานการณ์สุดวิกิต ความหิวโหยบวกกับอารมณ์ฉุนเฉียว คิดอะไรไม่ออกเห็นอะไรก็ต้องกินไว้ก่อน หนักเข้าต้องหันมากินอาหารที่เสียแล้ว ไล่จับแมลงเล็กๆ ไปจนถึงบางอย่างที่คุณไม่คิดว่าจะกินได้

กับบทสรุปของเรื่องที่ทำเอาหงายท้อง….ทำไมพวกเขาถึงถูกขัง แล้วใครกันที่เป็นคนทำ อยากรู้ต้องหามาดูเลย…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

4. Europa Report (2013)

สปอยล์หนังหักมุม

#Europa Report (2013) เมื่อวิทยาการก้าวหน้าถึงขนาดพาเราไปดูกันว่ามีอะไรซ่อนอยู่บนดาวที่ห่างไกล อย่างดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัส ที่ซึ่งคาดการณ์กันว่าที่นั่นจะต้องมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น แต่พอไปถึงเท่านั้นแหละ คือช็อคกันทั้งกัปตันยันลูกเรือ เพราะไม่คาดคิดว่าจะไปเจอกับสิ่งนี้!!

ยูโรปา (Europa) คือชื่อของดวงจันทร์บริวาณขอบดาวพฤหัส ดวงหนึ่งในอีกหลายดวง แต่มันกลับเป็นที่สนใจของนักวิจัยและนักดาราศาสตร์ เพราะคาดการณ์กันว่าภายใต้พื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งหนานั้น มีมหาสมุทรที่ใกล้เคียงกับบนโลกสีครามของเราอยู่ แม้แต่นาซาเองก็มีความสนใจที่จะไปสำรวจที่นั่น บางทีหากเจาะลงไปใต้พื้นน้ำแข็ง อาจมีตัวอะไรต่อมีอะไรแหวกว่ายอยู่ในน้ำบนดาวนั้น…ก็เป็นได้!

ส่วนหนังเรื่องนี้ได้เข้ามาเติมเต็มจินตนาการในส่วนนั้น เมื่อมันพูดถึงคณะนักบินอวกาศกลุ่มหนึ่งได้ลงไปสำรวจยังดาวยูโรปา เพื่อไขความลับของข้อสงสัยที่ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอยํ่ที่นั่น แต่เมื่อไปถึงแล้วเท่านั้นแหละ แทบช็อค! ถามว่ามีมั้ย? ถามว่าเจอมั้ย? ก็ต้องบอกว่าเจอและมี แต่การค้นพบในครั้งนี้อาจแลกมาซึ่งชีวิตนักสำรวจ เพราะอะไรบางอย่างที่ว่านั้นมันเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างน่าสะพรึง!!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

ป้าสปอยล์เอาไว้เพียงเท่านี้!!

5. The Woods (2006)

สปอยล์ หนังหักมุม

XX (2017) ความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุ เมื่อลูกตัวเองไปขอดูกล่องสีแดงของลุงที่นั่งอยู่บนรถไฟเบาะข้างๆ ปรากฎว่ากลับบ้านมาลูกแปลกไป ไม่กินข้าวปลา เหมือนเจออะไรสักอย่างที่น่ากลัวมากมา

หนังเล่าถึงคุณเเม่กับลูกอีกสองคนเดินทางกลับบ้านโดยรถไฟใต้ดิน บังเอิญว่าที่เบาะข้างๆมีลุงแก่ในชุดสูท นั่งถือกล่องบางอย่างที่มีสีแดงฉูดฉาด เป็นอันต้องตาอย่างมาก แล้วลูกชายก็เกิดซนขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ พยายามเซ้าซี้อยากจะดูว่ามีอะไรอยู่ในกล่องสีสวยนั่น แม่ปรามก็ไม่ฟัง สุดท้ายตาลุงก็อุตส่าห์เปิดให้ดู

แต่ทันทีที่ได้ดูอะไรก็ตามในกล่องนั้น เด็กชายคนนั้นถึงกับอึ้งงัน แล้วนั่งเงียบไม่พูดไม่จาสุงสิงกะใครเลย กระทั่งกลับมาบ้านก็มีอาการแปลกๆ ไม่ยอมกินข้าวปลา เอาแต่นั่งเก็บตัวอยู่คนเดียว จนพี่สาวกับพ่อไปทู่ซี้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ไปเห็นอะไรในกล่องเข้า พอกระซิบบอกพี่สาวบอกพ่อ กลายเป็นว่าทั้งคู่ก็นิ่งงึนงันไปแบบเดียวกัน กลายเป็นว่าจากเป็นคนเดียวรอนนี้ลามไปสามเลย อะไรกันที่ทำให้พวกเขาเป็นได้มากขนาดนี้ มีอะไรอยู่ในกล่องกันแน่?

เป็นหนังที่ประกอบด้วยเรื่องสั้นสุดประหลาด 4 เรื่อง คล้ายๆสี่เเพร่งบ้านเรา เรื่องที่ว่ามานี้คือ The Box  นอกจากนี้ยังมี The Birthday Party, Don’t Fall, Her Only Living Son อีกด้วย

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

6. THE RITUAL (2018)

สปอยล์หนังหักมุม

#THE RITUAL (2018) เพื่อนสนิทชายสี่คน ได้ท่องเที่ยวไปในป่าไม้เดียวกัน แต่ขากลับนี่สิ ดันไปเจออะไรไม่ชอบมาพากล ยิ่งหาทางออกก็ยิ่งหลง สุดท้ายคือกลับออกมาได้ไม่ทุกคน

เรื่องนี้ไงที่จะทำให้หลายคนกลัวที่จะไปเดินป่า เรื่องมันมีอยู่ว่ามีเพื่อนชาย 4 คนชวนกันไปเที่ยวสวีเดนเพื่อชมธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร เรียกว่าวิวและทัศนียภาพนี่คือสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ชมไปพลางพักกางเต๊นท์กันไปพลาง แต่ถึงอย่างไรทั้งหมดก็กะว่าจะไปกลับไปนอนที่พักที่จองกันไว้แล้ว แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน หนึ่งในนั้นขาเจ็บเดินต่อไม่ไหว ทำให้จากเดิมที่ตั้งใจใช้เส้นทางอ้อมป่ากลับ ก็เลยลัดป่ามันซะเลย เผื่อจะย่นระยะทาง แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเหยียบย่างเข้าไปเท่านั้นแหละ! แทบช็อคกับสิ่งที่ได้พบเห็น นั่นอะไรมันห้อยโตงเตงอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ป่าผืนนี้มีบางอย่างที่ไม่ควรอย่างกรายเข้ามารอเหยื่อผู้หลงทางอยู่ บอกเลยว่างานนี้ไม่ได้กลับออกมากันครบทุกคน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

7. The Twilight Zone (2002)

# The Twilight Zone (2002) ตำนานแห่งความพิศวง! นี่คือตอนหนึ่งของซีรี่ย์ ชื่อตอนว่า The Pool Guy ชายคนหนึ่งมีชะตากรรมจะต้องตายซ้ำเเล้วซ้ำเล่า พอตายปั๊บ..ก็จะสะดุ้งตื่นฟื้นขึ้นมาบนเตียงทุกครั้งไป นั่นหมายความว่าเขาจะต้องพบเจอกับเรื่องน่ากลัวที่สุดชีวิตวนเวียนไป ไม่รู้จบ!

