แนะนำหนังผี

ท้าดู! รวม 31 หนังผีน่ากลัวขึ้นหิ้ง + เหตุผลที่ทำไมควรดู?

ผู้ใช้สมาชิก sixthsense ได้มาแชร์ลิสต์รวบรวมหนังผีน่ากลัวและสยองขวัญที่ตนเองชื่นชอบ 31 เรื่อง มาแนะนำให้ได้เป็นแนวทางหาหนังมาดูกัน โดยความตั้งใจของลิสต์นี้คือ เลือกเอาหนังผีที่ยังพอหาดูได้ไม่ยากนัก เพราะหากอยากดูแต่ไม่สามารถหาหรือชมได้ยาก มันก็ไม่มีประโยชน์ | เรื่องอันดับ เป็นเพียงความชอบของแต่ละบุคคล | หลายๆเรื่องในลิสต์ ด้วยความรู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยมหรือบางเรื่องก็สนุก เสียจนน่าเสียดาย ที่หากความสนุกของหนัง จะมาบดบังความสยองแบบหนังผีไปบ้าง แต่ก็บันเทิงพอที่จะหามาดู | หลาย ๆ เรื่องอาจจะไม่ปรากฏอยู่ในลิสต์นี้ นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี

31 หนังผีน่ากลัว ที่ไม่ควรพลาด …. หลอนกันให้เข็ด

อันดับหนังผีสยองขวัญ

31.    The Pact (2012) บ้านหลอนซ่อนตาย

: หนังผีฟอร์มเล็กที่มันส์เกินคาด! เรื่องราวว่าด้วยแอนนี่ได้กลับไปยังบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อสมัยเป็นเด็ก เพื่อจัดงานศพให้แม่ของเธอ แต่จู่ๆ ‘นิโคล’ พี่สาวของเธอกลับหายตัวไปไร้ร่องรอย เธอเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นในบ้านหลังนี้ และลงมือสืบหามัน

เป็นเรื่องที่ลุ้นใช้ได้ มีหักมุม แม้จะไม่ได้น่ากลัวหรือชวนตกใจนัก แต่กลับสร้างบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้ใจได้ดี แม้กระทั่งตอนจบก็ยังเหลือ clue ไว้ให้ไปจินตนาการต่อ!

30.    Insidious (2011) วิญยาณตามติด

: หนึ่งในแฟรนไชส์หนังผีชื่อดังของผู้กำกับสายแมสแห่งยุคอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ผู้มีโปรเจคมากมายที่หยิบจับอะไรก็ล้วนทำเงิน นี่เป็นหนังผีเรื่องแรกๆที่สร้างชื่อให้กับเขาในวงกว้าง จนมีภาคต่อตามมาอีกเป็นพรวน! หนังพูดถึงครอบครัวหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ในบ้านที่คนพ่อซื้อมาราคาถูกๆ แต่แล้วลูกชายก็มีอาการแปลกๆ คือชอบละเมอ และฝันเห็นอะไรแปลกๆ จนกระทั่งเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางว่า เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้าน อาจไม่ได้เป็นเพราะอาถรรพ์ของบ้าน แต่บางอย่างที่ว่ามันตามเด็กมา! เรื่องนี้มีเซ็ตติ้งโลกในหนังเป็นของตัวเอง ซึ่งจะเชื่อมโยงกับภาคอื่นๆที่ออกตามมา เป็นหนังผีที่ค่อนข้างจะแฟนตาซี มีเรื่องของภพ มิติ และปีศาจ รวมอยู่ในเรื่องเดียว!

29.    คน ผี ปีศาจ (2004)

: ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ ‘มะเดี่ยว ชูเกียรติ’ อีกหนึ่งหนังทริลเลอร์/สยองขวัญของไทยที่ถือว่ามีดีอยู่ในตัว เรื่องราวพูดถึงเด็กสาวที่ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กในโรงพิมพ์แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าสนิมเขรอที่ดูลึกลับพิกล มิหนำซ้ำป้าที่เป็นเจ้าของก็ดูน่ากลัวแบบที่ว่าคาดเดาไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ เป็นหนังระทึกขวัญแนวๆกักขังในพื้นที่จำกัด ที่มีดีตรงการสร้างบรรยากาศกดดันและแฝงการวิพากษ์สังคมไว้ แม้ว่าจะน้อยคนที่รู้จัก เนื่องจากในปี 2004 ถูกกลบด้วยหนังผีระดับตำนานไทยอย่างชัตเตอร์ซะมิด

อันดับหนังผีสยองขวัญ

28.    ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)

: หากพูดถึงหนังสยองขวัญในหมวดหนังผีของไทย ‘ชัตเตอร์’ คงเป็นเรื่องแรกๆที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคุย เนื่องจากเป็นกระแสอย่างแรงในสมัยที่ออกฉาย หนังหยิบยกเรื่องราวของภาพถ่ายติดวิญญาณทั้งหลายมาผูกกับประเด็นดราม่าที่พบเจอได้ทั่วไปอย่าง ‘ความรู้สึกผิด’ ต่อการกระทำในอดีต แม้หนังจะไม่ได้เน้นความน่ากลัวเต็มสูบ แถมยังได้กลิ่นอายของผีเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี แต่เรื่องนี้ก็นับว่าเป็นต้นแบบของหนังผีไทยหลายๆเรื่องต่อมา โดยเฉพาะฉากขึ้นหิ้งอย่าง “ผีขี่คอ” อันลือลั่น!

27.    The Conjuring (2013) คนเรียกผี

: อีกหนึ่งแฟรนไชส์ทำเงินของผู้กำกับมือดีอย่าง ‘เจมส์ วานน์’ ซึ่งนอกจากจะมีภาคต่อเป็นพรวน ยังมีภาคแยกย่อยอีกมากมาย จนเรียกว่าเป็นหนังจักรวาลหนังผีเหมือนหนังซุปเปอร์ฮีโร่เค้าทำกันแล้ว โดยเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอย่างดงาม หนังหยิบเอาประเด็นเรื่องจริงของ ‘มือปราบสิ่งลี้ลับ’ คู่หูสามีภรรยาที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือเคสอาถรรพ์คำสาปต่างๆ เหมือนเป็นศูนย์บรรเทาทุกข์ผี อันที่จริงเรื่องนี้ได้รับการชื่นชมในแง่การสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวกดดัน โดยไม่ต้องพึ่งฉากตุ้งแช่ แต่กับคนที่จิตแข็งมากหน่อย อาจจะเฉยๆไปเลย

26.    Below (2002) ดิ่งลึกหลอนสยอง

: หนังลึกลับสยองขวัญที่มีคอนเซปต์คือ “ความกลัวของมนุษย์” หนังพูดถึงลูกเรือดำน้ำทางการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีภารกิจต้องดำดิ่งลึกลงไปในโลกที่ไร้แสงสว่าง ความมืด ความไม่รู้ เป็นจุดเริ่มต้นของความกลัว นอกจากข้าศึกในสงคราม ภัยอันตรายใต้ทะเล ยังมีเรื่องราวตำนานลึกลับที่ถูกกล่าวขาน ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้จิตใจของผู้คนในที่แคบๆเริ่มสั่นคลอน

แม้ตัวหนังจะเล่าช้าๆ แต่ด้วยบรรยากาศในที่แคบ ทำให้เรารู้สึกกดดันและมีส่วนร่วมตามไปด้วยไม่ยากเย็น

อันดับหนังผีสยองขวัญ

25.    Three อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต (2002)

หนังผีสยองขวัญร่วมทุนสร้างของ 3 ชาติ คือไทย เกาหลี และฮ่องกง โดยได้ 3 ผู้กำกับจากแต่ละชาติมารังสรรค์ไอเดียของตัวเองลงในหนังซึ่งแบ่งย่อยเป็นสามตอนที่เป็นเอกเทศกัน ถือว่าเป็นอีกหนังผีไทยในยุครุ่งเรื่องของหนังผี

ตอนที่ 1 : The Wheel โดย นนทรีย์ นิมิตรบุตร (#ประเทศไทย)

เรื่องราวของคณะละครหุ่นกระบอกที่ในอดีตบรรพบุรุษได้รับสืบทอดมาโดยไม่ชอบ จนนำคำสาปตกทอดมายังรุ่นลูกหลาน มีอันต้องเป็นไป เป็นตอนที่เน้นแสดงออกถึงความเป็นผีไทย มีผีนางรำ  ผีชฎา เนื้อหาตามสูตรที่จะเริ่มจากความแค้นที่นำมาสู่คำสาป

ตอนที่ 2 : Memories โดย คิมจีวุน (เกาหลีใต้)

เป็นตอนที่เริ่มต้นด้วยบรรยากาศคล้ายหนังระทึกขวัญ ซึ่งพูดถึงหญิงสาวผู้สูญเสียความทรงจำ และพยายามจะสืบความเป็นมาขอบตนเองจากร่องรอยที่มี แม้ว่าสิ่งที่รอคอยอยู่ปลายทางจะเป็นอะไรที่ชวนขนลุกก็ตาม ฉากผีเอานิ้วจกเข้าไปในหัวตอนท้ายเรื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งฉากไอคอนนิคของหนังผีระดับคลาสสิค!

ตอนที่ 3 : Going Home โดย ปีเตอร์ ชาน (ฮ่องกง)

หนังตอนนี้เล่าถึงชายคนหนึ่งที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับร่างไร้วิญญาณของภรรยาในห้องเช่าเก่าๆ รายกับเธอยังคงมีชีวิตอยู่ หนังพาเราไปดูว่าทำไมชายคนหนึ่งถึงยังควรักภรรยาได้ขนาดนี้ จนดูเหมือนกับเป็นหนังรักที่เศร้ามากกว่า จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่หนังเปิดเผยถึงความลับหักมุมที่สมกับเป็นหนังสยองขวัญ กับตอนจบที่ชวนสะเทือนใจคนดูเป็นอย่างมาก

อันดับหนังผีสยองขวัญ

24.    Session 9 (2001) โรงพยาบาลซ่อนหลอน

เรื่องราวของคณะเก็บกวาดที่ถูกส่งมาโรงพยาบาลจิตเวชเก่าร้าง เพื่อเตรียมปรับปรุงพื้นที่ แต่ที่นี่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยประวัติดำมืด พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีภัยบางอย่างค่อยๆคืบคลานเข้ามา ลูกทีมเริ่มเป็นบ้า กระทั่งไปพบวิดีโอเทปลับม้วนหนึ่งซึ่งเป็นของคนไข้จิตเวชที่เคยก่อเหตุชวนเหลือเชื่อ

หนังมีเทคนิคที่แพรวพราว บรรยากาศของโรงพยาบาลร้างชวนให้หลอนอยู่ในใจ ในการทำให้คนดูรู้สึกระแวดระวัง ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ ปริศนาต่างๆที่ซ่อนอยู่ซึ่งถูกเฉลยในช่วงท้ายก็หักมุมแบบที่เดาได้ไม่ง่าย

อันดับหนังผีสยองขวัญ

23.    The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสท์

หนังสยองขวัญขึ้นหิ้งระดับคลาสสิค ที่ต่อมามีการนำมารีเมคหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการยอมรับเท่าภาคแรกในปี’73 อีกเลย

หนังว่าด้วยเรื่องราวของลูกสาวดาราชื่อดังที่มีอาการคล้ายจิตเภท เด็กสาวที่เคยเรียบร้อยกลับสบถด้วคำหยาบคาย รูปร่างหน้าตาที่นับวันก็ยิ่งดูเหมือนคนป่วยหนัก  จนสุดท้ายต้องเดือดร้อนหลวงพ่อมาทำพิธีปราบผี หากแต่สิ่งที่มันสิงสู่อยู่ในกายเธอ กับเป็นสิ่งที่ร้ายกาจยิ่งกว่าผีสางนางไม้ใดๆ ขนาดที่หลวงพ่อจากโบสถ์ดังก็เอาไม่อยู่!

นี่คือหนัง Horror ที่เคยเข้าชิงออสการ์กว่าสิบสาขา! นี่คือหนังผีที่มีฉากปราบผีซึ่งเป็นต้นแบบของวงการ..อันลือลั่น! นี่คือหนังสยองขวัญที่เบื้องหลังมีอาถรรพ์ชวนสยองไม่แพ้หน้าหนัง! แต่สำหรับคนยุคใหม่ที่กลับไปดูเรื่องนี้ อาจรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ควรแค่แก่การหามาดูสักครั้ง

อันดับหนังผีสยองขวัญ

22.    Trick ‘r Treat (2007) กระตุกขวัญวันปล่อยผี

“อย่าลบหลู่วันฮาโลวีน”

วันฮาโลวีนซึ่งเด็กๆต่างเฝ้ารอคอยที่จะได้แต่งตัวแฟนซี จัดปาร์ตี้แสนสนุก และเที่ยวเคาะประตูรับขนม ภายใต้บรรยากาศที่ดูสนุกสนาน เฮาฮา กลับมีเรื่องชวนขนลุกคลืบคลานอยู่อย่างเงียบๆภายใต้เสียงหัวเราะ เนื่องจากมีบางคนละเมิดกฎของวันฮาโลวีน

นี่เป็นหนังสยองขวัญที่รวมเรื่องสั้น 4 เรื่องที่มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างกันทั้งผี ปีศาจ อาถรรพ์ภายใต้บรรยากาศวันฮาโลวีน ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะมีจุดที่เชื่อมโยงกัน  เป็นหนังผีที่มีหลายอรรถรสเลยทีเดียว

อันดับหนังผีสยองขวัญ

21.    The Ring (2002), Ringu (1998) เดอะริง คำสาปมรณะ

“ผีทะลุจอ”

หนังซึ่งสร้างมาจากงานเขียนของนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลากหลายเวอร์ชัน แม้กระทั่งฮอลลีวูดก็เคยนำไปรีเมค ที่ถึงแม้แต่ละเวอร์ชันจะถูกดัดแปลงแตกต่างไปจากนิยายต้นฉบับ แต่มันก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

เรื่องราวจะพูดถึงวิดีโอเทปต้องคำสาป ที่หากใครได้รับและเปิดดูจะมีอันเป็นไปภายใน 7 วัน ไม่มีทางหนี ไม่มีทางแก้ ไม่มีข้อยกเว้น เป็นหนังผีแนวคำสาปทวงแค้น ขณะที่ภายหลังมีหนังสือภาคต่อออกมาจากเดอะริง ที่ขยายปมแลถเบื้องหลังของคำสาปนี้ชนิดที่หน้ามือกลายเป็นหลังมือเลยทีเดียว ส่วนซาดาโกะผีในเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในต้นแบบของผีเอเชียระดับคลาสสิคเลยทีเดียว ด้วยท่าคลานออกมาจากจอทีวีอันตราตรึง!

อันดับหนังผีสยองขวัญ

20.    Drag Me to Hell (2009) กระชากลงหลุม

“อย่าลองดีกับมนุษย์ป้า”

เรื่องราวของพนักงานธนาคารสาวที่มีหน้าที่ไปทวงหนี้ลูกค้าเบี้ยว ในครั้งนั้นเป็นคราวของป้าแก่ประหลาดนางหนึ่งที่ร้องห่มร้องไห้เพราะไม่อยากถูกยึดบ้าน …

Admin

09/04/2018

สปอย 13 หนังสยองขวัญหักมุมชวนเงิบ รับประกันความเหวอโดย “ป้าอีที”

หากใครที่ชื่นชอบในภาพยนตร์แนว horror น่าจะคุ้นเคยกับเพจเฟสบุ๊คอย่าง “แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ” กันดี ซึ่งเป็นเพจที่รวบรวมรายชื่อและเรื่องย่อของหนังสยองขวัญจากทั่วทุกมุมโลกให้คุณได้ตามดูกัน โดยเฉพาะทีเด็ดอย่างการ “สปอยหนัง” โดย..สปอยเลอร์จิตอาสาลูกเพจขาประจำอย่าง คุณป้า Chuchat Chotikachattham (aka ป้าอีที) ที่ทำให้คุณได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แม้ว่าจะกลัวจนไม่กล้าหยิบมาดูก็ตาม

และนี่คือ..สปอยหนังสยองขวัญ ที่จะทำให้คุณแทบหงายเงิบ!

1. Devil’s Pond (2003)

สปอยล์ หนังหักมุม

#Devil’s Pond (2003) คุณหนูลูกเศรษฐี เห็นหนุ่มหล่ออยากได้ทำผัว แม่ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง เถียงฉอดๆๆ สุดท้ายรู้ความจริงว่าหนุ่มคนนั้น . . . เล่นเอาหงายท้องเงิบ!

หนังหักมุมสุดเงิบเรื่องนี้ไง…ที่มีคนถามกันเข้ามามาก

เรื่องมีอยู่ว่า คุณหนูไฮโซแสนสวย เพรียบพร้อมทุกอย่าง เกิดไปปิ๊งหนุ่มหล่อหน้าตาดี แม้จะไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าดี แต่ด้วยความที่หนุ่มเจ้านั้นต้องสเปคนางแบบคนในฝัน เห็นครั้งแรกก็อยากฉิมพลีให้เลย งานนี้อยากได้ก็ต้องได้

นางหลงหัวปักหัวปำจนรำร้องจะแต่งงานสายฟ้าแลบให้ได้ เดือดร้อนถึงแม่ที่ทั้งห้ามทั้งบ่นเท่าไหร่นางก็ไม่ฟัง พร่ำบอกแต่ว่า “แม่ไม่เข้าใจหนู หนูจะเอาคนนี้” “เราเกิดมาคู่กัน เราเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดหายของกันและกัน” “เขาเป็นคนดีไม่ห่างเหิน!” เถียงคำไม่ตกฟาดฉอดๆๆๆ คือจะเอาให้ได้ว่างั้น

สุดท้ายได้แต่งงานอย่างที่หวัง ถึงวันฮันนีมูนพากันไปสวีทกันที่เกาะไพรเวทแห่งหนึ่ง ซึ่งปรากฎว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่นางเจอนั้นทำเอาเงิบมากๆๆๆๆ ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนจนอำอึ้งไปเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่นางได้ไปประสบพบเจอคืออะไรต้องหากันมาดู…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

2. Honeymoon (2014)

สปอยล์ หนังหักมุม

#Honeymoon (2014) คู่รักใหม่ปลามัน ผัวพาเมียไปฮันนีมูนตั้งแคมป์ในป่าอยู่ดีๆ พอตกดึกเมียไม่รู้เป็นอะไร หายไปยืนโทงเทงล่อนจ้อนกลางป่า พอพากชับมาพฤติกรรมก็เปลี่ยนเป็นคนละคน

เรื่องนี้ไงที่มีคนถามกันมาเยอะ หนังหักมุมสุดเงิบในป่า

คือมันจะมีหนังอยู่เรื่องนึง ดูจบนี่ถึงกับปวดหัวเลย เรื่องมีอยู่ว่าคู่รักพึ่งแต่งงานพากันไปสหวีวี่วีกันสองต่อสอง เนื่องจากผัวเป็นรักป่าไม้ จึงพาแฟนไปตั้งแคมป์ ชมธรรมชาติ ดูบรรดาสิงสาราสัตว์ คือเป็นอะไรที่น่าจะโรแมนซ์มากๆ แต่มันก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อคืนนั้นเองที่ผัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าแฟนหายตัวไป หลังออกตามหาอยู่พักหนึ่ง ปรากฎว่าไปเจอแฟนยืนล่อนจ้อนโทงเทงท้าน้ำค้างกลางป่า ผัวก็พากลับและได้สังเกตเห็นความผิดปกติคือ นางมีรอยจ้ำๆอยู่เต็มตัว แถมบริเวณ “นาผืนน้อย” ของเจ้าหล่อนก็มีน้ำไสไหลเย็นหยดลงมาเรี่ยราดเป็นทาง หากอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางและผัว ต้องหาเรื่องนี้มาดู บอกเลยว่าเงิบ!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

3. The Snare 2017

สปอยล์หนังหักมุม

#The Snare 2017 คนเราถึงจะเคยกินหรูอยู่แพง แต่เวลาอับจนหนทาง หาอะไรได้คว้าอะไรเจอก็ต้องกิน!

หนังเรื่องนี้เคยดูกันไหม หนังที่มีตอนจบหักมุมหงายเงิบอีกแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่าคณะเพื่อน 1 ชาย 2 หญิง ชวนกันไปหาความสุนทรีย์ริมทะเลในช่วงวีคเอ็น แต่กว่าจะเดินทางไปถึงได้เนี่ย มันช่างลำบากยากเย็น ต้องข้ามเขา ผ่านทางลัดเลาะคดเคี้ยววกวนไปมากว่าจะถึง จนอดสงสัยไม่ได้ว่า มันมีอะไรให้ไปดูในที่ห่างไกลขนาดนั้น แต่ผลลัพธ์ของความเหนื่อยยากคุ้มค่าเสมอ! สถานที่คือสวยมากกกก ที่พักสูงมองลงมาเห็นวิว มันต้องเป็นประสบการณ์เเสนพิเศษ เเต่ไม่เลย… เพราะทั้งเขาและเธอถูกขังปิดตายจากภายนอกอยู่ในนั้น อาหารและขนมขบเคี้ยวที่ตระเตรียมมาฟินก็เริ่มร่อยหรอลง แม้แต่น้ำดื่มก็ไม่เหลือ

สถานการณ์สุดวิกิต ความหิวโหยบวกกับอารมณ์ฉุนเฉียว คิดอะไรไม่ออกเห็นอะไรก็ต้องกินไว้ก่อน หนักเข้าต้องหันมากินอาหารที่เสียแล้ว ไล่จับแมลงเล็กๆ ไปจนถึงบางอย่างที่คุณไม่คิดว่าจะกินได้

กับบทสรุปของเรื่องที่ทำเอาหงายท้อง….ทำไมพวกเขาถึงถูกขัง แล้วใครกันที่เป็นคนทำ อยากรู้ต้องหามาดูเลย…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

4. Europa Report (2013)

สปอยล์หนังหักมุม

#Europa Report (2013) เมื่อวิทยาการก้าวหน้าถึงขนาดพาเราไปดูกันว่ามีอะไรซ่อนอยู่บนดาวที่ห่างไกล อย่างดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัส ที่ซึ่งคาดการณ์กันว่าที่นั่นจะต้องมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น แต่พอไปถึงเท่านั้นแหละ คือช็อคกันทั้งกัปตันยันลูกเรือ เพราะไม่คาดคิดว่าจะไปเจอกับสิ่งนี้!!

ยูโรปา (Europa) คือชื่อของดวงจันทร์บริวาณขอบดาวพฤหัส ดวงหนึ่งในอีกหลายดวง แต่มันกลับเป็นที่สนใจของนักวิจัยและนักดาราศาสตร์ เพราะคาดการณ์กันว่าภายใต้พื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งหนานั้น มีมหาสมุทรที่ใกล้เคียงกับบนโลกสีครามของเราอยู่ แม้แต่นาซาเองก็มีความสนใจที่จะไปสำรวจที่นั่น บางทีหากเจาะลงไปใต้พื้นน้ำแข็ง อาจมีตัวอะไรต่อมีอะไรแหวกว่ายอยู่ในน้ำบนดาวนั้น…ก็เป็นได้!

ส่วนหนังเรื่องนี้ได้เข้ามาเติมเต็มจินตนาการในส่วนนั้น เมื่อมันพูดถึงคณะนักบินอวกาศกลุ่มหนึ่งได้ลงไปสำรวจยังดาวยูโรปา เพื่อไขความลับของข้อสงสัยที่ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอยํ่ที่นั่น แต่เมื่อไปถึงแล้วเท่านั้นแหละ แทบช็อค! ถามว่ามีมั้ย? ถามว่าเจอมั้ย? ก็ต้องบอกว่าเจอและมี แต่การค้นพบในครั้งนี้อาจแลกมาซึ่งชีวิตนักสำรวจ เพราะอะไรบางอย่างที่ว่านั้นมันเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างน่าสะพรึง!!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

ป้าสปอยล์เอาไว้เพียงเท่านี้!!

5. The Woods (2006)

สปอยล์ หนังหักมุม

XX (2017) ความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุ เมื่อลูกตัวเองไปขอดูกล่องสีแดงของลุงที่นั่งอยู่บนรถไฟเบาะข้างๆ ปรากฎว่ากลับบ้านมาลูกแปลกไป ไม่กินข้าวปลา เหมือนเจออะไรสักอย่างที่น่ากลัวมากมา

หนังเล่าถึงคุณเเม่กับลูกอีกสองคนเดินทางกลับบ้านโดยรถไฟใต้ดิน บังเอิญว่าที่เบาะข้างๆมีลุงแก่ในชุดสูท นั่งถือกล่องบางอย่างที่มีสีแดงฉูดฉาด เป็นอันต้องตาอย่างมาก แล้วลูกชายก็เกิดซนขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ พยายามเซ้าซี้อยากจะดูว่ามีอะไรอยู่ในกล่องสีสวยนั่น แม่ปรามก็ไม่ฟัง สุดท้ายตาลุงก็อุตส่าห์เปิดให้ดู

แต่ทันทีที่ได้ดูอะไรก็ตามในกล่องนั้น เด็กชายคนนั้นถึงกับอึ้งงัน แล้วนั่งเงียบไม่พูดไม่จาสุงสิงกะใครเลย กระทั่งกลับมาบ้านก็มีอาการแปลกๆ ไม่ยอมกินข้าวปลา เอาแต่นั่งเก็บตัวอยู่คนเดียว จนพี่สาวกับพ่อไปทู่ซี้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ไปเห็นอะไรในกล่องเข้า พอกระซิบบอกพี่สาวบอกพ่อ กลายเป็นว่าทั้งคู่ก็นิ่งงึนงันไปแบบเดียวกัน กลายเป็นว่าจากเป็นคนเดียวรอนนี้ลามไปสามเลย อะไรกันที่ทำให้พวกเขาเป็นได้มากขนาดนี้ มีอะไรอยู่ในกล่องกันแน่?

เป็นหนังที่ประกอบด้วยเรื่องสั้นสุดประหลาด 4 เรื่อง คล้ายๆสี่เเพร่งบ้านเรา เรื่องที่ว่ามานี้คือ The Box  นอกจากนี้ยังมี The Birthday Party, Don’t Fall, Her Only Living Son อีกด้วย

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

6. THE RITUAL (2018)

สปอยล์หนังหักมุม

#THE RITUAL (2018) เพื่อนสนิทชายสี่คน ได้ท่องเที่ยวไปในป่าไม้เดียวกัน แต่ขากลับนี่สิ ดันไปเจออะไรไม่ชอบมาพากล ยิ่งหาทางออกก็ยิ่งหลง สุดท้ายคือกลับออกมาได้ไม่ทุกคน

เรื่องนี้ไงที่จะทำให้หลายคนกลัวที่จะไปเดินป่า เรื่องมันมีอยู่ว่ามีเพื่อนชาย 4 คนชวนกันไปเที่ยวสวีเดนเพื่อชมธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร เรียกว่าวิวและทัศนียภาพนี่คือสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ชมไปพลางพักกางเต๊นท์กันไปพลาง แต่ถึงอย่างไรทั้งหมดก็กะว่าจะไปกลับไปนอนที่พักที่จองกันไว้แล้ว แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน หนึ่งในนั้นขาเจ็บเดินต่อไม่ไหว ทำให้จากเดิมที่ตั้งใจใช้เส้นทางอ้อมป่ากลับ ก็เลยลัดป่ามันซะเลย เผื่อจะย่นระยะทาง แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเหยียบย่างเข้าไปเท่านั้นแหละ! แทบช็อคกับสิ่งที่ได้พบเห็น นั่นอะไรมันห้อยโตงเตงอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ป่าผืนนี้มีบางอย่างที่ไม่ควรอย่างกรายเข้ามารอเหยื่อผู้หลงทางอยู่ บอกเลยว่างานนี้ไม่ได้กลับออกมากันครบทุกคน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

7. The Twilight Zone (2002)

# The Twilight Zone (2002) ตำนานแห่งความพิศวง! นี่คือตอนหนึ่งของซีรี่ย์ ชื่อตอนว่า The Pool Guy ชายคนหนึ่งมีชะตากรรมจะต้องตายซ้ำเเล้วซ้ำเล่า พอตายปั๊บ..ก็จะสะดุ้งตื่นฟื้นขึ้นมาบนเตียงทุกครั้งไป นั่นหมายความว่าเขาจะต้องพบเจอกับเรื่องน่ากลัวที่สุดชีวิตวนเวียนไป ไม่รู้จบ!