เรื่องนี้เป็นมินิซีรี่ย์ระดับตำนาน เป็นต้นแบบของความวายป่วงที่ถูกนำไอเดียไปดัดแปลงในหนังหรือสื่ออื่นๆมากมาย คนสวนชายบ้านเศรษฐี ต้องประสบเข้ากับเรื่องเหนือธรรมชาติ(?) เมื่อเขาต้องติดอยู่ในลูปที่ต้องพบกับ “ความตาย” อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทุกครั้งที่ตายจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับแผลเป็นจากครั้งก่อน นี่มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้นหรือเปล่า? แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหนีมันพ้น มันยังคงดำเนินไป …

Admin

03/04/2018

สปอย 15 หนังผี/สยองขวัญหักมุมหัวทิ่ม! โดย “ป้าอีที”

หากใครเป็นคอหนังแนวผีน่ากลัวๆ หรือสยองขวัญ คงคุ้นเคยกันดีกับ Facebook fanpage “แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ”  เพจที่คอยแนะนำและคัดพิเศษหนังสยองขวัญจากหลากหลายแหล่ง ให้คุณได้หามาดูมารับชมกัน แต่ทีเด็ดของเพจคงอยู่ที่การ “สปอยหนัง” โดย..สปอยเลอร์จิตอาสา ผู้ช่ำชองและดูมาหมดแล้วแทบทุกเรื่องอย่าง “ป้าอีที” หรือสมาชิกเพจที่ขื่อ Chuchat Chotikachattham นั่นเอง ที่จะทำให้คุณได้รู้เรื่องทั้งหมดราวกับนั่งดูไปด้วยกัน แม้ว่าคุณจะกลัว จนไม่กล้าหยิบหนังเรื่องนั้นมาดูก็ตาม

15 เรื่อง!! สปอยหนังผีน่ากลัว ที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ!

1. The Tortoised (2010)

#The Tortoised (2010) เมื่อความแค้มันสุมทรวง คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมไม่มีทางอภัยให้ใครก็ตามที่มาทำลูกตัวเอง แต่บอกเลยว่าดูถึงตอนจบนี่จะลองอุทานเป็นฟักแฟงแตงโมกันเลยทีเดียว เพราะมันเงิบสุดๆ เงิบแบบแค้นผู้กำกับเลย

เมื่อความแค้นเป็นเหตุ ทำให้ต้องถูกชำระล้าง เรื่องราวพูดถึงสามีภรรยาที่มีชะตากรรมอันโหดร้าย ลูกสาวคนเดียวถูกโจรที่ไหนไม่รู้มาปู้ยี้ปู้ยำจนถึงแก่ชีวิต ครั้นจะรอให้พี่ตำหนวดหรือกฎหมายไปลากคอมันก็ดูจะไม่ค่อยมั่นใจ ไหนจะเรื่องของขั้นตอน ระยะเวลา พยานหลักฐาน แต่ความเจ็บปวดมันรอไม่ได้ เลยตัดสินใจชำระหนี้แค้นด้วยตัวเอง โจรรายนี้เลยถูกพาตัวจัดหนักอย่างแสบถึงกึ๋นโดยพ่อแม่ของหญิงสาวที่มันเคยก่อกรรมเอาไว้ แบบที่หนักกว่าร้อยเท่า!  โดยทีมงานจากแฟรนไชส์หนังโหดอย่าง “SAW” อย่างไรก็ตาม ผู้ชมจะได้ลุ้นและเอาใจช่วยไปกับสองสามีภรรยาสุดสแวกแห่งยุค! แต่การแก้แค้นก็ไม่ได้เป็นไปโดยราบรื่น เพราะว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้น! บอกเลยว่ามีหงาย!! ดูจบถึงกับต้องเอาขาคู่ก่ายหน้าผากเลยทีเดียว…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

2. Muoi : The Legend of a Portrait (2007)

#Muoi : The Legend of a Portrait (2007) เกิดมาสวย ก็เป็นความซวยได้อย่างหนึ่ง วิญญาณหญิงสาวที่เคยถูกทำร้ายอันมาเนื่องจากรูปโฉมที่งดงามเป็นเหตุ ทำผัวเก่าหึงโหด กระทั่งเมื่อนางตายก็ถูกจับมาสิงไว้ในรูปวาดผี

หนังเรื่องนี้พูดถึงหญิงสาวชาวเวียดนาม บังเอิญว่าเธอเกิดมามีรูปโฉมและหน้าตาที่สวย เป็นที่ต้องตาต้องใจของชายหนุ่มกลัดมัน กระทั่งคนที่ได้ดวงใจเธอไปครอบครองเป็นศิลปินหนุ่มคนหนึ่ง นักวาดภาพเหมือนที่ซึ่งหญิงสาวหลงรัก หากแต่ว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นดันมีคนที่หมั่นหมายกันอยู่แล้ว เอ้า แม้จะต้องร่ำลากันไปแต่ก่อนไปชายหนุ่มได้ทิ้งผลงาน “ภาพเหมือน” ของสาวสวยไว้ให้

แต่แล้วความก็ไปถึงหูคู่หมั้นจนทำเอาเธอหึงโหด เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เลยบุกมาถึงถิ่น พอยิงมาเห็นตัวจริงก็อิจฉาริษยาตาร้อน เพราะสาวใหม่สวยกว่านางเยอะมากและด้วยความที่นางมีอำนาจและเงิน จึงสั่งพรรคพวกไปจัดหนักจนสาวสวยเสียโฉมด้วยน้ำกรด

พอได้เห็นรูปลักษณ์ของตัวเอง สาวงามถึงกับรับไม่ได้ เลยตัดสินใจตัดช่องน้อยคิดสั้น และลาโลกไปด้วยความแค้นฝังลึก วิญญาณที่มีห่วงของนางจึงได้ไปชำระหนี้แค้นนังคู่หมั้นที่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สุดท้ายก้ไปพลาดท่าถูกจับขังไว้ในภาพวาดเหมือนของตัวเองจนได้ และนี่คืออรัมภบทจุดเริ่มต้นของหนังผีสอยงขวัญร่วมทุนสร้างระหว่างเกาหลีและเวียดนาม… ที่บอกเลยว่าตอนจบมีเงิบแน่นอน

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

3. Eyes Without a Face (1960)

#Eyes Without a Face (1960) ศัลยกรรมแบบ DIY สมัยยุค 60 หญิงนางหนึ่งเสียโฉม แต่เนื่องจากสมัยนั้นไม่มียันฮีแบบสมัยนี้ คนเป็นพ่อก็นิ่งดูดายไม่ได้ เลยไปไล่จับสาวสวยๆ มาถลกหน้าออกเพื่อศัลยฯให้ลูก!