เรื่องนี้เป็นมินิซีรี่ย์ระดับตำนาน เป็นต้นแบบของความวายป่วงที่ถูกนำไอเดียไปดัดแปลงในหนังหรือสื่ออื่นๆมากมาย คนสวนชายบ้านเศรษฐี ต้องประสบเข้ากับเรื่องเหนือธรรมชาติ(?) เมื่อเขาต้องติดอยู่ในลูปที่ต้องพบกับ “ความตาย” อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทุกครั้งที่ตายจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับแผลเป็นจากครั้งก่อน นี่มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้นหรือเปล่า? แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหนีมันพ้น มันยังคงดำเนินไป …

Admin

03/04/2018

สปอย 15 หนังผี/สยองขวัญหักมุมหัวทิ่ม! โดย “ป้าอีที”

หากใครเป็นคอหนังแนวผีน่ากลัวๆ หรือสยองขวัญ คงคุ้นเคยกันดีกับ Facebook fanpage “แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ”  เพจที่คอยแนะนำและคัดพิเศษหนังสยองขวัญจากหลากหลายแหล่ง ให้คุณได้หามาดูมารับชมกัน แต่ทีเด็ดของเพจคงอยู่ที่การ “สปอยหนัง” โดย..สปอยเลอร์จิตอาสา ผู้ช่ำชองและดูมาหมดแล้วแทบทุกเรื่องอย่าง “ป้าอีที” หรือสมาชิกเพจที่ขื่อ Chuchat Chotikachattham นั่นเอง ที่จะทำให้คุณได้รู้เรื่องทั้งหมดราวกับนั่งดูไปด้วยกัน แม้ว่าคุณจะกลัว จนไม่กล้าหยิบหนังเรื่องนั้นมาดูก็ตาม

15 เรื่อง!! สปอยหนังผีน่ากลัว ที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ!

1. The Tortoised (2010)

#The Tortoised (2010) เมื่อความแค้มันสุมทรวง คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมไม่มีทางอภัยให้ใครก็ตามที่มาทำลูกตัวเอง แต่บอกเลยว่าดูถึงตอนจบนี่จะลองอุทานเป็นฟักแฟงแตงโมกันเลยทีเดียว เพราะมันเงิบสุดๆ เงิบแบบแค้นผู้กำกับเลย

เมื่อความแค้นเป็นเหตุ ทำให้ต้องถูกชำระล้าง เรื่องราวพูดถึงสามีภรรยาที่มีชะตากรรมอันโหดร้าย ลูกสาวคนเดียวถูกโจรที่ไหนไม่รู้มาปู้ยี้ปู้ยำจนถึงแก่ชีวิต ครั้นจะรอให้พี่ตำหนวดหรือกฎหมายไปลากคอมันก็ดูจะไม่ค่อยมั่นใจ ไหนจะเรื่องของขั้นตอน ระยะเวลา พยานหลักฐาน แต่ความเจ็บปวดมันรอไม่ได้ เลยตัดสินใจชำระหนี้แค้นด้วยตัวเอง โจรรายนี้เลยถูกพาตัวจัดหนักอย่างแสบถึงกึ๋นโดยพ่อแม่ของหญิงสาวที่มันเคยก่อกรรมเอาไว้ แบบที่หนักกว่าร้อยเท่า!  โดยทีมงานจากแฟรนไชส์หนังโหดอย่าง “SAW” อย่างไรก็ตาม ผู้ชมจะได้ลุ้นและเอาใจช่วยไปกับสองสามีภรรยาสุดสแวกแห่งยุค! แต่การแก้แค้นก็ไม่ได้เป็นไปโดยราบรื่น เพราะว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้น! บอกเลยว่ามีหงาย!! ดูจบถึงกับต้องเอาขาคู่ก่ายหน้าผากเลยทีเดียว…

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

2. Muoi : The Legend of a Portrait (2007)

#Muoi : The Legend of a Portrait (2007) เกิดมาสวย ก็เป็นความซวยได้อย่างหนึ่ง วิญญาณหญิงสาวที่เคยถูกทำร้ายอันมาเนื่องจากรูปโฉมที่งดงามเป็นเหตุ ทำผัวเก่าหึงโหด กระทั่งเมื่อนางตายก็ถูกจับมาสิงไว้ในรูปวาดผี

หนังเรื่องนี้พูดถึงหญิงสาวชาวเวียดนาม บังเอิญว่าเธอเกิดมามีรูปโฉมและหน้าตาที่สวย เป็นที่ต้องตาต้องใจของชายหนุ่มกลัดมัน กระทั่งคนที่ได้ดวงใจเธอไปครอบครองเป็นศิลปินหนุ่มคนหนึ่ง นักวาดภาพเหมือนที่ซึ่งหญิงสาวหลงรัก หากแต่ว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นดันมีคนที่หมั่นหมายกันอยู่แล้ว เอ้า แม้จะต้องร่ำลากันไปแต่ก่อนไปชายหนุ่มได้ทิ้งผลงาน “ภาพเหมือน” ของสาวสวยไว้ให้

แต่แล้วความก็ไปถึงหูคู่หมั้นจนทำเอาเธอหึงโหด เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เลยบุกมาถึงถิ่น พอยิงมาเห็นตัวจริงก็อิจฉาริษยาตาร้อน เพราะสาวใหม่สวยกว่านางเยอะมากและด้วยความที่นางมีอำนาจและเงิน จึงสั่งพรรคพวกไปจัดหนักจนสาวสวยเสียโฉมด้วยน้ำกรด

พอได้เห็นรูปลักษณ์ของตัวเอง สาวงามถึงกับรับไม่ได้ เลยตัดสินใจตัดช่องน้อยคิดสั้น และลาโลกไปด้วยความแค้นฝังลึก วิญญาณที่มีห่วงของนางจึงได้ไปชำระหนี้แค้นนังคู่หมั้นที่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สุดท้ายก้ไปพลาดท่าถูกจับขังไว้ในภาพวาดเหมือนของตัวเองจนได้ และนี่คืออรัมภบทจุดเริ่มต้นของหนังผีสอยงขวัญร่วมทุนสร้างระหว่างเกาหลีและเวียดนาม… ที่บอกเลยว่าตอนจบมีเงิบแน่นอน

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

3. Eyes Without a Face (1960)

#Eyes Without a Face (1960) ศัลยกรรมแบบ DIY สมัยยุค 60 หญิงนางหนึ่งเสียโฉม แต่เนื่องจากสมัยนั้นไม่มียันฮีแบบสมัยนี้ คนเป็นพ่อก็นิ่งดูดายไม่ได้ เลยไปไล่จับสาวสวยๆ มาถลกหน้าออกเพื่อศัลยฯให้ลูก!

นี่คือหนังสยองขวัญจากฝรั่งเศษยุคคลาสสิค แม้ว่าภาพจะเป็นขาวดำ เท๕โนโลยียังไม่เอื้อเท่าสมัยนี้ แต่บอกเลยว่ามันสามารถสร้างความสะพรึง เสียวแวบคันยุบยิบแถวๆผิวหน้าทุกครั้งที่ได้ดู เนื่องจากฉากปล่อยของในเรื่องนี้นับว่ามีความสมจริงทีเดียวเชียว โดยมันเล่าถึงศัลยแพทย์นายหนึ่งที่เคยมีหน้ามีตา มีชีวิตดี๊ดี แต่ถึงคราวเคราะห์เมื่อภรรยาและลูกสาวประสบอุบัติเหตุ คนแม่เสียทันทีแต่คนลูกนั้นใบหน้าเสียโฉม ดูไม่ต่างจากผีน่าเกลียดน่ากลัว ทำให้ตัวลูกสาวต้องใส่หน้ากากยางไว้ตลอด และเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน จนกระทั่งหนักเข้าถึงขั้นคิดสั้น ผู้เป็นพ่อเห็นก็ไม่อาจทนเห็นลูกสาวต้องทนทุกข์ได้ เขาจึงเริ่มวิจัยพิศดารขึ้น เพื่อแก้ไจใบหน้าของลูกสาว เริ่มตั้งแต่การให้ผู้ช่วยออกไปล่าสาวสวยยามค่ำคืน แล้วลักมาผ่าตัดถลกหน้า ผ่านไปหน้าแล้วหน้าเล่า เพื่อหาใบหน้าที่เข้ากับลูกสาวได้ดีที่สุด ศัลยฯออกมาให้หน้าไม่เทา จนกระทั่งถึงคิวสาวสวยรายหนึ่ง เรื่องบางอย่างก็เกิดขึ้น…!!

อย่างไรก็ตาม…การทดลองสุดประหลาด กับการพยายามจะศัลยกรรมใบหน้าในยุค 60 จะจบลงยังไง ต้องไปหามาชมกัน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

4. Brake (2012)

#Brake 2012 เรื่องนี้ไงที่มีถามกันเข้ามาว่าเรื่องที่มีผู้ชายติดอยู่ในกล่องเหลี่ยมๆแคบๆคนเดียวทั้งเรื่อง ดูไปก็ลุ้นไป แต่ตอนจบเฉลยออกมาคือเงิบสุดๆ! เดากันไม่ออกแน่นอน

หนังเรื่องนี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ตื่นขึ้นมาก็พบกว่าตนเองถูกใครก็ไม่รู้จับยัดลงไปใน “กล่อง” บางอย่าง โดยไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมหรือกระทั่งตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน และกล่องนี่มันอะไร แต่อย่างนึงที่เค้าสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกคือ “นาฬิกานับถอยหลัง” ที่ถูกติดไว้ด้านบน บวกกับเครื่องมือบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้อย่างจงใจ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์สื่อสาร ไฟฉาย และรูปอะไรบางอย่าง จนกระทั่งเหตุและผลเริ่มปรากฎออกมา เมื่อมีเสียงคนติดต่อเข้ามาสั่งให้เขาทำตามในสิ่งที่มันต้องการ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันได้ออกไปสัดอากาศภายนอกอีกเลย ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ! มันเป็นใคร และเป้าหมายคืออะไร ชายคนนี้ทำได้เพียงอดทน ต่อสู้กับสภาวะที่เกิดขึ้น และตามน้ำมันไปเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงบทสรุป….

เท่านั้นแหละ! บอกเลยว่าเงิบหงายท้องตึงกันทุกคน คาดกันไม่ถึงแน่นอนว่าเรื่องราวแท้จริงมันจะเป็นแบบนี้ โอโห้ หัวร้อนเลย! หักมุมแล้วยังหักได้อีก

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

6. The Ghost (2004)

#The Ghost 2004 ยังหลอนไม่หาย!… ก็แค่กลุ่มเพื่อนสาวไปเที่ยวน้ำตกกันตามประสา แต่ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนเข้า หลบหลู่หรืออะไรมารึเปล่า พอกลับมาเพื่อนๆก็ทยอยหายไปทีละคนๆ

หนังผีสยองขวัญจากแดนกิมจเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนม.ปลายหญิง ที่นัดแนะกันไปเที่ยวน้ำตกกันในช่วงวันหยุด แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆหลังจากวันนั้นนักเรียนในกลุ่มนั้นก็พากันล้มหายตายจากกันไปอย่างเป็นปริศนา และจะเหลือร่องรอยเป็นคราบน้ำทิ้งเอาไว้ พอประติดประต่อเรื่องราวได้ คนที่เหลือก็เกิดขนหัวลุกขึ้นมา ด้วยความหวั่นวิตกว่าตนเองขะเป็นผู้ดชคดีคนต่อไปที่จะถูกสังเวยให้กับคำสาปหรืออะไรบางอย่างรึเปล่า

ถึงแม้จะเป็นหนังผีแนวคำสาป แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้มีความหักมุมและเบื้องลึกเบื้องหลังที่พร้อมจะทำคุณ “เงิบ” เมื่อเรื่องราวค่อยๆไขกระจ่างอย่างไม่ผิดหวัง

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

7. Nightmare Teacher 2016

Nightmare teacher 2016 คำสาปหรืออาถรรพ์? เมื่อคุณครูหนุ่มคนวหม่ย้ายมาที่ห้องเรียนแห่งนี้ จู่ๆก็เกิดเหตุบางอย่างให้นร.ในชั้นเรียนค่อยๆหายตัวไปทีละคนๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ

เรื่องนี้ไงดูกันหรือยัง? เรื่องมันมีอยู่ว่าที่คลาสเรียนมัธยมของนักเรียนเกาหลีมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น ซึ่งมันเริ่มตั้งแต่ที่คุณครูคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนครูที่ปรึกษาคนก่อนที่มีเหตุให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแม้ว่าครูคนใหม่จะดูไม่ต่างจากครูปกติทั่วไป หากแต่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลบางอย่าง หนึ่งในนั้นคือมักจะเรียกนักเรียนในชั้นเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวอยู่บ่อยๆ แล้วหลังจากนั้น นักเรียนคนที่ถูกเรียกไปมักจะหายตัวอย่างกับผีลักไปซ่อน!

นางเอกจึงต้องตามสืบเรื่องนี้ด้วยความที่สงสัยในตัวครูคนดังกล่าว แต่อะไรกันคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนๆหายตัวไป และครูคนนี้เป็นใครกันแน่ ต้องตามไปพิสูจน์กันในมินิซีรีย์เรื่องนี้ของเกาหลี ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 Ep บอกเลยว่าถ้าได้ดูแล้วตอนนึงนะ ยาวแน่นอน!

Spoil Alert! ความเห็นของป้า

8. AUTOSYS ROOM FOUR (2003)

#Autosys room four 2003 คนยังไม่ตายแต่หมอเข้าใจผิด คิดว่าสิ้นลมแล้ว และกำลังจะถูกผ่าพิสูจน์อยู่รอมร่อ จะพูดบอกก็บอกไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ แต่ได้ยินและรู้สึกได้หมดว่าใครทำอะไร

นี่คือหนังที่สร้างจากเรื่องสั้นของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญอย่าง “สตีเฟน คิง” หนังพูดถึงชายคนหนึ่งที่กำลังไดรฟ์กอล์ฟแล้วไปถูกงูพิษกัดเข้า ทำให้เขาหยุดหายใจไม่ได้สติ จนกระทั่งถูกนำตัวส่งโรงบาล ปรากำว่าหมอกลับลงความเห็นว่า “สิ้นใจแล้ว” จากวภาพต่างๆที่ปรากฎ แต่ในความจริงคือ…เขายังไม่ตาย นอกจากนี้ยังสามารถรับรู้สถานการณ์ได้ ไม่ว่าใครจะพูดหรือกระทั่งนินทารูปร่างของเขาก็ได้ยินหมดทุกคำ แต่เขาไม่สามารถเปล่งเสียงพูด หรือกระทั่งจะกระดุกกระดิก ส่งสัญญาณว่าเขายังมีชีวิตดยู่ได้ซะนี่ จนในที่สุดขั้นตอนนั้นก็มาถึง…ขั้นตอนที่จะต้องทำการผ่าพิสูจน์ ในเมื่อหมอลงความเห็นและมีการเซ็นยืนยันสภาพกันเรียบร้อย แบบนี้เขาก็จะต้องถูกผ่าจริงๆน่ะสิ นับถอยหลังแล้วมาลุ้นกัน …

Admin

02/04/2018

30 เรื่องเล่าผี จาก “กระทู้ผีพันทิป” รวมฮิตตั้งแต่ปี 53 – ปัจจุบัน

ในเว็บไซท์พันทิป นับว่าเป็นเว็บบอร์ดยอดนิยมของชาวไทย เป็นศูนย์รวมของเรื่องราวหลากหลายแง่มุมที่ผู้คนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นกัน หนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้นก็คือ “เรื่องเล่าผี” เรื่องเล่าสยองขวัญจากประสบการณ์จริงของสมาชิกพันทิป หรืออาจจะได้ยินได้รับฟัง แล้วนำมาเล่าสู่กันฟังในเว็บไซท์แห่งนั้ หากใครเป็นแฟนคลับของที่นี่ น่าตะรู้จักกันดีกับแท็ก “เรื่องเล่าสยองขวัญ” ที่ในแต่ละวันจะมีเรื่องราวชวนขนลุก มาให้อ่านกันจนตาแฉะ และนี่คือ 30 กระทู้ผีพันทิป ที่คัดมาว่า “เด็ดจัด ปลัดบอก” จากสมาชิกในพันทิปที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ส่วนใครอยากอ่านภาคสองไปอ่านได้ตามลิงก์นี้ครับ รวม 5 เรื่องเล่าผีจาก ‘กระทู้ผีพันทิป’ รวมฮิตความหลอนตั้งแต่ปี 2553 – ปัจจุบัน

รวมกระทู้ เรื่องเล่าผี จาก Pantip ในอดีตถึงปัจจุบัน ที่ไม่ควรพลาด

1. ไปเกาะกูดเจอผีเขมร

เจ้าของกระทู้ : ปีกทองแท้
กระทู้จากปี : 2557

เรื่องย่อ…. เรื่องราวของพนักงานสายการบิน ทั้งแอร์โฮสเตสและสจ๊วด ที่มีโอกาสได้ไปพักที่บ้านพักรีสอร์ตแห่งนึงบนเกาะกูด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจ.ตราด แต่สิ่งที่ได้เจอกลับไม่ใช่บรรยากาศชวนพักหย่อนผ่อนใจ หากแต่เป็นความอาฆาตของวิญญาณครอบครัวเขมร ที่ยังคงวนเวียนอยู่ที่นั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ…

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/31926641

2. เรื่องเล่าวิญญาณ ผีเขมร

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 2326851
กระทู้จากปี : 2559

เรื่องย่อ…. เรื่องราวของหญิงสาวชาวไทยที่ได้ไปเที่ยวกัมพูชา แต่กลับมีวิญญาณทหารเขมรตามติดเธอมาด้วย! เรื่องนี้เล่าไปในทางว่าวิญญาณทหารดังกล่าวมีเหตุผลในการติดตามเธอมา คือในอดีตชาติ ทั้งเธอและเขาเคยมีความสัมพันธ์กัน ในสมัยที่มีสงครามล้างพันธุ์เขมรในอดีต

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/35301065

3. ประสบการณ์ “โดนของ” ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 2601631
กระทู้จากปี : 2558

เรื่องย่อ…. นี่เป็นกระทู้ผีพันทิปที่ผู้เล่ายืนยันหนักแน่นว่า “เป็นความจริง” เมื่อสมาชิกพันทิปรายหนึ่งออกมาเล่าถึงประสบการณ์วิบากกรรม ที่พ่อถูกคุณไสย์มนต์ดำทำลายชีวิตจนครอบครัวที่ควรมีความสุขทลายลงต่อหน้า โดยเพื่อนร่วมงานเก่า หากใครเคยมีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้มาบ้าง น่าจะมีอารมณ์และนึกภาพตามได้ไม่ยาก ที่สำคัญ…เรื่องนี้เคยได้ออนแอร์รายการเรื่องผีและบำบัดกรรมชื่อดังของเมืองไทยมาแล้ว

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/34220167

4. ชุดครุยเช่า มีหัวใครอยู่ในนั้น

เจ้าของกระทู้ : SKY_K
กระทู้จากปี : 2557

เรื่องย่อ…. ชุดเช่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเคยมีคนมากหน้าหลายตาผ่านชุดเหล่านั้นมาไม่น้อย โดยเฉพาะกับ “ชุดครุย” ที่ผ่านนักศึกษามารุ่นแล้วรุ่นเล่า มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย หากชุดที่คุณเช่ามา..ไม่ได้บังเอิญไปพบว่า มีบางอย่างคล้ายศีรษะใครบางคนโผล่ออกมาจากใต้ชุดในวันรับปริญญา

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/32660371

5. กระทู้ผีพันทิป ผีปอบในค่ายลูกเสือ

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 3626889
กระทู้จากปี : 2560

เรื่องย่อ…. ในค่ายลูกเสือมักจะต้องมีกิจกรรมหนึ่งที่ไม่เป็นทางการคือการ “เล่าเรื่องผี” อยู่เสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนๆต่างห้องเอามาจับกลุ่มเล่ากัน ใครจะไปคิดว่าค่ายลูกเสือที่มีนักเรียนและครูกว่าร้อยคน จะมาพบเจอกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีนักเรียนคนหนึ่งถูกผีปอบเข้าจนร้องทุลนทุราย ยายปอแก่กำลังกินอะไบางอย่างภายในตัว แล้วกล่าวชื่นชมความอร่อย!

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/36292779

6. เล่าเรื่องผี..ในโรงแรมต่างจังหวัด

เจ้าของกระทู้ : Gleaming28
กระทู้จากปี : 2557

เรื่องย่อ….  นี่เป็นกระทู้ผีพันทิปที่แตกต่างไปจากธรรมเนียมปกติ เรื่องราวของสมาชิกที่ต้องเดินทางไปพักแรมที่โรงแรมในต่างจังหวัด แต่เจ้ากรรมคือดันไปพักมนโรงแรมที่มีผี ความแปลกคือเจ้าของเรื่องสามารถเล่าออกมาได้มีความสนุกและตลกร้ายอยู่ภายในเรื่องเล่า จากการบรรยายถึงเหตุการณ์แบบช็อตต่อช็อต

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/31558376

7. ประสบกาณ์สยองบ้านพักที่หัวหิน

เจ้าของกระทู้ :
กระทู้จากปี :

เรื่องย่อ…. เรื่องเล่าผีชวนขนลุก เหตุเปิดในบ้านพักแห่งนึงในที่เที่ยวยอดนิยมชาวกรุงอย่าง “หัวหิน” เมื่อหลานวัย 8 ขวบของเจ้าของเรื่องจู่ๆก็หายตัวไปจากห้องพัก และมาพบอีกทีลงมาเล่นน้ำอยู่กลางสระ โดยสอบถามใจความได้ว่า…น้องถูกคนชนมาเล่น หากเป็นคนทั่วไปที่มีร่างกายคงกลายเป็นคดีลักพา แต่ถ้าหากว่าคนๆนั้นเป็นเพียงชายในรูปถ่ายที่จากไปแล้ว ซึ่งเป็นสามีของเจ้าของที่พักล่ะ?!

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/35113856

8. คำสาบแช่งจากผีตายโหง ความแค้นสุดสะพรึง

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 2325385
กระทู้จากปี : 2558

เรื่องย่อ…. เป็นเรื่องราวที่มีพื้นหลังเป็นชนบทบ้านๆ ได้อารมณ์เหมือนหนังผีไทยสมัยก่อน เรื่องราวของความสุดแค้นเพราะแสนรัก ชายหนุ่มคนนึงหลงรักเพื่อนสาวอย่างไม่อาจหาอะไรมาทดแทนได้ เมื่อถูกปฏิเสธรัก แล้วทิ้งคำสาปแช่งเอาไว้ก่อนที่จะคิดสั้น จดหมายที่ทิ้งไว้เป็นจุดเริ่มต้นของความทุกทรมานชั่วชีวิตของหญิงสาว ซึ่งเป็นญาติของผู้เล่าเรื่อง

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/33730104

9. ธี่หยด…เรื่องเล่าผีที่ฮิตที่สุดบนพันทิป

เจ้าของกระทู้ : Rhythm in the Air
กระทู้จากปี : 2558

ถ้าพูดถึงเรื่องเล่าผีที่เป็นตำนาน โด่งดังที่สุดเรื่องนึงของพันทิป ต้องมีเรื่องนี้อยู่ในลิสท์แน่นอน ด้วยการคอมเมนท์และแชร์มหาศาล จนกระทั่งได้รับการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ชื่อดังเป็นรูปเล่มในภายหลัง

เรื่องย่อ…. เรื่องราวประสบการณ์ที่จำติดตาที่สุดตั้งแต่เด็กของสมาชิกผู้เล่าเรื่อง เรื่องของน้าสาวที่ถูกอะไรบางอย่างกัดกินจนต้องทุกข์ทรมานอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแรงปรารถนาจากบางคนที่ใช้อวิชชา เรื่องนี้ยาวมากแต่มีการเขียน เรียบเรียงที่ดี มีหลายรสชาติ หลายอารมณ์ เต็มไปด้วยวามระทึกและกดดัน กระทู้ผีพันทิปที่มีคนติดตามแบบเรียลไทม์ขณะที่คนเขียนมาคอยอัพเดทเป็นระยะ

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/33718556

10. มหาลัยกลางหุบเขา ภาคเหนือ

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 2418632
กระทู้จากปี : 2559

เรื่องย่อ…. รวมเรื่องเล่าประสบการณ์สยองขวัญชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ กับเรื่องเล่าสยองขวัญต่างๆที่ได้พบเจอมา หากใครเคยเรียนที่นี่หรือแม้กระทั่งรู้จักเคยเห็น คงจะเห็นภาพตามได้เป็นอย่างดี

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/35416426

11. เรื่องเล่าผี วิญญาณกับเครื่องบิน

เจ้าของกระทู้ : Keichun
กระทู้จากปี : 2557

เรื่องย่อ…. เริ่มต้นจากการเป็นกระทู้คำถาม ที่ผู้ใช้รายหนึ่งอยากฟังเรื่องเล่าสยองขวัญบนเครื่องบิน จนกระทั่งมีสมาชิกท่านอื่นๆมาช่วยเติมเต็มด้วยการแชร์ประสบการณ์กละเรื่องเล่าให้ฟังยาวเหยียดจากหลายสาขาอาชีพ ที่ได้พบมาจากบนเครื่องบิน ทั้งเรื่องรอยเท้าเด็กบนเบาะผู้โดยสาร เหตุการณ์ที่ไม่เคยมีคนเล่าของอาคารสนามบินชื่อดัง แม้กระทั่งเหตุการณ์นั่งบินติดกับศพ จนกลายเป็นกระทู้ผีพันทิป ที่สมาชิกนำเรื่องราวต่างๆมาเล่าสู่กันฟัง

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/32358837

12. เที่ยวบินสุดท้าย TG 311

เจ้าของกระทู้ : สมาชิกหมายเลข 2464512
กระทู้จากปี : 2559

เรื่องย่อ…. เหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินไทยตกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเมื่อ 20กว่าปีที่แล้ว เมื่อเครื่องบินตกที่เนปาล ผู้โดยสารนับร้อยที่มาจากต่างที่ต่างถิ่นกันต้องพบจุดจบ พวกเขาอยากกลับบ้าน… จนกระทั่งได้เที่ยวบินที่จะนำร่างไร้วิญญาณของพวกเขาส่งกลับ แต่เหตุการณ์บนเครื่องบินลำนั้น ย่อมไม่เหมือนลำไหนๆที่คุณเคยบินมาแน่

ลิงค์ : https://pantip.com/topic/34816301

13. ไฟล์ทบินสยองขวัญ

เจ้าของกระทู้

Admin

26/03/2018

Shutter Island (2010) : คนไข้คนที่หายไปหรือไม่เคยมีตัวตน

“Some place never let you go” นี่คือคำโปรยบนโปสเตอร์ของหนังเรื่อง Shutter Island โดยเป็นการบอกใบ้ว่า สถานที่ในหนังเรื่องนี้…หากคุณได้เข้าไปแล้ว จะไม่มีวันได้กลับออกมาอีก แต่ยังมีอีก quote ที่มีชื่อเสียงอันหนึ่งที่เข้ากับสถานการณ์แท้จริงสำหรับหนังเรื่องนี้อย่าง “Belive none of what you hear and half of what you see” ของเบนจามิน แฟรงคลิน รัฐบุรุษและนักประดิษฐ์คนสำคัญของอเมริกา “อย่าเชื่อในอะไรก็ตามที่คุณได้ฟัง และให้เชื่อเพียงครึ่งเดียวในสิ่งที่คุณได้เห็น” นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นหนึ่งของผู้กำกับ “มาร์ติน สกอร์เซซี่” ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ที่พูดถึงเรื่องราวอันชวนหัว เมื่อคนดีๆสามารถกลายเป็นบ้าได้ เพียงถูกปั่นหัวด้วยคำลวง เรื่องโกหกหากพูดเกินสามครั้ง…มันจะกลายเป็นเรื่องจริง แล้วถ้าหากมีคนพูดว่า “คุณเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิต” ครบสามคน คุณอาจะค่อยๆเป็นบ้าไปจริงๆ และนี่ก็คือ Shutter Island!