นี่คือหนังสยองขวัญจากฝรั่งเศษยุคคลาสสิค แม้ว่าภาพจะเป็นขาวดำ เท๕โนโลยียังไม่เอื้อเท่าสมัยนี้ แต่บอกเลยว่ามันสามารถสร้างความสะพรึง เสียวแวบคันยุบยิบแถวๆผิวหน้าทุกครั้งที่ได้ดู เนื่องจากฉากปล่อยของในเรื่องนี้นับว่ามีความสมจริงทีเดียวเชียว โดยมันเล่าถึงศัลยแพทย์นายหนึ่งที่เคยมีหน้ามีตา มีชีวิตดี๊ดี แต่ถึงคราวเคราะห์เมื่อภรรยาและลูกสาวประสบอุบัติเหตุ คนแม่เสียทันทีแต่คนลูกนั้นใบหน้าเสียโฉม ดูไม่ต่างจากผีน่าเกลียดน่ากลัว ทำให้ตัวลูกสาวต้องใส่หน้ากากยางไว้ตลอด และเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน จนกระทั่งหนักเข้าถึงขั้นคิดสั้น ผู้เป็นพ่อเห็นก็ไม่อาจทนเห็นลูกสาวต้องทนทุกข์ได้ เขาจึงเริ่มวิจัยพิศดารขึ้น เพื่อแก้ไจใบหน้าของลูกสาว เริ่มตั้งแต่การให้ผู้ช่วยออกไปล่าสาวสวยยามค่ำคืน แล้วลักมาผ่าตัดถลกหน้า ผ่านไปหน้าแล้วหน้าเล่า เพื่อหาใบหน้าที่เข้ากับลูกสาวได้ดีที่สุด ศัลยฯออกมาให้หน้าไม่เทา จนกระทั่งถึงคิวสาวสวยรายหนึ่ง เรื่องบางอย่างก็เกิดขึ้น…!!

อย่างไรก็ตาม…การทดลองสุดประหลาด กับการพยายามจะศัลยกรรมใบหน้าในยุค 60 จะจบลงยังไง ต้องไปหามาชมกัน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

4. Brake (2012)

#Brake 2012 เรื่องนี้ไงที่มีถามกันเข้ามาว่าเรื่องที่มีผู้ชายติดอยู่ในกล่องเหลี่ยมๆแคบๆคนเดียวทั้งเรื่อง ดูไปก็ลุ้นไป แต่ตอนจบเฉลยออกมาคือเงิบสุดๆ! เดากันไม่ออกแน่นอน

หนังเรื่องนี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ตื่นขึ้นมาก็พบกว่าตนเองถูกใครก็ไม่รู้จับยัดลงไปใน “กล่อง” บางอย่าง โดยไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมหรือกระทั่งตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน และกล่องนี่มันอะไร แต่อย่างนึงที่เค้าสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกคือ “นาฬิกานับถอยหลัง” ที่ถูกติดไว้ด้านบน บวกกับเครื่องมือบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้อย่างจงใจ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์สื่อสาร ไฟฉาย และรูปอะไรบางอย่าง จนกระทั่งเหตุและผลเริ่มปรากฎออกมา เมื่อมีเสียงคนติดต่อเข้ามาสั่งให้เขาทำตามในสิ่งที่มันต้องการ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันได้ออกไปสัดอากาศภายนอกอีกเลย ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ! มันเป็นใคร และเป้าหมายคืออะไร ชายคนนี้ทำได้เพียงอดทน ต่อสู้กับสภาวะที่เกิดขึ้น และตามน้ำมันไปเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงบทสรุป….

เท่านั้นแหละ! บอกเลยว่าเงิบหงายท้องตึงกันทุกคน คาดกันไม่ถึงแน่นอนว่าเรื่องราวแท้จริงมันจะเป็นแบบนี้ โอโห้ หัวร้อนเลย! หักมุมแล้วยังหักได้อีก

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

6. The Ghost (2004)

#The Ghost 2004 ยังหลอนไม่หาย!… ก็แค่กลุ่มเพื่อนสาวไปเที่ยวน้ำตกกันตามประสา แต่ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนเข้า หลบหลู่หรืออะไรมารึเปล่า พอกลับมาเพื่อนๆก็ทยอยหายไปทีละคนๆ

หนังผีสยองขวัญจากแดนกิมจเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนม.ปลายหญิง ที่นัดแนะกันไปเที่ยวน้ำตกกันในช่วงวันหยุด แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆหลังจากวันนั้นนักเรียนในกลุ่มนั้นก็พากันล้มหายตายจากกันไปอย่างเป็นปริศนา และจะเหลือร่องรอยเป็นคราบน้ำทิ้งเอาไว้ พอประติดประต่อเรื่องราวได้ คนที่เหลือก็เกิดขนหัวลุกขึ้นมา ด้วยความหวั่นวิตกว่าตนเองขะเป็นผู้ดชคดีคนต่อไปที่จะถูกสังเวยให้กับคำสาปหรืออะไรบางอย่างรึเปล่า

ถึงแม้จะเป็นหนังผีแนวคำสาป แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้มีความหักมุมและเบื้องลึกเบื้องหลังที่พร้อมจะทำคุณ “เงิบ” เมื่อเรื่องราวค่อยๆไขกระจ่างอย่างไม่ผิดหวัง

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

7. Nightmare Teacher 2016

Nightmare teacher 2016 คำสาปหรืออาถรรพ์? เมื่อคุณครูหนุ่มคนวหม่ย้ายมาที่ห้องเรียนแห่งนี้ จู่ๆก็เกิดเหตุบางอย่างให้นร.ในชั้นเรียนค่อยๆหายตัวไปทีละคนๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ

เรื่องนี้ไงดูกันหรือยัง? เรื่องมันมีอยู่ว่าที่คลาสเรียนมัธยมของนักเรียนเกาหลีมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น ซึ่งมันเริ่มตั้งแต่ที่คุณครูคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนครูที่ปรึกษาคนก่อนที่มีเหตุให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแม้ว่าครูคนใหม่จะดูไม่ต่างจากครูปกติทั่วไป หากแต่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลบางอย่าง หนึ่งในนั้นคือมักจะเรียกนักเรียนในชั้นเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวอยู่บ่อยๆ แล้วหลังจากนั้น นักเรียนคนที่ถูกเรียกไปมักจะหายตัวอย่างกับผีลักไปซ่อน!

นางเอกจึงต้องตามสืบเรื่องนี้ด้วยความที่สงสัยในตัวครูคนดังกล่าว แต่อะไรกันคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนๆหายตัวไป และครูคนนี้เป็นใครกันแน่ ต้องตามไปพิสูจน์กันในมินิซีรีย์เรื่องนี้ของเกาหลี ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 Ep บอกเลยว่าถ้าได้ดูแล้วตอนนึงนะ ยาวแน่นอน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

8. AUTOSYS ROOM FOUR (2003)

#Autosys room four 2003 คนยังไม่ตายแต่หมอเข้าใจผิด คิดว่าสิ้นลมแล้ว และกำลังจะถูกผ่าพิสูจน์อยู่รอมร่อ จะพูดบอกก็บอกไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ แต่ได้ยินและรู้สึกได้หมดว่าใครทำอะไร

นี่คือหนังที่สร้างจากเรื่องสั้นของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญอย่าง “สตีเฟน คิง” หนังพูดถึงชายคนหนึ่งที่กำลังไดรฟ์กอล์ฟแล้วไปถูกงูพิษกัดเข้า ทำให้เขาหยุดหายใจไม่ได้สติ จนกระทั่งถูกนำตัวส่งโรงบาล ปรากำว่าหมอกลับลงความเห็นว่า “สิ้นใจแล้ว” จากวภาพต่างๆที่ปรากฎ แต่ในความจริงคือ…เขายังไม่ตาย นอกจากนี้ยังสามารถรับรู้สถานการณ์ได้ ไม่ว่าใครจะพูดหรือกระทั่งนินทารูปร่างของเขาก็ได้ยินหมดทุกคำ แต่เขาไม่สามารถเปล่งเสียงพูด หรือกระทั่งจะกระดุกกระดิก ส่งสัญญาณว่าเขายังมีชีวิตดยู่ได้ซะนี่ จนในที่สุดขั้นตอนนั้นก็มาถึง…ขั้นตอนที่จะต้องทำการผ่าพิสูจน์ ในเมื่อหมอลงความเห็นและมีการเซ็นยืนยันสภาพกันเรียบร้อย แบบนี้เขาก็จะต้องถูกผ่าจริงๆน่ะสิ นับถอยหลังแล้วมาลุ้นกัน …

Admin

02/04/2018

Shutter Island (2010) : คนไข้คนที่หายไปหรือไม่เคยมีตัวตน

“Some place never let you go” นี่คือคำโปรยบนโปสเตอร์ของหนังเรื่อง Shutter Island โดยเป็นการบอกใบ้ว่า สถานที่ในหนังเรื่องนี้…หากคุณได้เข้าไปแล้ว จะไม่มีวันได้กลับออกมาอีก แต่ยังมีอีก quote ที่มีชื่อเสียงอันหนึ่งที่เข้ากับสถานการณ์แท้จริงสำหรับหนังเรื่องนี้อย่าง “Belive none of what you hear and half of what you see” ของเบนจามิน แฟรงคลิน รัฐบุรุษและนักประดิษฐ์คนสำคัญของอเมริกา “อย่าเชื่อในอะไรก็ตามที่คุณได้ฟัง และให้เชื่อเพียงครึ่งเดียวในสิ่งที่คุณได้เห็น” นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นหนึ่งของผู้กำกับ “มาร์ติน สกอร์เซซี่” ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ที่พูดถึงเรื่องราวอันชวนหัว เมื่อคนดีๆสามารถกลายเป็นบ้าได้ เพียงถูกปั่นหัวด้วยคำลวง เรื่องโกหกหากพูดเกินสามครั้ง…มันจะกลายเป็นเรื่องจริง แล้วถ้าหากมีคนพูดว่า “คุณเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิต” ครบสามคน คุณอาจะค่อยๆเป็นบ้าไปจริงๆ และนี่ก็คือ Shutter Island!

“เกาะนรกซ่อนทมิฬ” Shutter Island ไซโคทริลเลอร์จากปรมาจารย์ “มาร์ติน สกอร์เซซี”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเบสท์เซลเลอร์ของ เดนนิส เลอเฮน (Dennis Lehane) ซึ่งเป็นเจ้าของนวนิยายระดับขึ้นหิ้งอีกหลายเล่ม ซึ่งล้วนเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ  Mystic River ปมเดือดฝังแม่น้ำ หนังที่ว่าด้วยคดีอุกฉกรรจ์ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ไม่อาจดมมือคนร้ายได้ หรือ Gone baby Gone สืบลับค้นปมอันตราย ที่ว่าด้วยเรื่องของนักสืบเอกชนที่รับงานตามหาเด็กหาย จนนำไปสู่บทสรุปที่กชืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหนังระดับยอดเยี่ยมชิงรางวัล อีกทั้งยังมีจุดหักมุมท้ายเรื่องที่ชวนอึ้งสุดๆ

Shutter Island เล่าเรื่องของนายตำรวจศาล “เท็ดดี้ แดเนี่ยล” (ลีโอนาโด ดิคาปริโอ) กับคู่หูร่วมงาน “ชัค” (มาร์ค รัฟฟาโล) ที่เดินทางมายังเกาะลึกลับที่เป็นสถานบำบัดและคุมขังนักโทษที่มีปัญหาทางจิตรุนแรง เพื่อสืบคดีบางอย่างเกี่ยวกับนักโทษปริศนาที่หายตัวไปคนหนึ่ง ตามรายงานคือนักโทษบนเกาะที่ควรมีเพียง 66 คน กลับมีร่องรอยของ “นักโทษคนที่ 67” เพิ่มเข้ามาอย่างเป็นปริศนา

ส ป อ ย ล์ ห นั ก ม า ก ก ก ก . . . S H U T T E R  I S L A N D

“ใครคือ นักโทษคนที่ 67?”