“เกาะนรกซ่อนทมิฬ” Shutter Island ไซโคทริลเลอร์จากปรมาจารย์ “มาร์ติน สกอร์เซซี”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเบสท์เซลเลอร์ของ เดนนิส เลอเฮน (Dennis Lehane) ซึ่งเป็นเจ้าของนวนิยายระดับขึ้นหิ้งอีกหลายเล่ม ซึ่งล้วนเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ  Mystic River ปมเดือดฝังแม่น้ำ หนังที่ว่าด้วยคดีอุกฉกรรจ์ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ไม่อาจดมมือคนร้ายได้ หรือ Gone baby Gone สืบลับค้นปมอันตราย ที่ว่าด้วยเรื่องของนักสืบเอกชนที่รับงานตามหาเด็กหาย จนนำไปสู่บทสรุปที่กชืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหนังระดับยอดเยี่ยมชิงรางวัล อีกทั้งยังมีจุดหักมุมท้ายเรื่องที่ชวนอึ้งสุดๆ

Shutter Island เล่าเรื่องของนายตำรวจศาล “เท็ดดี้ แดเนี่ยล” (ลีโอนาโด ดิคาปริโอ) กับคู่หูร่วมงาน “ชัค” (มาร์ค รัฟฟาโล) ที่เดินทางมายังเกาะลึกลับที่เป็นสถานบำบัดและคุมขังนักโทษที่มีปัญหาทางจิตรุนแรง เพื่อสืบคดีบางอย่างเกี่ยวกับนักโทษปริศนาที่หายตัวไปคนหนึ่ง ตามรายงานคือนักโทษบนเกาะที่ควรมีเพียง 66 คน กลับมีร่องรอยของ “นักโทษคนที่ 67” เพิ่มเข้ามาอย่างเป็นปริศนา

ส ป อ ย ล์ ห นั ก ม า ก ก ก ก . . . S H U T T E R  I S L A N D

“ใครคือ นักโทษคนที่ 67?”

นี่คือประเด็นหลักของหนังเลยก็ว่าได้ หนังเริ่มจากการตามหานักโทษ(คนไข้?)คนที่ 67 และก็จบด้วยเรื่องนักโทษคนที่ 67 ตัวหนังจะสร้างบรรยากาศความไม่ชอบมาพากลจากพฤติกรรมแปลกๆทั้งจากคนไข้ หมอ ผู้คุม หรือแม้กระทั่งตัวพระเอกกับคู่หู ทำให้เกิดความสับสนสับขาหลอกขณะดูว่า…อะไรจริง อะไรปลอม ใครเชื่อได้ ใครเชื่อไม่ได้? จนกระทั่งมาถึงไคลแม็กซ์สุดท้ายที่หักมุมได้รุนแรง แต่เมื่อย้อนกลับไปดูในฉากต่างก็พบว่า เหตุการณ์มันก็ชวนให้คิดและคล้อยตามได้กับข้อสรุปที่เกิดขึ้น

บทสรุปของหนังในช่วงท้ายจะแยกออกเป็นสองทาง (สปอ์หนักมาก) ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปอย่างชนิดที่ว่า “หนังคนละม้วน” เลยทีเดียว แบ่งออกเป็นสองทางให้คนดูเลือกที่จะเชื่อได้ดังนี้

1. เท็ดดี้ แดเนี่ยล คือ คนไข้คนที่ 67

2. เท็ดดี้ แดเนี่ยล ถูกปั่นหัว และทำเชื่อว่าตัวเองเป็นบ้า

เท็ดดี แดเนียล อดีตทหารผ่านศึกที่เคยรบในสงครามโลก เพื่อช่วยเชลยในเยอรมัน ที่มายังเกาะชัตเตอร์กับ ชัค คู่หูร่วมงานในฐานะตำรวจศาล เพื่อตามสืบเรื่องของ “เรเชล โซแรนโด” ผู้ป่วยทางจิตซึ่งมีรายงานว่าหายตัวไป โดยเรเชลเป็นผู้ต้องหาในคดีจับลูกสามคนกดน้ำจนเสียชีวิตจากอาการวิกลจริต

หมอคาวลีย์ (เบน คิงส์ลีย์) ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าดูแลและควบคุมบนเกาะชัตเตอร์ ได้พาเท็ดดีไปดูห้องขังที่ว่างเปล่า มันถูกล็อคอย่างแน่นหนาจากด้านนอก แต่เรเชลกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่เธอทิ้งรองเท้าของตัวเองเอาไว้ นั่นแสดงว่าเธอยังไม่ได้หนีไปไหนไกล นอกจากนี้เท็ดดี้ยังพบเบาะแสสำคัญ เป็นเศษกระดาษที่เขียนไว้ด้วยลายมือว่า… “ใครคือรายที่ 67?”

เท็ดดีกับชัคคู่หูออกสำรวจไปรอบๆเกาะ เขาเห็นถ้ำหินอยู่ใต้หน้าผา และประภาคารที่อยู่ไกลออกไป แต่ผู้ดูแลไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์และสร้างความเคลือบแคลงให้กับเขา เท็ดดียังได้สอบปากคำคนที่เกี่ยวข้อง และได้ข้อมูลมาว่า “หมอชีแฮน” ซึ่งถูกตั้งให้เป็นหมอประจำตัวของเรเชลก็ได้หายตัวไปด้วย โดยที่แจ้งว่าลาพักและออกจากเกาะไปในเช้าวันถัดมา

คืนนั้นเท็ดดีนอนบนเกาะชัตเตอร์ และฝันถึงโดโลเรส ภรรยาที่จากไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน โดยที่เธอสบอกกับเขาในฝันว่า…เรเชลยังอยู่บนเกาะชัตเตอร์ และคนชื่อ “แอนดรูว์ แลดิส” ตัวการวางเพลิงก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

หลังจากนั้นเท็ดดียังคงสอบปากคำผู้ป่วยที่เคยพบกับเรเชลเป็นคนสุดท้าย ผู้ป่วยคนนั้นแอบเขียนข้อความบางอย่างลงสมุดของเท็ดดี โดยบอกเป็นนัยว่า “ให้หนีไป”

เท็ดดีบอกเรื่องของแอนดรูว์ แลดิสกับชัค ว่ามันถูกส่งมาเกาะชัตเตอร์เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีจุดประสงค์มาที่นี่เพื่อล้างแค้นแอนดรูว์ เท็ดดียังบอกอีกว่า เขาตั้งใจมาที่นี่เพื่อเปิดโปงเบื้องลึกเบื้องหลังของเกาะลึกลับแห่งนี้ เพราะเคยได้ข้อมูลลับจากผู้ต้องหาชื่อ “จอร์จ นอยซ์” มาว่า ความจริงแล้วเกาะชัตเตอร์มีการใช้ผู้ป่วยเพื่อการทดลองอย่างลับๆ ภายใต้การคุมของหมอคาวลีย์ คู่หูให้ความเห็นว่า การที่เขาถูกส่งมาที่เกาะนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของ “ฉากที่ถูกจัดขึ้น” เพราะหากมีการทดลองผิดกฎจริง ทางการย่อมต้องมีส่วนรู้เห็น

หลังกลับไปที่สถานบำบัดท่ามกลางฝนฟ้ากระหน่ำ หมอคาวลีย์แจ้งว่า เราเจอเรเชลแล้ว เท็ดดี้รีบไปสอบปากคำ แต่เรเชลเกิดสติหลุดและทึกทักว่าเขาเป็นสามีและเริ่มคลุ้มคลั่ง หลังจากเหตุการณ์นั้นเท็ดดีมีอาการปวดศีรษะ โดยที่หมอคาวลีย์ให้ยาที่อ้างว่าจะช่วยบรรเทาอาการปวด หลังจากนั่งฟุบหลับไป เท็ดดีฝันถึงเรื่องในอดีตที่แสดงถึงปมในใจของเขาว่าเคยประสบเหตุการณ์อันน่าเศร้า เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า “ทำไมไม่ยอมมาช่วยเธอ?” เท็ดดีตอบไปอย่างเศร้าสร้อยว่า ขอโทษ ตนมาช้าเกินไป…

เท็ดดี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาดอยู่บนเตียง เพราะเกิดเสียงเอะอะโวยวาย เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องทำให้ๆไฟดับไปทั่วสถาบำบัด เท็ดดีและคู่หูพากันแอบไปยัง “วอร์ด C” สถานที่หวงห้ามของเกาะ ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่คุมขังนักโทษวิกลจริตร้ายแรง โดยที่จะเห็นว่าที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ อีกทั้งยังมีผู้คมเฝ้าอย่างเข้มงวด ชวนให้เขาสงสัยอย่างมาก

เท็ดดีแอบเข้าไปและพบกับนักโทษ จอร์จ นอยซ์ ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ แม้เท็ดดี้จะจำหน้าตาเขาไม่ได้ แต่จอร์จกลับจำเท็ดดี้ได้เสมือนรู้จักดี จอร์จกล่าวโทษว่า…เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะตัวเท็ดดีเอง นายต้องปล่อย “เธอ” ไป “เธอ” กำลังปั่นหัวนาย ถ้านายไม่ปล่อย…จะไม่มีวันได้ออกจากที่นี่!

แม้เท็ดดีจะยังไม่เข้าใจว่าจอร์จพูดถึงใคร แต่ก็ให้สัญญาว่าจะช่วยเขาออกไป แต่จอร์จกลับตอบมาอย่างไม่ใยดีว่า “นายช่วยใครไม่ได้หรอก” เป็นปริศนาทิ้งไว้

เท็ดดีเริ่มสังเกตว่า…ชัคคู่หูของเขามักจะแยกตัวออกไป โดยอ้างว่าจะไปรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ เท็ดดีได้ตามชัคไป และเห็นชัคเหมือนจะเสียหลักตกหน้าผาจึงรีบตามลงไป เขาพบถ้ำหินที่อยู่ใต้หน้าผาและได้พบกับ “เรเชลตัวจริง” ที่นั่น! เธอบอกกับเขาว่า ความจริงตัวเองเป็นหมอ เธอไม่มีสามี ไม่มีลูก และแน่นอนว่าไม่กดน้ำใคร แต่เธอได้ไปรู้เห็นการทดลองลับที่มีการนำคนไข้มาผ่าเปิดหัวและแก้ไขเส้นประสาท เพื่อทำลายความทรงจำ และความเจ็บปวด เพื่อพัฒนาเป็นอาวุธให้กองทัพ เรเชลยังเตือนอีกว่า…สิ่งที่เป็นหลักฐานต่อคำพูดของเธอก็คือ ยาซึ่งหมอคาวลีย์เอาให้เท็ดดีกินนั่นเอง ตอนนี้ยาคงกำลังเริ่มออกฤทธิ์หลอนประสาททีละนิดๆ และจะทำให้ตัวเขา “กลายเป็นบ้า” เพื่อปิดปากคนนอกที่จะเข้ามาสืบความลับ

เท็ดดีกลับไปที่สถานบำบัดอีกครั้ง และถามหาชัคคู่หูที่เขาเชื่อว่าถูกปิดปากไปโดยคนบนเกาะ แต่หมอคาวลีย์กลับบอกกับเขาว่า “ไม่มีคู่หู คุณมาที่เกาะนี้คนเดียว” ??!

หลังจากนั้นเท็ดดีเริ่มมองเห็นสถานการณ์ที่เลวร้าย หมอของสถานบำบัดพยายามที่จะฉีดยาบางอย่างให้เขา เขาหนีออกมาแอบซุ่มตัวและแอบสร้างความวุ่นวายไปทั่วเกาะ …

Admin

15/03/2018

เรื่องเล่าผี | หมู่บ้านสยองโคราช อยู่มา 2 ปี มีงานศพแทบทุกวัน!

เรื่องเล่าผี เรื่องนี้..เริ่มต้นขึ้นจาก มีผู้หญิงคนนึงโทรมาเล่าประสบการณ์สุดหลอน ผ่านทางรายการวิทยุ EFM 104.5 “อังคารเช็คดวง” ซึ่งออกอากาศสดเมื่อ 19 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา เรื่องแปลกๆที่ “คุณพลอย” เจ้าของสายเจอมากับบ้านโครงการหนึ่งในจ.โคราช ที่มีคนตายแทบทุกวันจนหมู่บ้านร้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์จรจัดที่ไปหากินในพื้นที่หมู่บ้าน ล้วนมีอันเป็นไปกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ยังอยู่ หากไม่ประสบปัญหาทางการเงินก็มักจะมีเรื่องให้ทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัว โดยหลายคนเชื่อกันว่าเป็นอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ (คำเตือน…“เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน”)

ประสบการณ์เกือบ 2 ปี ที่อยู่ร่วมบ้านกับผี! – เรื่องเล่าผี

เรื่องราวของหมู่บ้านผีสิงในจ.นครราชสีมา มีอยู่ว่า…

คุณพลอยเล่าว่า…มีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้เสมอ จนอยู่ไม่ได้

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น… เมื่อคุณพลอยและครอบครัวตั้งใจจะย้ายจากบ้านเดิมมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่พึ่งซื้อ ด้วยราคกว่า 4 ล้านบาท เป็นบ้านโครงการหรูสไตล์อังกฤษ ในวันแรกก่อนจะย้ายเข้านั้น บังเอิญญาติถอยรถไปโดนหมาตัวหนึ่งบาดเจ็บ คุณพลอยเลยเอาน้องเขามาเลี้ยงที่บ้านใหม่ด้วย ซึ่งปกติคุณพลอยก็เลี้ยงอยู่แล้วหลายตัว

หลังจากวันนั้น.. เมื่อย้ายเข้ามาอยู่… คุณพลอยเล่าว่ามีบรรยากาศมันแปลก มันมีความเศร้า ทั้งที่ๆหมู่บ้านหรูและสวยมาก ตอนย้ายเข้ามาวันแรกสามีที่เป็นทหารก็มีคำสั่ง ถูกย้ายให้เข้ากทม. กระทันหัน ทำให้ครอบครัวไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าอย่างที่ตั้งใจ

ผ่านมาหนึ่งเดือน… จู่ๆสุนัขที่คุณพลอยเลี้ยงไว้ (จากทั้งหมด 11 ตัว) ก็ได้เริ่มตายเป็นตัวแรก หลังจากเข้าโรงพยาบาลได้ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นสุนัขก็เริ่มทยอยล้มหายตายจากไปเรื่อยๆอีก รวม 7 ตัว ติดต่อกันภายในเวลาแค่ 2 เดือน รวมทั้งตัวที่เคยเก็บมาก่อนจะเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย… อย่างไม่มีสาเหตุ คุณพลอยเล่าว่ามันนอนตายไปซะเฉยๆ จนคุณพลอยร้องไห้ไม่ทัน เป็นจุดเริ่มต้นของความอาถรรพ์ของหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าผีๆ

หลังจากนั้น… ไม่ใช่แค่สุนัข คนสวนในหมู่บ้านที่คุณพลอยจ้างพิเศษมาทำงานสวน จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุรถประสานงา เสียชีวิตไปถึง 3 คน ซึ่งหลังจากตอนนั้น คุณพลอยเล่าว่า ลูกของเธอทักว่ามีคนแอบดูเราอยู่ในบ้าน มีคนแอบคุยข้างๆหู ซึ่งลูกคุณพลอยอยู่ ม.1 แล้ว ไม่ใช่เด็กไม่ประสีประสา ที่จะไม่รู้เรื่อง

แม้แต่เพื่อนเองก็ไม่กล้ามาบ้านแล้ว เพราะ…ในบ้านจะมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ วันหนึ่งซึ่งเพื่อนนั่งอยู่ในห้องนึงหน้าตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกบานใหญ่ … จู่ๆเธอก็บอกกับคุณพลอยว่า “เห้ย ต่อไปนี้ไม่มาบ้านเธอแล้วนะ” จนคุณพลอยตกใจและสงสัยว่าทำไม เพื่อนบอกว่า “ตอนหวีผมอยู่ดีๆ มีผู้หญิง…แมร่งมาหวีผมอยู่ข้างหลัง”!!

ตัวสามีคุณพลอยเองไม่เคยบอกเลย ว่าทุกครั้งที่มาบ้านจะเจอเหมือนกัน จนวันที่คุณพลอยและลูกตัดสินใจย้ายออก เขามาขอโทษที่ไม่เคยบอกเราเลย แล้วให้อยู่กับลูกว่าเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ที่ชิงช้าหน้าบ้าน เป็นเหตุให้ทุกครั้งที่สามีมาบ้านจะไม่ชอบอยู่ติดบ้าน จนคุณพลอยเคยสงสัยว่าแอบมีบ้านเล็ก

แม้แต่บ้านอื่นในหมู่บ้านนี้ ก็ประสบเคราะห์กรรมไม่ต่างกัน…

มีเคสนึง เป็นนักเรียนนอกกำเงินมาเป็น 10 ล้าน และตั้งใจมาเป็นครูพิเศษ เงินเดือนสูงเลย แต่หลังจากอยู่ไปเพียง 4-5 เดือน ก็ตกงานเพราะอยู่ๆก็ประสบอุบัติเหตุ ขาพิการใช้การไม่ได้ จึงไปทำงานไม่ได้

เรื่องเล่าผี หมู่บ้านอาถรรพ์เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณพลอยเล่าต่อว่า เพื่อนตนเอง อยู่หมู่บ้านเดียวกัน บ้านเลขที่ 444/42 ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วไฟครอกทั้งๆที่คนในรถยังได้สติ และเนื่องจากเป็นรถเติมแก๊ส พอเกิดเพลิงไหม้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย แม้ว่าเพื่อนเธอพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือจากในซากรถ!! และต่อมาคนสวนของบ้านนั้นก็เล่าให้ฟังว่า… เห็นเพื่อนเธอยืนรดน้ำต้นไม้ที่บ้าน หลังจากที่ตายแล้วอยู่ สร้างความตกตะลึงให้กับพิธีกรในรายการอย่างมาก

คุณมดดำย้ำกับคุณพลอยว่า..คนในหมู่บ้านนี้ดูเหมือนถ้าไม่ล้มละลายก็มีอันเป็นไป จนดูเหมือนคนในหมู่บ้านนี้มีอาชีพจำเป็นอย่างนึงคือ “ไปงานศพเป็นกิจวัตร” คุณพลอยก็ยืนยันว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ

จนผ่านมากว่า 2 ปี ในช่วงปี 58 จึงมีรายที่ 4 เกิดขึ้น… คนสวนคนสุดท้ายนั้นเกิดรถชนกับกระบะคาที่ สมองเปิด จนคุณพลอยคิดว่าถึงเวลาต้องตัดใจทิ้งบ้านราคากว่า 4 ล้านบาทและย้ายออกไปอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่

มีอยู่วันนึง ใช่วงปี 58 นั้นเอง เนื่องจากครัวที่บ้านเป็นครัวแบบตะวันตก ซึ่งจะยกพื้นหนึ่งสเต็ป ขณะเดินผ่าน..จู่ๆก็ได้ยินเสียงกระซิบ “4..8..3..” ผีบอกเลขให้ตรงๆสามตัวเลย! แต่ทว่า..ทุกครั้งที่ถูกหวยจะต้องมี 1 ชีวิตที่ถูกสังเวย!!

คุณพลอยบอกว่าไปดูดวงดูหมอมาหลายที่ ก็ถูกทักว่าที่บ้านมีผี มีปอบนะ ไม่ดีนะ มีผีจะเอาชีวิต อะไรแบบนี้ ตอนแรกตนเองยังไม่มั่นใจ จนกระทั่งคุณพลอยแน่ใจว่าเราโดนแน่แล้วก็ตอนได้พบกับหญิงท้องเดินทะลุกำแพงเข้ามาในบ้าน มีแต่ตัว..หัวไม่มี!

คุณพลอยเคยนิมนต์พระ 9 รูป เคยเชิญสินแสมาเขียนฮู้ตรงราวบันได เพราะที่ราวบันไดมีของเหลวสีแดงชวนสยองไหลออกมา หยดๆๆลงมา ซินแสเลยมาเขียนให้ตรงบริเวณหัวของราวบันได ซึ่งเราก็ไม่รู้ที่มาที่ไป เข้าใจว่าเป็นแค่ของประดับเพื่อความสวยงาม แต่ก็มีบางคนบอกว่าเคยมีคนแขวนคอที่กำแพงตรงนั้นมาก่อน! รู้สึกกลัวจนแทบอยู่ไม่ได้แล้ว คุณพลอยบอกว่า..ตนไม่ได้กลัว เรื่องเล่าผี ๆนะคะ แต่กลัวกับเรื่องประหลาดๆที่เกิดขึ้นจนนำซินแสมาแปะยันต์ หมอดูมาช่วยทุกวิธีแล้ว แต่ก็มิได้นำพา

คุณพลอยเหนื่อยกับเรื่องราวที่ประสบพบเจอจนวันนึงก็ลองดีด้วยความโมโห ทั้งๆที่ตนเป็นเจ้าของบ้าน คนอื่นหรือสิ่งอื่นจะมามีปากเสียง จะมายิ่งใหญ่กว่าเราไม่ได้ ก็ได้จุดธูปแล้วท้า..บอกว่า “ถ้าแน่จริง เมิงออกมาหากรูเลย” หลังจากนั้นก็มาจริงๆ แต่ไม่ได้มาเป็นตัว มาเพียงลมแผ่วเบาและเสียงกระซิบข้างหูว่า…”จำไว้ กรูชื่อจัน!” ทำเอาวันนั้นตนต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลเลย

คุณพลอยเล่าว่าอีกเรื่องเล่าผีที่ประหลาดคือ เวลาตนอยู่บ้านต้องมีความรู้สึกว่าอยากแต่งหน้า จำเป็นต้องแต่งหน้าอยู่ตลอด โดยเฉพาะวันไหนที่ใช้ลิปสีแดงจะมีความรู้สึกสั่นร้อน จนไปถามปรึกษาเพื่อนบ้านว่าตนจะโดนผีเข้ารึเปล่า แม้กระทั่งวันที่เข้าโรงพยาบาล ล้างหน้าหน้าสดแล้วยังเอ่ยถามแม่ตนว่า “แม่..มีอายไลน์เนอร์ เขียนตามั้ย”

เคสนึงที่ได้ฟังจากรปภ. เรื่องของเพื่อนร่วมหมู่บ้าน กระโดดระเบียงลงมาเพราะน้อยใจสามี หวังปลิดชีพ แต่ไปตายที่โรงพยาบาล ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลจากคุณพลอย ห่างไปไม่กี่หลังเท่านั้น

นอกจากนี้บ้านหลังเลขที่ 444/27 ก็เคยมาถามว่า เคยเจอมั้ย เป็นผู้หญิงมาลากเตียงเลื่อนเตียงในห้อง คุณพลอยเล่าว่าตนเจอเป็นผู้หญิงท้อง เพื่อนบ้านบอกตนไม่แน่ใจเพราะเห็นจากด้านหลัง

คืนนึงอยู่กับลูกสองคน ได้ยินเสียงกดกริ่ง ออกไปก็เจอผู้หญิงเปียกโชกไปทั้งตัว ยืนอยู่ในรัวบ้านแว่บแรกคิดว่าคงเป็นใครที่ตกน้ำแถวนี้แล้วมาขอความช่วยเหลือรึเปล่า แต่เธอผู้นั้นเข้ามาในบ้านได้อย่างไร กำแพงสูงถึง 5 เมตรและรั้วก็ล็อคแน่นหนา ต้องใช้บันได้ปีนพาดเข้ามาเลยนะ คุณพลอยก็ถามว่าใครแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับมา…

คุณพลอยสรุปให้ฟังว่าตั้งแต่อยู่มาเกือบๆ 2 ปี ได้เห็นคนตายไปแล้ว 3 ที่เป็นเจ้าของบ้าน กับคนสวนอีก 4 นี่คือตัวเลขแน่นอนเท่าที่คณพลอยทราบ นอกจากนี้ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุอื่นๆอีกด้วย แต่ที่เห็นชัดๆที่สุดคือล้มละลาย ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก ข้างบ้านหลังนึง จากที่เคยมีเงินกว่า 11 ล้าน หมดได้ภายใน 6 เดือนจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน

หลังจากคราวเรื่องเล่าผีผู้หญิงท้อง เรื่องก็ผ่านไปจนสามีคุณพลอยก็กลับมาแล้ว แต่เจอหนักกว่าเดิม ในคืนหนึ่งสักสามทุ่มมาหอนกันทั่ว เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ลมก็พัดแรง ขณะที่สามีจอดรถ หลังจากที่พวกเราไปข้างนอกกันมา

สามีเอ่ยขึ้นว่า “คุณ…! ใครอยู่ข้างหลังเรา?” พอคุณพลอยหันไปดูก็พบใครบางคนหน้าตึงๆ ไรขนที่ใบหน้าตั้งชูชัน ในดวงตามีนัยน์ตาที่ประหลาด เป็นสีขาวดวงเล็กๆ สามีดูตื่นกลัวแต่ยังรู้สึกตัว และเขย่าตัวคุณพลอยพร้อมบอกว่า “คุณ! ข้างหลังเรา มันจะเข้าสิงเรา” 

คุณพลอยก็รีบวิ่งเข้าบ้านไปอุ้มพระ เป็นพระแก้วมรกตลงมา ด้วยความตกใจคุณพลอยก็สวดมนต์เท่าที่นึกออก วนๆไป แล้วบอกว่าพระแก้วช่วยลูกด้วยๆ! สักสามนาทีลมก็สงบ จนสามีตะโกนให้เข้าบ้านๆ ได้จังหวะก็รีบพากันวิ่งเข้าบ้านไปเลย

นั่นเป็นครั้งแรกที่คุณพลอยรู้ว่า..คนผีเข้ามันเป็นยังไง จากนั้นคุณพลอยก็เล่าว่า…ได้ยินเสียงคนทุบกระจก เพราะเป็นบ้านสไตล์อังกฤษที่มีกระจกเยอะ แต่มันแปลกตรงที่ มันจะเป็นไปได้ไงที่จะมีคนไปเคาะกระจกถึงบนห้องนอนชั้นสอง จนสั่นสะเทือนดังทั่วบ้าน

จุดสิ้นสุดความอดทน

Admin

07/03/2018

“ห้องสนิม” เรื่องเล่าผีล้านวิว ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2018

ห้องสนิม” หากใครที่รักการอ่านเรื่องเล่าผีเป็นชีวิตจิตใจน่าจะผ่านหูผ่านตาเรื่องนี้มาบ้าง เพราะมันคือเรื่องเล่าผีที่น่ากลัวที่สุดเรื่องนึงในปีที่ผ่านมา โดยถูกเล่าผ่านรายการวิทยุผีชื่อดัง เจ้าของเรื่องคือคุณแป้งซึ่งนำประสบการณ์ชวนหลอนสุดในชีวิตของรุ่นพี่คนนึงชื่อ จิรา มาเล่าสู่กันฟัง และทันทีที่เรื่องนี้ถูกออนแอร์ก็ได้รับการเข้าชมคลิปและแชร์ออกไปอย่างถล่มทลาย ด้วยความน่ากลัว ความโหดดาร์คของเนื้อเรื่อง ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในมุมหนึ่งของสังคมไทย

“ห้องสนิม” เรื่องเล่าผี ที่มียอดวิวมากที่สุดเรื่องนึงในประวัติศาสตร์

เรื่องเล่าผีเรื่องนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นคุณจิรา รุ่นพี่ของคุณแป้งเป็นนักศึกษาปี 3 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และกำลังลงเรียนในวิชาที่ศึกษาวิจัยด้านภาษาท้องถิ่น นอกจากนี้วิชาที่ว่ายังจำเป็นต้องลงภาคสนามเพื่อไปเก็บข้อมูลถึงสถานที่จริง โดยคุณจิราและเพื่อนอีก 3 คน คือ กิ๊บ นุช และวิรุณ ตกลงกันว่าจะเลือกพื้นที่หนึ่งในจ.สระแก้วเป็นเป้าหมายการค้นคว้า

เมื่อถึงวันที่ต้องออกเดินทาง คณะนักศึกษาทั้ง 4 เดินทางแต่เช้ามืดและถึงที่หมายในช่วงสายของวัน แล้วจัดแจงเช็คอินเพื่อเข้าพักในโรงแรม วันถัดมาก็ตกลงกันลงขันจ้างรถที่ทางโรงแรมให้บริการ โดยที่มีแพลนว่าจะลงภาคสนามเพื่อรวบรวมข้อมูลกันใน 2 พื้นที่คืออ.อรัญประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนและเป็นที่ตั้งของตลาดชื่อดังอย่าง “โรงเกลือ” กับอีกพื้นที่นึงคืออำเภอข้างเคียงกัน ซึ่งที่นี่เองเป็นที่มาของเรื่องเล่าอันน่าสะพรึงเกินกว่าจะจินตนาการได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆลงความเห็นกันว่าเราจะไปยังอำเภอ “ข้างเคียง” ดังกล่าวมาก่อน แล้วค่อยไปจบที่อรัญประเทศ โดยคาดหวังว่าจะได้เดินตลาดซื้อของฝากกันหลังจากเสร็จกิจธุระตอนขากลับ