นี่คือประเด็นหลักของหนังเลยก็ว่าได้ หนังเริ่มจากการตามหานักโทษ(คนไข้?)คนที่ 67 และก็จบด้วยเรื่องนักโทษคนที่ 67 ตัวหนังจะสร้างบรรยากาศความไม่ชอบมาพากลจากพฤติกรรมแปลกๆทั้งจากคนไข้ หมอ ผู้คุม หรือแม้กระทั่งตัวพระเอกกับคู่หู ทำให้เกิดความสับสนสับขาหลอกขณะดูว่า…อะไรจริง อะไรปลอม ใครเชื่อได้ ใครเชื่อไม่ได้? จนกระทั่งมาถึงไคลแม็กซ์สุดท้ายที่หักมุมได้รุนแรง แต่เมื่อย้อนกลับไปดูในฉากต่างก็พบว่า เหตุการณ์มันก็ชวนให้คิดและคล้อยตามได้กับข้อสรุปที่เกิดขึ้น

บทสรุปของหนังในช่วงท้ายจะแยกออกเป็นสองทาง (สปอ์หนักมาก) ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปอย่างชนิดที่ว่า “หนังคนละม้วน” เลยทีเดียว แบ่งออกเป็นสองทางให้คนดูเลือกที่จะเชื่อได้ดังนี้

1. เท็ดดี้ แดเนี่ยล คือ คนไข้คนที่ 67

2. เท็ดดี้ แดเนี่ยล ถูกปั่นหัว และทำเชื่อว่าตัวเองเป็นบ้า

เท็ดดี แดเนียล อดีตทหารผ่านศึกที่เคยรบในสงครามโลก เพื่อช่วยเชลยในเยอรมัน ที่มายังเกาะชัตเตอร์กับ ชัค คู่หูร่วมงานในฐานะตำรวจศาล เพื่อตามสืบเรื่องของ “เรเชล โซแรนโด” ผู้ป่วยทางจิตซึ่งมีรายงานว่าหายตัวไป โดยเรเชลเป็นผู้ต้องหาในคดีจับลูกสามคนกดน้ำจนเสียชีวิตจากอาการวิกลจริต

หมอคาวลีย์ (เบน คิงส์ลีย์) ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าดูแลและควบคุมบนเกาะชัตเตอร์ ได้พาเท็ดดีไปดูห้องขังที่ว่างเปล่า มันถูกล็อคอย่างแน่นหนาจากด้านนอก แต่เรเชลกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่เธอทิ้งรองเท้าของตัวเองเอาไว้ นั่นแสดงว่าเธอยังไม่ได้หนีไปไหนไกล นอกจากนี้เท็ดดี้ยังพบเบาะแสสำคัญ เป็นเศษกระดาษที่เขียนไว้ด้วยลายมือว่า… “ใครคือรายที่ 67?”

เท็ดดีกับชัคคู่หูออกสำรวจไปรอบๆเกาะ เขาเห็นถ้ำหินอยู่ใต้หน้าผา และประภาคารที่อยู่ไกลออกไป แต่ผู้ดูแลไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์และสร้างความเคลือบแคลงให้กับเขา เท็ดดียังได้สอบปากคำคนที่เกี่ยวข้อง และได้ข้อมูลมาว่า “หมอชีแฮน” ซึ่งถูกตั้งให้เป็นหมอประจำตัวของเรเชลก็ได้หายตัวไปด้วย โดยที่แจ้งว่าลาพักและออกจากเกาะไปในเช้าวันถัดมา

คืนนั้นเท็ดดีนอนบนเกาะชัตเตอร์ และฝันถึงโดโลเรส ภรรยาที่จากไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน โดยที่เธอสบอกกับเขาในฝันว่า…เรเชลยังอยู่บนเกาะชัตเตอร์ และคนชื่อ “แอนดรูว์ แลดิส” ตัวการวางเพลิงก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

หลังจากนั้นเท็ดดียังคงสอบปากคำผู้ป่วยที่เคยพบกับเรเชลเป็นคนสุดท้าย ผู้ป่วยคนนั้นแอบเขียนข้อความบางอย่างลงสมุดของเท็ดดี โดยบอกเป็นนัยว่า “ให้หนีไป”

เท็ดดีบอกเรื่องของแอนดรูว์ แลดิสกับชัค ว่ามันถูกส่งมาเกาะชัตเตอร์เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีจุดประสงค์มาที่นี่เพื่อล้างแค้นแอนดรูว์ เท็ดดียังบอกอีกว่า เขาตั้งใจมาที่นี่เพื่อเปิดโปงเบื้องลึกเบื้องหลังของเกาะลึกลับแห่งนี้ เพราะเคยได้ข้อมูลลับจากผู้ต้องหาชื่อ “จอร์จ นอยซ์” มาว่า ความจริงแล้วเกาะชัตเตอร์มีการใช้ผู้ป่วยเพื่อการทดลองอย่างลับๆ ภายใต้การคุมของหมอคาวลีย์ คู่หูให้ความเห็นว่า การที่เขาถูกส่งมาที่เกาะนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของ “ฉากที่ถูกจัดขึ้น” เพราะหากมีการทดลองผิดกฎจริง ทางการย่อมต้องมีส่วนรู้เห็น

หลังกลับไปที่สถานบำบัดท่ามกลางฝนฟ้ากระหน่ำ หมอคาวลีย์แจ้งว่า เราเจอเรเชลแล้ว เท็ดดี้รีบไปสอบปากคำ แต่เรเชลเกิดสติหลุดและทึกทักว่าเขาเป็นสามีและเริ่มคลุ้มคลั่ง หลังจากเหตุการณ์นั้นเท็ดดีมีอาการปวดศีรษะ โดยที่หมอคาวลีย์ให้ยาที่อ้างว่าจะช่วยบรรเทาอาการปวด หลังจากนั่งฟุบหลับไป เท็ดดีฝันถึงเรื่องในอดีตที่แสดงถึงปมในใจของเขาว่าเคยประสบเหตุการณ์อันน่าเศร้า เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า “ทำไมไม่ยอมมาช่วยเธอ?” เท็ดดีตอบไปอย่างเศร้าสร้อยว่า ขอโทษ ตนมาช้าเกินไป…

เท็ดดี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาดอยู่บนเตียง เพราะเกิดเสียงเอะอะโวยวาย เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องทำให้ๆไฟดับไปทั่วสถาบำบัด เท็ดดีและคู่หูพากันแอบไปยัง “วอร์ด C” สถานที่หวงห้ามของเกาะ ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่คุมขังนักโทษวิกลจริตร้ายแรง โดยที่จะเห็นว่าที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ อีกทั้งยังมีผู้คมเฝ้าอย่างเข้มงวด ชวนให้เขาสงสัยอย่างมาก

เท็ดดีแอบเข้าไปและพบกับนักโทษ จอร์จ นอยซ์ ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ แม้เท็ดดี้จะจำหน้าตาเขาไม่ได้ แต่จอร์จกลับจำเท็ดดี้ได้เสมือนรู้จักดี จอร์จกล่าวโทษว่า…เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะตัวเท็ดดีเอง นายต้องปล่อย “เธอ” ไป “เธอ” กำลังปั่นหัวนาย ถ้านายไม่ปล่อย…จะไม่มีวันได้ออกจากที่นี่!