หลังไปถึงอำเภอที่ว่าแล้ว จุดสำรวจแรกคือวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะจัดงานผ้าป่ากฐินอยู่ จึงแวะลงไปสักการะบูชาและทำรีเสิร์ชกันอยู่ราว 2 ช.ม. ก็ผละออกมา จนกระทั่งพบหมู่บ้านแห่งหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก ก็นัดแนะกับคนขับรถที่จ้างมาว่า จะอยู่ทำงานที่หมู่บ้านแห่งนี้ 2-3 ช.ม. สักสี่โมงเย็นค่อยกลับมารับพวกตนใหม่ที่จุดนัดหมายซึ่งนัดแนะกันไว้ล่วงหน้า เพราะกว่า 30 ปีที่แล้ว ระบบโทรคมนาคมยังไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนกับตอนนี้ ยิ่งด้วยเป็นพื้นที่ห่างไกลเมืองด้วยแล้ว การนัดหมายให้ชัดเจนจึงสำคัญ

คณะนักศึกษาพากันเดินเข้าไปยังหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัด อย่างไรก็ตามหมู่บ้านที่ว่านับว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่เอาเรื่อง เมื่อผ่านเข้าไปจะพบกับเรือนผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นที่ทำการประกอบกิจของหมู่บ้านด้วย หากเดินเข้าไปตามทางก็จะพบว่าบ้านแต่ละหลังในหมู่บ้านนี้มีสัมมาอาชีพเป็นช่างต่างๆกัน ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างเหล็ก และงานผลิตสินค้าที่ใช้ความชำนาญ ดูแล้วเป็นชุมชนตัวอย่างเลยทีเดียว นับว่าเป็นโชคดีของกลุ่มนักศึกษาที่เลือกจะมาเก็บข้อมูลวิจัยกันที่นี่ เพราะนอกจากมีวัตถุดิบข้อมูลที่สะท้อนความเป็นอยู่ของคนในชุมชนแล้ว ลูกบ้านต่างก็ยิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นกันเอง

หลังคณะวิจัยขอความร่วมมือศึกษาและรวบรวมข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ผู้คนในท้องที่ ผู้ใหญ่บ้านก็มีน้ำใจชวนคณะไปรับประทานอาหารกลางวัน ตั้งวงกับข้าวกับปลากันบริเวณชานเรือนอย่างเรียบง่ายเป็นกันเอง ขณะที่เวลามีแขกไปใครผ่านมา ผู้ใหญ่ก็จะโบกมือเรียกมาแบ่งแกงพะโล้ของแกไปทาน จิราและเพื่อนเห็นภาพแบบนี้ก็รู้สึกว่าคืดไม่ผิดที่ได้มาที่นี่

กระทั่งการมาของชายคนหนึ่ง จิราและนักศึกษาสังเกตเห็นชายร่างผอมสูงท่าทางมอมแมมในชุดขาดวิ่นเป็นริ้ว ผมเพ้ากระเซิงราวคนจรจัด เดินผ่านมาจากทางเข้าหมู่บ้าน แล้วมานั่งอยู่ที่ข้างบ้านหลังหนึ่ง ไม่ไกลจากที่คณะนักศึกษานั่งทานข้าวอยู่นัก ผู้ใหญ่ที่ร่วมวงอยู่ด้วยกันคงสังเกตเห็นว่าคณะนักศึกษากำลังเพ่งความสนใจไปที่ชายนิรนามที่ว่า จึงเอ่ยปากขึ้นแม้ไม่มีใครทักถาม

“หมอนี่มันชื่อเมืองมน… เมืองมนคนผีบ้าน่ะ”

“เป็นลูกชายของหมอขวัญใกล้วัดแถวๆนี้แหละ เมื่อก่อนมันก็ดูดีเป็นผู้เป็นคนอยู่หรอก”

“แต่ก่อนนับว่ามันหล่อเหลาเอาการ กระทั่งมันไปชอบพอนางโนรี ลูกสาวป้าคล้าย ช่างทำเสื่อที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่อกหักกลับมา…”

“ก็เพราะว่านางโนรีมีเสี่ยสิบ นายหน้าค้าที่ดินที่บังเอิญมาทำกิจธุระแถวนี้มาชอบพอเค้าน่ะสิ สุดท้ายก็ตกลงปลงใจไปอยู่ด้วยกัน ลงเอยด้วยดี จนตอนนี้นางโนรีมันคงสบายไปแล้ว”

“แต่ไอ้เมืองมนน่ะสิ คงจะเฮิร์ทเอาเรื่อง ทำใจไม่ได้จนเสียผู้เสียคน เพี๊ยนจนเลเะเลือนไปเลย…”

เนื่องจากจิราและเพื่อนๆเป็นนักศึกษา ยังหนุ่มยังสาวอยู่จึงสนใจในเรื่องรักๆใคร่ๆเป็นธรรมดา เลยชวนคุยกันอย่างออกรส หนึ่งในนั้น..นุชก็ถามขึ้นแทนใจของทุกคนว่า

“แม่โนรีคนนี้คงจะสะสวยมากเลยนะ ถึงกับทำหนุ่มหลงหัวปักหัวปำ อกหักจนเป็นบ้าเป็นหลังได้ขนาดนั้น”

ทันใดนั้นเองภรรยาของผู้ใหญ่บ้านก็พูดขึ้นมาอย่างรู้งาน…

“หน้าตาพิลึกสิไม่ว่าหนูเอ๊ยย ไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมือง”

“เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่สูงชะลูด แขนขาเก้งก้าง ผมก็แดงยังกับอิฐ ตาเหลืองผิวซีดๆ มีกระๆขึ้นเต็มหน้า”

จิราก็กับเพื่อนก็พูดแทบจะเป็นเสียงเดียวกันว่า… นี่มันลักษณะของฝรั่งต่างชาติ ลูกครึ่งชัดๆ ภรรยาผู้ใหญ่ก็อธิบายเสริมเติมความว่า… ยายคล้ายแม่ของโนรี อุ้มท้องโย้ย้ายมาจากสัตหีบเมื่อหลายปีก่อนมาอยู่ที่นี่ เดิมทีบ้านนั้นยังมีตาพุ่มอาศัยอยู่ แต่หลังคลอดได้ปีนึง ตาพุ่มก็มาเสีย จนยายคล้อยต้องตกระกำเลี้ยงลูกตัวคนเดียวด้วยการหาของป่าขาย

“พอตอนหลังนางโนรีมีผัวเป็นเสี่ยนั่นแหละ ถึงได้มีเงินมาปลูกบ้านใหม่อย่างที่เห็น”

ขณะที่นั่งฟังเรื่องเล่าเมื่อครั้งอดีตของสาวผู้เป็นต้นเหตุให้ชายคนหนึ่งเสียสติ จิราก็สังเกตเห็นคนในบ้านช่างตีเหล็ก เอากับข้าวในชามไปให้ผู้ชายคนที่ว่า แต่จู่ๆเมืองมนก็เกิดร้องโหวกเหวกคุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกับเห็นผีร้าย ปัดชามคว่ำกระเด็น แล้ววิ่งหนีหายเข้าไปด้านในที่ที่ใช้เก็บข้าวของเครื่องมือช่าง ชาวบ้านต่างพากันวิ่งไปเพื่อคุมตัวเมืองมน เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเผลอไปทำร้ายคนอื่นๆได้

วิรุณชายหนุ่มคนเดียวในคณะนักศึกษาก็เข้าไปช่วยด้วย เลยได้เห็นอย่างชัดเจน ว่าเมืองมนอยู่ในสภาพที่น่าอดสูเพียงใด เขานั่งขดตัวซุกอยู่กับมุมหนึ่งในห้องที่คล้ายกับตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกจับด้วยสนิมเป็นสีแดงน้ำตาลคล้ำหนา จนดูเผินๆคล้ายกับกล่องเหล็กขนาดใหญ่ที่ถูกฉาบไปด้วยสีชาด เมื่อสังเกตดูดีๆจะพบว่ามันถูกสร้างขึ้นจากการนำแผ่นเหล็กมาก่ออย่างหยาบๆเหนือพื้นดิน โดยที่พื้นยังคงเป็นดินเปลือย ภายในห้องดูเหมือนใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์ช่างต่างๆที่ทำจากโลหะกองสุมกันอยู่ แต่มีสิ่งที่สะดุดตาในห้องสนิมเขลอะคือ ตรงกลางห้องแท่นปูนขนาดประมาณโต๊ะเล็กๆถูกก่อขึ้นมา ด้านบนนั้นมีอาวธของมีคมอย่างมีดและดาบวางสุมไขว้กันเป็นกระโจมย่อมๆ แม้ห้องที่ว่าจะดูแปลกประหลาดแต่ก็ไม่ได้ถึงกับติดใจอะไรเขาไปมากกว่า สถานการณ์ของเมืองมนชายสติฟั่นเฟือนตรงหน้า ในที่สุดก็ดูเหมือนจะสงบลง ทุกคนจึงปล่อยให้เขานั่งร้องไห้อย่างเงียบๆอยู่ในห้องนั้นคนเดียว

จุดเริ่มต้นของเรื่องเล่าผีที่น่ากลัวที่สุด… “คนบ้ากับห้องสนิมประหลาด”

หลังเสร็จงานเรียบร้อย ก็นั่งรอรถมารับกระทั่งได้เวลานัดหมาย แต่จนแล้วจนเล่าเวลาล่วงเลยไป 6 โมงเย็นก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีรถมารับ จึงขอยืมโทรศัพท์โทรไปยังโรงแรมจากบ้านผู้ใหญ่ วิรุณคุยกับทางนั้นได้ความว่ารถเกิดเสียกระทันหัน และจะส่งรถคันอื่นออกไปรับแทน เนื่องจากดูท่าว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมนานกว่าที่คิด ยังไม่ทันจะได้ข้อสรุปผู้ใหญ่บ้านก็เชิญชวนด้วยอัธยาศัยว่าทำไมไม่อยู่ค้างคืนซะที่นี่เลยล่ะ เนื่องจากหมู่บ้านชุมชนแห่งนี้อยู่ห่างจากโรงแรมกว่า 30 ก.ม. อีกทั้งคืนนี้จะมีงานสังสรรค์กันภายในชุมชน เพื่อนๆฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนุก จึงตัดสินใจค้างกันที่นี่คืนนึง โดยนัดให้โรงแรมมารับในเช้าวันรุ่งขึ้นแทน

คืนนั้นคณะนักศึกษาอยู่กินเลี้ยงกับชาวบ้านกันบริเวณลานหน้าบ้านผู้ใหญ่ กระทั่งตกดึกต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน โดยที่คืนนั้นจิราและเพื่อนๆได้ภรรยาผู้ใหญ่เป็นธุระจัดห้องหับให้นอนรวมกันที่บ้านหลังหนึ่งใกล้กับเรือนผู้ใหญ่ กลางคืนที่นี่เงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงหายใจชัดเจน อย่างไรก็ตามก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น จิราได้ยินเสียงบางอย่างกระทบกันดังตุบๆๆเป็นจังหวะช้าๆ ราวกับมีคนใช้ค้อนทุบกับผนังหรือพื้นอะไรสักอย่าง เสียงนั่นยังคงดังต่อไป และดูเหมือนต้นกำเนิดเสียงจะอยู่ห่างออกไป จิราไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรหากจะมีเสียงใครลุกขึ้นมาทำงานกลางดึก ในหมู่บ้านของช่างฝีมือเช่นที่นี่ จึงคล้อยหลับไป จนมาตื่นอีกทีเพราะอยากเข้าห้องน้ำ แต่ครั้นจะไปเข้าคนเดียวก็เกิดนึกกลัวขึ้นมา เนื่องจากห้องน้ำแยกอยู่ข้างนอกตัวบ้าน เลยปลุกนุชที่นอนอยู่ใกล้ๆลุกออกไปเป็นเพื่อน ด้านนอกทั้งมืดและเย็นเยียบ แต่สิ่งที่ปลุกเร้าสัมผัสของทั้งคู่กลับเป็นเสียงตุบๆๆ ที่ยังคงดังอยู่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่

ถึงแม้จะสงสัยอยู่ในที แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทักขึ้นหรือถามออกไป ความอยากรู้อยากเห็นบางทีก็นำมาซึ่งเรื่องยุ่งยาก กระทั่งพบว่าทางไปห้องน้ำต้องผ่าน “ห้องสนิม” ที่ทั้งคู่เห็นเมื่อกลางวัน พอมาดูอีกทีในตอนกลางคืนเช่นนี้ มันดูน่าสยดสยองกว่าเดิมมาก ตู้เหล็กผุกร่อนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ที่ปกคลุมไปด้วยคราบสนิมหนาเตอะจนเหมือนถูกสาดไปด้วยสีชาดของโลหิต จนอดคิดไม่ได้ว่ามันดูไม่น่ามองเอาเสียเลย ทำไมเขาถึงไม่หาอะไรมาคลุมมาปิดมันหรือจะรื้อแล้วลงทุนทำให้มันดูดีเป็นกิจลักษณะกว่านี้ 