แม้เท็ดดีจะยังไม่เข้าใจว่าจอร์จพูดถึงใคร แต่ก็ให้สัญญาว่าจะช่วยเขาออกไป แต่จอร์จกลับตอบมาอย่างไม่ใยดีว่า “นายช่วยใครไม่ได้หรอก” เป็นปริศนาทิ้งไว้

เท็ดดีเริ่มสังเกตว่า…ชัคคู่หูของเขามักจะแยกตัวออกไป โดยอ้างว่าจะไปรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ เท็ดดีได้ตามชัคไป และเห็นชัคเหมือนจะเสียหลักตกหน้าผาจึงรีบตามลงไป เขาพบถ้ำหินที่อยู่ใต้หน้าผาและได้พบกับ “เรเชลตัวจริง” ที่นั่น! เธอบอกกับเขาว่า ความจริงตัวเองเป็นหมอ เธอไม่มีสามี ไม่มีลูก และแน่นอนว่าไม่กดน้ำใคร แต่เธอได้ไปรู้เห็นการทดลองลับที่มีการนำคนไข้มาผ่าเปิดหัวและแก้ไขเส้นประสาท เพื่อทำลายความทรงจำ และความเจ็บปวด เพื่อพัฒนาเป็นอาวุธให้กองทัพ เรเชลยังเตือนอีกว่า…สิ่งที่เป็นหลักฐานต่อคำพูดของเธอก็คือ ยาซึ่งหมอคาวลีย์เอาให้เท็ดดีกินนั่นเอง ตอนนี้ยาคงกำลังเริ่มออกฤทธิ์หลอนประสาททีละนิดๆ และจะทำให้ตัวเขา “กลายเป็นบ้า” เพื่อปิดปากคนนอกที่จะเข้ามาสืบความลับ

เท็ดดีกลับไปที่สถานบำบัดอีกครั้ง และถามหาชัคคู่หูที่เขาเชื่อว่าถูกปิดปากไปโดยคนบนเกาะ แต่หมอคาวลีย์กลับบอกกับเขาว่า “ไม่มีคู่หู คุณมาที่เกาะนี้คนเดียว” ??!

หลังจากนั้นเท็ดดีเริ่มมองเห็นสถานการณ์ที่เลวร้าย หมอของสถานบำบัดพยายามที่จะฉีดยาบางอย่างให้เขา เขาหนีออกมาแอบซุ่มตัวและแอบสร้างความวุ่นวายไปทั่วเกาะ …

Admin

15/03/2018

Confession 2010 : เมื่อครูเอานมผสม ‘เอดส์’ ให้นร.กินเพื่อแก้แค้น!

Confession (2010) ซึ่งมีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “Kokuhaku” หรือในฉบับนิยายแปลไทยว่า “คำสารภาพ” เป็นหนังแดนอาทิตย์อุทัยเรตแรงจากปี 2553 ตัวหนังมีความยาวที่ 1 ชม. 46 นาที กำกับโดยผู้กับมือฉมังอย่าง Tetsuya Nakashima จากบทประพันธ์ดั้งเดิมของนักเขียน bestseller อย่าง Kanae Minato หนังยังเต็มไปด้วยดาราเจ้าบทบาททั้งรุ่นใหญ่และเล็ก

นี่คือหนังทริลเลอร์ที่เปิดตัวด้วยฉากโฮมรูมวันสุดท้ายประจำภาคเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมแห่งหนึ่ง คุณครูสาวประจำชั้นเรียนนำนมกล่องซึ่งเป็นอาหารเสิรมพื้นฐานของโรงเรียนให้แก่นักเรียนดื่มเหมือนปกติ จนกระทั่งครูสาวเริ่มเล่าว่า…ลูกสาวของเธอถูก “ทำให้เสียชีวิต” ด้วยน้ำมือของนักเรียนในห้องนี้ แต่เนื่องจากเป็นเยาวชนที่ซึ่งกฎหมายของญี่ปุ่นไม่สามารถเอาโทษได้ เธอจึงตัดสินใจแก้แค้ด้วยตัวเอง… โดยการนำเชื้อเอดส์ หรือ HIV ผสมลงไปในนมกล่องที่นักเรียนกำลังกิน และนี่คือฉากโหมโรงของ “คำสารภาพ” สุดจิต!

Confession “คำสารภาพ” หรือในชื่อดั้งเดิมคือ Kokuhaku

ภาพยนตร์แนวไซโคทริลเลอร์ จากนิยายขายดีเบสท์เซลเลอร์ “คำสารภาพ” ของ “คานาเอะ มินาโตะ” นักเขียนญี่ปุ่นชื่อดัง

ผู้กำกับ: เท็ตสึยะ นากาชิมะ เรื่องโดย: Kanae Minato

Spoiled Alert! [สปอยล์..เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วนของภาพยนตร์]

เรื่องราวในหนังบอกเล่าถึง “คำสารภาพ” ของตัวละครสำคัญทั้ง 4 คน คือ ครูสาวประจำชั้น “โมริกุจิ ยูโกะ”,นักเรียน “A” ,นักเรียน “B” ผู้ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวครู และนักเรียนหญิง “มิซูกิ คิตาฮาระ” นักเรียนอีกคนในห้องเรียนของครูสาวซึ่งจะมีบทบาทสำคัญภายหลัง โดยแบ่งเป็นบทๆตามมุมมองของทั้ง 4 คนที่มีต่อเหตุการณ์สำคัญในเรื่องคือ การเสียชีวิตของลูกเล็กครูโรงเรียนมัธยมซึ่งถูกทำให้จมน้ำในสระว่ายน้ำของโรงเรียน ซึ่งแม้ว่าครูจะรู้ตัวการว่าใครเป็นคนทำ แต่เนื่องด้วยรู้ว่ากฎหมายไม่สามารถเอาผิดหรือลงโทษได้ไม่แรงพอ จึงตัดสินใจที่จะไม่รื้อฟื้นคดี แต่เลือกที่จะสร้าง “บทเรียน” อันโหดเหี้ยมให้แก่ลูกศิษย์ในวัยที่กำลังอยากรู้อยากลองที่จะทำเรื่องผิดๆทั้ง 2 ของเธอ หนังมีฉากโหดที่อาจไม่ได้หวาดเสียวเหมือนหนังสยองขวัญมากอะไร แต่จะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อึมครึม เรื่องราวการตัดสินใจที่สุ่มเสี่ยงต่อจริยธรรมอันดีงาม ฉากที่ชวนหดหู่ทั้งกับผู้กะทำและถูกกระทำต่างๆนาๆ ซึ่งในบางครั้งคนดูก็อาจจะสะใจกับการกระทำบางอย่างที่ “รู้ว่าผิด….แต่สมควรแล้ว!” กับบทสรุปการห้ำหั่นแก้แค้นของลูกศิษย์กับครูสาวที่อายุห่างคราวแม่กับลูก ที่มาพร้อมจุดหักมุมชวนเหวอว่าเล่นแบบนี้เลยหรือ? นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับชมจากหนังเรื่องนี้

นี่คือภาพยนตร์เจ้าของตำแหน่ง “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” จากเวที Japan Academy Prize ในปี 2010 ถือเป็นภหนัง triller/drama ที่เล่นกับประเด็นอันอ่อนไหว และตีแผ่ด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ ความแค้นของผู้สูญเสียบางอย่างที่สำคัญยิ่งในชีวิตไปได้อย่างเข้าถึงแบบไร้ที่ติ ตัวหนังดีงามและสมบูรณ์แบบทั้งในด้านบท, การถ่ายทำ, ประเด็นแฝง และกาแสดงอันทรงพลัง การตัดต่อและลำดับเรื่องราวก็ทำได้ดีจนเรียกว่าสะกดคนดูได้ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย ด้วยฉากเปิดเรื่องที่รุนแรง การนำฉากหลังที่ดูธรรมดาอย่างครูกำลังพูดกับนักเรียนในชั่วโมงโฮมรูม  แต่โดดเด่นด้วยบทสนทนาที่แยบคาย และการสร้างบรรยากาศที่เย็นเยียบ จนไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมีความพิศดารอะไรรอเราอยู่ แม้ว่าจะเป็นฉากคุยอยู่ฝ่ายเดียวของครูสาวยาวเกือบครึ่งชั่วโมง แต่หากได้ดูแล้วจะรู้สึกได้เลยว่ามันทรงพลัง และจะติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน

Confession 2010

อย่างที่กล่าวไปแล้ว หนังมีการดำเนินเรื่องด้วยการเล่าผ่านมุมมองของตัวละครหลัก 4 คนหลังฉากเปิดสุดอลังการ โดยหนังจะพาเข้าไปค้นซอกลึกของความคิด ปมในจิตใจ สาเหตุการกระทำของตัวละครแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ซึ้งจะทำให้เราได้ค่อยๆซึมซับในแต่ละตัวละคร แล้วตัดสินใจเอาว่า…สิ่งที่พวกเขาได้เจอและนำไปสู่การกระทำที่จะกระทบต่อเนื่องเป็นฟันเฟือง รวมทั้งผลลัพธ์ของมัน “สมควร” แล้วหรือไม่? เรียกได้ว่าแต่ละคนก็มีปัญหามีปมในใจกันมาก่อน ซึ่งตรงนี้จะเสียดสีถึงสังคมได้อย่างเจ็บแสบ ว่าบางทีเรื่องเล็กๆมันก็นำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่ามากได้ หากคนที่เกี่ยวข้องละเลยเพิกเฉย ซึ่งตอนจบก็ขยี้ตรงนี้อย่างชัดเจนว่า… “ใครกัน ที่เป็นตัวการสำคัญของปัญหาที่แท้จริง”

ในเรื่องมีหลายประเด็นให้ผู้ชมได้ขบคิด และตั้งคำถามถึงสังคมปัจจุบัน เป็นต้นว่าตัวละครเอกครูประจำชั้นอย่าง “ยูโกะ” ที่รู้สึกว่ากฎหมายเยาวชนนั้นเบามากเกินไป จนบางทีก็อาจจะไม่สามารถมีประสิทธิ์ภาพพอ หากเกิดอะไรที่ร้ายแรง การกระทำของเธอชวนให้ตระหนักอยู่ตลอดว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังนั้นไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงในสังคม ความยุติธรรมเพื่อใครบางคนมันอาจไม่ยุติธรรมสำหรับอีกคน นอกจากนี้ยังชวนลุ้นอยู่ตลอดอีกด้วยว่าเรื่องที่เธอวางแผน อย่างการใส่โลหิตของผู้ป่วย HIV ลงไปในนมกล่องนั้นเป็นเรื่องจริง หรือแค่บลัพกัน? ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่าการจะติดเชื้อผ่านทางเดินอาหารนั้นยากมาก แต่อย่างไรก็ตาม กับคู่ต่อกรที่ไม่ประสาในชีวิตมามากพอ นี่จึงเป็นสงครามจิตวิทยาที่ออกแบบมาเพื่อ “ยืมมือ” กลไกทางสภาพจิตใจและการแสดงออกของคนในสังคมรอบตัว ให้ทำหน้าที่ในการกำหนดชีวิตของพวกเขาได้อย่างอำมหิต ลองคิดดูสิว่าหากคุณได้รู้ความจริงว่าพึ่งกินอะไรมา และมีโอากาสเป็นอะไร จะรู้สึกยังไง? จะไปโรงเรียนเหมือนทุกวันได้เหมือนเดิมมั้ย? แล้วเพื่อนๆในชั้นจะมีปฏิกิริยาต่อเราอย่างไร? แค่จินตนาการถึงผลลัพธ์ก็ชวนให้มวนท้องแล้ว

Confession 2010

ตัวหนังมีการใช้สัญลักษณ์และนัยยะแฝงให้ตีความ อย่างเช่นในฉากที่ “นักเรียน A และ B” มาพบกันและตกลงร่วมมือที่จะทำสิ่งที่ร้ายกาจอันไม่อาจให้อภัยได้นั้น มีการใช้ภาพที่สะท้อนจากกระนูน ทำให้ภาพที่ออกมานั้นบิดเบี้ยว อันแสดงถึงตรรกะความคิดของตัวละครในฉากดังกล่าวนั้นเองก็ได้ผิดเพี้ยนไป ไม่สามารถเอาพื้นฐานความคิดของคนทั่วไปมาตัดสินได้

หรือในฉากวัยเด็กของ “นักเรียน A” ที่เผยให้เห็นชีวิตในตอนนั้นว่าถูกแม่ทิ้งไปในขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ท่ามกลางกองหนังสือวิชาการด้านไฟฟ้า เนื่องจากแม่ของ A เคยเป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยซึ่งต้องจำใจลาออกมาเลี้ยงลูก และต้องการผลักดันให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง เพื่อเติมเต็มอัตตาของตัวเอง ที่ซึ่งไม่อาจกลับไปทำในสิ่งที่ต้องการได้แล้ว แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะออกไปทำเพื่อตัวเองอยู่ดี ฉากนี้ก็มีการใช้ภาพจากกระจกนูน เพื่อสะท้อนถึงสภาพความบิดเบี้ยวจิตใจของ A ที่ไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่แม่กระทำ และเป็นที่มาของความคิดฝังหัว่า…เพราะตนเองทำให้แม่ผิดหวัง แม่จึงได้หนีไป ซึ่งเป็นปมสำคัญของ A ที่ทำให้การกระทำในภายหลังนำมาซึ่งโศกนาฏกรรม

สำหรับปมในจิตใจของตัวนักเรียน A หนังจะค่อยๆเล่าลำดับเหตุการณ์ไปว่าทำไม A ถึงได้ตัดสินใจได้ผิดแผกพิศดารไปจากคนปกติเช่นนี้ โดยจุดเริ่มต้นมาจากการถูกแม่ทิ้ง ซึ่งแทนที่เมื่อ A โตแล้วจะออกไปพบ ไปเจอแม่แบบที่คนปกติจะเลือกทำ แต่เพราะปมที่เคยฝังใจว่าแม่ไม่รักเพราะตัวเองไม่เก่ง ไม่ดีพอ ทำให้ A เลือกที่จะทำตัวเองให้โดดเด่นด้วยการชนะการประกวดรางวัลสิ่งประดิษฐ์ไฟฟ้าระดับมัธยม เพื่อที่จะให้สปอร์ตไลท์ส่องมาที่ตนเอง แล้วเมื่อแม่เห็นจะต้องภูมิใจแล้วกลับมาหา แต่เหมือนชะตาเล่นตลก ในวันเดียวกันนั้นมีคดีอุกฉกรรจ์เกิดขึ้น และยึดหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ผู้คนต่างพูดถึงเกี่ยวกับคดีนั้น ส่วนภาพการรับรางวัลของเขากลับได้ลงเพียงคอลัมน์เล็กๆ นั่นทำให้ A ผิดหวังและคิดไปถึงขั้นที่ว่า…ในเมื่อทำเรื่องดีๆไม่มีใครมองเห็น แต่เรื่องเลวร้ายกลับเป็นที่สนใจมากมาย บางทีสิ่งที่ตนควรทำคือการทำสิ่งที่เลวร้ายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ราวกับคนหลงทางที่ไม่มีป้ายชี้ทางที่ถูกที่ควร A ปฏิเสธที่จะทำในสิ่งที่เรียบง่ายอย่างการไปพบแม่อีกครั้ง ซึ่งความจริงคือ A ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง A ยังคงกลัวว่าตัวเองอาจผิดหวัง หากว่าแม่ของเขาไม่ยอมกลับมาหาหรือแม้แต่กระทั่งลืมไปแล้วว่า

Confession 2010

อีกจุดหนึ่งที่หนังพยายามสื่อว่า A เป็นประเภทที่ว่ายึดติดกับอดีต ไม่ยอมที่จะก้าวไปข้างหน้า คือนาฬิกานับถอยหลัง สิ่งประดิษฐ์พิศดารของเขา ซึ่งนาฬิกาตัวนี้ก็ยังปรากฎในฉากซ้ำคัญท้ายเรื่อง เพื่อตอกย้ำผลเสียของการยึดติดกับเวลาที่ผ่านไปแล้ว ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง และนำมาซึ่งจุดจบที่ไม่อาจย้อนไปแก้ไขได้อีก

Confession 2010

สำหรับตัวละครของ “นักเรียน B” B เป็นประเภทที่เรียกกันว่าถูกเพิกเฉยจากคนรอบข้าง ไม่เป็นที่รู้จักหรือได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆนัก มีความไม่มั่นใจ ซ้ำยังมักถูกแกล้งอยู่เป็นประจำ โดยที่จำยอมรับชะตากรรมโดยที่คิดว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จนกระทั่งการเข้ามาของ A…. แม้แผนการจะฟังดูชอบกล แผนซึ่ง A ชักชวนนั้น มันกลับเป็นเหมือหลักฐานว่าเขามีตัวตน อย่างน้อยก็มีคนมองเห็นเขาแล้ว อีกทั้ง A ก็เป็นนักเรียนที่โดดเด่น โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก A หลอกใช้ทำในเรื่องที่ไม่ได้มีเป้าหมายตรงกัน นั่นทำให้ B กลายเป็นลูกไล่ที่พร้อมจะเห็นดีเห็นวามตามไปก้วยในทุกเรื่อง แม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่เข้าท่าก็ตาม จนกระทั่งเมื่อรู้ว่า A ต้องการใช้ตนเองเพื่อผลประโยชน์ มิตรภาพที่เขาหวังเป็นเรื่องโกหก นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจกระทำบางอย่างที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เริ่มต้นกันไว้ นัยนึงก็อาจจะเพื่อก้าวข้าม A โดยไม่รู้เลยว่าผลจากการกระทำเพียงชั่ววูบจะส่งผลให้ชีวิตของ B เปลี่ยนไปตลอดการ

Confession 2010

หลังจากที่ทุกอย่างมาถึงจุดเปลี่ยน ครูสาวประจำชั้นแก้แค้นโดยการบีบให้ A และ B ตกในสถานการณ์ไม่คาดฝัน หลังจากที่ได้ดื่มนมซึ่งมีเชื้อโดยไม่รู้ตัว การแสดงออกของทั้งคู่แตกต่างกันออกไป B คลุ้มคลั่งไปเลย รับไม่ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง หลังจากโฮมรูมวันสุดท้ายของภาคเรียนนั้น และเป็นวันสุดท้ายที่ครูประจำชั้นยังเป็นครูที่โรงเรียนนั้น B ก็ไม่ได้มาโรงเรียนอีกเลย โดยหมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกจากบ้าน ใช้เวลาในการจมปลักอยู่คนเดียว โดยที่มีแม่คอยประคบประหงมด้วยความท้อแท้ ในขณะที่ …

Admin

24/12/2017