หังกลับจากเสร็จธุระห้องน้ำ ขากลับทั้งคู่เดินผ่านห้องสนิมอีก แต่คราวนี้ทั้งคู่กลับสังเกตเห็นรอยอะไรบางอย่างที่ผิวผนังของกล่องเหล็ก พอจ้องมองดูดีๆก็เกือบจะลืมหายใจ เพราะรอยที่บ่ามันดูราวกับเป็น “ใบหน้ามนุษย์” ที่ใหญ่โตกว่าปกติเป็นเท่าตัว ปูดโปนยื่นออกมาอย่างกับดูหนังผีสามมิติ ใบหน้านั้นดูเหมือนกับรวมเป็นแผ่นเดียวกับผนังสนิมสีชาด อ้าปากหวอแล้วส่ายไปส่ายมาเหมือนกับอะไรบางอย่างด้านในตู้พยายามที่จะทะลุออกมา ภาพที่ไม่น่าเป็นไปได้ตรงหน้าทำเอาสองสาวนักศึกษาได้แต่ยืนอึ้งงัน แม้แต่นิ้วก็ไม่อาจกระดิกกระเดี้ยวตามใจคิดได้ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่แทบล้มทั้งยืน คือการปรากฏตัวโดยไม่คาดคิดของ “เมืองมน” ชายวิกลจริตที่ดูจะผูกพันกับตู้เหล็กพิศดารนี่ โผล่ออกมาจากในตู้ เขาเดินหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีราวเสียสติ ก่อนที่จะเดินหายลับไปในความมืดบนถนนยามค่ำคืน จิราส่งเสียงกรีดร้องสุดแรง แต่มันดังอยู่แต่เพียงในลำคอของเธอ ก่อนที่จะหันมาเจอนุชที่ตอนนี้นอนสลบล้มพับขาแข้งอ่อนจนลงไปกองกับพื้น

ความพยายามครั้งถัดมาของจิราสำฤทธิ์ผล เสียงร้องของเธอดังไปทั่วทุกซอกในหมู่บ้านแห่งนั้น จนชาวบ้านต่างแตกตื่นลุกขึ้นมาดูเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน อย่างไรก็ตามนุชถูกหามตัวเข้าไปปฐมพยาบาล ส่วนจิรายังช็อคจนตัวสั่นไม่อาจให้การณ์อะไรได้ กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก นุชรู้สึกตัวและกำลังพักผ่อน จิราก็ถูกถามถึงต้นสายปลายเหตุจึงเล่าทุกอย่างตามที่พบเห็นตามลำดับ หลังเล่าเรื่องประหลาดสุดสะพรึงจบ ปรากฎว่าเป็นฝ่ายผู้ใหญ่และชาวบ้านที่ดูจะออกอาการมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่..มีบางเรื่องที่เราไม่รู้ จิรานึกคำอธิบายออกได้เพียงเท่านี้ กระทั่งเจ้าบ้านช่างเหล็กก็พูดแทรกขึ้นมาทำลายความเงียบว่า 

 “จะอะไรซะอี๊กกก ก็ไอ้เมืองมนมันเลี้ยงผีน่ะสิ พอมันถูกหักอกจากนังโนรี ก็เล่นของทำคุณไสย คงนึกว่าจะทำให้นังโนรีกลับมารักกลับมาชอบมันได้ล่ะมั้ง แต่สุดท้ายของเข้าตัว จนเสียสติไปแล้วไงล่ะ!”

จิราฟังแล้วรู้สึกตำหนิลุงบ้านตีเหล็กอยู่ในที นี่เป็นเรื่องหน้าเศร้าเกินกว่าที่จะพูดล้อเลียนด้วยน้ำเสียงดูแคลนมนุษย์กันแบบนั้น มันไม่ชวนขำเลยสักนิด แต่ลุงแกยังพูดต่อไปอย่างสนุกปาก 

“เขาเอาของกินดีๆให้ก็ไม่เอา แต่กลับชอบเอาหนูกบไปนั่งกินในห้องสนิมเขลอะนั่น แปลกคนมั้ยล่ะ”

กระทั่งผู้ใหญ่ส่งสายตาตำหนิมา ลุงแกถึงได้สงบปากสงบคำ บางทีอาจจะกังวลอยู่ในที ว่าตาลุงนี่จะเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมาก็เป็นได้ ก่อนจะออกปากสรุปเหตุการณ์ว่า คงทำอะไรไม่ได้ เพราะจะไปห้ามไปปรามมันตลอดก็ไม่ได้ มันก็เดี๋ยวไปเดี๋ยวมา ไม่เป็นหลักแหล่ง แล้วมันก็มักจะแอบมาทำพิธีคุณไสยมนต์ดำของมันเป็นประจำ ปกติคนแถวนี้ไม่ค่อยไปยุ่งแล้วก็ไม่เคยเจออะไรแบบที่หนูว่า บางทีอาจจะเพราะแปลกที่แปลกถิ่นก็เลยพบเจออะไรแปลกๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่แนะนำให้กลับไปนอนพักผ่อนกัน จะเปิดไฟเอาไว้ทั้งคืนก็ไม่ว่าอะไร เดี๋ยวฟ้าสางแล้วค่อยว่ากันใหม่ จิราและเพื่อนที่เหลือก็ต้องใช้ความพยายามเต็มที่ที่จะหลับ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อสักครู่ มันทำให้เรื่องราวดีๆที่ผ่านมาทั้งวันพลันให้วับไปกับตา กระทั่งเช้าวันถัดมารถจากโรงแรมก็มารับกลับ โดยที่ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวในวันนี้จะได้กลายมาเป็นเรื่องเล่าผีสุดสยองที่ถูกเล่าผ่านรายการชื่อดังในอีก 30 …

Admin

16/02/2018

กระทู้มหากาพย์…จากคนสู่ ‘เปรต’

จากเรื่อง : เล่าประสบการณ์…ภรรยาเก่าผมตาย และเธอไปเกิดเป็นเปรต
เรื่องเล่าจาก : เรื่องเล่าสยองขวัญ พันทิป
เล่าโดย : สมาชิกหมายเลข 4020977

สวัสดีครับทุกท่าน กระผมชื่อบุญส่ง (นามสมมุติ) อายุอยู่ในวัยพอสมควร ผมใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นานว่าควรจะแบ่งปันเรื่องราวของผมดีหรือไม่ เหตุผล เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับโซเชียลมากนัก ด้วยเป็นคนสมถะ ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครเกินความจำเป็น

แต่พระอาจารย์ ผู้มีเมตตา และกรุณาช่วยเหลือผม ท่านแนะนำว่า ผมคือผู้มีประสบการณ์ตรง เหมือนพระพุทธองค์ท่านตรัสรู้แล้วออกประกาศสิ่งที่พระพุทธองค์รู้ ให้ผู้อื่นได้รู้ด้วย จึงจะเกิดกุศล ผมเองก็ควรจะออกไปประกาศสิ่งที่พบ ให้ผู้อื่นได้รู้เช่นเห็นจริงดังที่ผมได้เจอมา

ผมถามพระอาจารย์ว่า มันจะดีจริงๆหรือครับ เพราะเรื่องพวกนี้ ทุกวันนี้ มันกลายเป็นหนัง เป็นความงมงาย เป็นเรื่องตลกขบขันไปหมดแล้ว หากผมนำออกไปเล่า คงจะมีคนพากันเหน็บแนม ดูถูกให้ผมเคืองใจเป็นแน่

พระอาจารย์ตอบผม บัวยังมี4เหล่า เต่ายังมี4ขา ปลาหรือก็มีหลายชนิด มนุษย์ล้วนเป็นไปตามกรรม หากเขาฟังเธอ แล้วติเตียนเหน็บแนมเธอ ก็ขอให้คิดเสียว่า นั่นคือกรรมของเขาเอง

แต่หากมีผู้ฟังสิ่งที่เธอเล่า แล้วประพฤติตาม นั่นคือผู้มีบุญ เธอเล่าไป1000คนมีคนเชื่อเธอแล้วเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เกรงกลัวต่อบาปเพียง1คน นั่นคือกุศลต่อตัวเธอแล้ว

เมื่อได้ฟังคำตอบดังนี้แล้ว ผมจึงตั้งใจมาถ่ายทอดเรื่องราว ชีวิตของผมเอง ให้ท่านได้พิจารณาตามแต่เวรและกรรมของตัวท่านเอง

ว่าจะมองไปในทิศทางไหน เรื่องที่จะเล่านี้ ผมไม่ได้แต่งเติมเสริมความแต่ประการใด เป็นการพยายามเรียบเรียงจากความทรงจำ

ผมไม่ใช่นักเล่า นักพูดมืออาชีพ เป็นเพียงผู้ปฏิบัติธรรมขั้นต้น ที่มาเล่าสู่ท่านฟังท่านอ่านเท่านั้น ขออย่าได้กล่าววาจาว่าร้ายต่อกัน

แต่เพราะเรื่องราวนี้ มีผู้เกี่ยวข้องโดยตรงคือ อดีตภรรยาของผมและเธอก็เป็นแม่ของลูกสาวผม ผมไม่ได้ต้องการมาประจานเธอ

ผมจึงขอใช้นามแฝง และไม่เจาะจงลงไปให้แคบมากเกินไป เพราะนั่นไม่ใช่ใจความสำคัญที่ต้องการจะสื่อให้ทราบ

ผมเป็นคนบ้านนอกครับ เป็นคนกระบี่ ผมมีพี่น้อง6คน พ่อแม่ผมค่อนข้างมีฐานะ เพราะมีสวนปาล์มหลัก100ไร่

ผมเป็นลูกคนสุดท้อง เลยได้มีโอกาสเรียนสูงกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ผมเรียนจบ ปริญญาตรี ซึ่งในยุคนั้นคนจบ ป.ตรี ถือว่ามีความเก่งและได้รับการเยินยอ ยอมรับจากชาวบ้านค่อนข้างสูง ผมมาเรียนที่กรุงเทพ ก็ยังติดใจสังคมเมือง เลยบอกครอบครัวไปว่า ผมจะขอหางานทำอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ได้ไม่ดี ค่อยกลับใต้ ไปช่วยครอบครัวบริหารงานสวนปาล์ม พ่อแม่ผมก็ตามใจ ช่วงนั้นผมไปได้งานที่ชลบุรี ในปี42

ผมทำงานที่นั่นได้2ปี กลางๆปี44 ผมไปสะดุดตาสาวโรงงานคนหนึ่งเข้า เธอเป็นคนผิวขาว รูปร่างหน้าตาดี ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบในร้านข้าวแกง ที่ผมไปนั่งกินเป็นครั้งแรก เพราะร้านนั้นชาวโรงงานจะนิยมมากินกัน และยูนิฟอร์มเธอก็บ่งบอกให้รู้

ผมเองตอนนั้นก็เป็นหนุ่มแน่น ตั้งใจเรียนจนได้งานทำ ก็ไม่เคยมีแฟน ถึงจะเคยชอบๆสาวกรุงเทพบ้าง แต่ก็ไม่เคยไปสานสัมพันธ์กับใคร ผมไม่กล้าเข้าไปทัก ได้แต่แอบมอง เพราะเธอนั่งกับเพื่อนเธอหันหน้ามาทางผม

บ่อยครั้งที่เผลอสบตา ผมก็จะหลบไปมองอย่างอื่นทุกครั้ง ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็จะไปนั่งกินข้าวที่ร้านนั้นทุกวัน ผมทำแบบนั้นอยู่ประมาณ1เดือน ผมไม่เคยเห็นว่าเธอจะเดินควงผู้ชายสักครั้ง

ผมจึงมั่นใจว่าเธอน่าจะยังไม่มีคู่ครอง เลยเริ่มที่จะถามคุณป้าเจ้าของร้านข้าวแกงเกี่ยวกับเธอคนนั้น คุณป้าก็บอกข้อมูลผมเท่าที่คุณป้าทราบว่า

อ๋อ นั่นหรอ ชื่อ มาลัย (นามสมมุติ) คนอุบล เป็นคนงานโรงงานนี้แหละ ลูกผัวไม่มีหรอก ทำไม สนใจหรือ

ผมบอกคุณป้าไปตามตรงว่า ที่ผมมานั่งกินข้าวร้านนี้ทุกวัน เพราะชอบสาวคนนั้น คุณป้าก็หัวเราะ แล้วยิ้มคุยกับผมด้วยความเป็นกันเอง

คุณป้าบอกผมว่า รักชอบ ก็เข้าไปคุยดูสิ ไม่ลองจีบ แล้วจะมีเมียได้ยังไง

วันรุ่งขึ้น ผมจึงรวบรวมความกล้า เข้าไปพูดจาปราศรัยกับเธอ ด้วยคำว่า …สวัสดีครับ ผมชื่อบุญส่ง มันคงจะดูแปลกๆที่ผมเข้ามาคุยกับคุณ เพราะเราไม่รู้จักกัน

แต่ผมอยากบอกกับคุณว่า ผมจะขอรู้จักกับคุณจะเป็นการรบกวนไหม ถ้าคุณจะไม่ถูกใจและปฏิเสธผมก็จะไม่รบกวนคุณ แต่ผมอยากบอกว่า ที่ผมมานั่งกินข้าวร้านนี้ทุกวัน เพียงเพราะผมอยากเห็นหน้าคุณ

เธอมองผมเหวอๆ และหันไปทำท่าเขินๆกับเพื่อนของเธอ ที่นั่งอยู่2คน เธอคุยกันเป็นภาษาอีสาน ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก

เพื่อนเธอคนหนึ่งถามผมว่า …ชอบมาลัยหรือ….ผมบอก (ใช่ครับ) พวกเธอเชิญผมนั่งข้างๆมาลัย ผมยิ้มให้มาลัย มาลัยเขินม้วน เอามือปิดปาก

แล้วยิ้มหัว พูดอะไรไม่ออก เมื่อยามที่เพื่อนของเธอยิงคำถามและคำแซวใส่ผมแทนมาลัย เพราะการแต่งตัวของผมนั้น เห็นได้ชัดว่า

ทำงานมีตำแหน่ง ไม่ใช่ระดับแรงงาน การเริ่มต้นครั้งนั้น จบลงที่เพื่อนของมาลัย เป็นคนชวนพูดและยุยงเสียส่วนใหญ่

เพราะมาลัยเหมือนจะเอาแต่เขินจนพูดไม่ออก คงจะไม่ชิน เพราะผมเป็นคนที่พูดจาสุภาพ ในขณะที่มาลัยจะเป็นคนพูดเล่นแก่นนิดๆเมื่อเจรจากับเพื่อนของเธอ

เธอไม่มีโทรศัพท์ ผมจึงจะสามารถคุยกับเธอได้ ผ่านการไปพบเจอที่ร้านข้าวแกงร้านนั้น หรือหากอยากจะเจรจายาวๆ

ผมก็จะเขียนจดหมาย พร้อมการ์ดสวยๆ ไปให้เธอ เพื่อที่ผมจะพรรณนาความรู้สึกทั้งหมดให้เธอได้รู้ แล้วเธอก็ตอบสนองผมด้วยการ

เขียนจดหมายคุยกลับมาเช่นกัน ผมคุยกับเธออยู่แบบนั้นเรื่อยมา ผมเรียนรู้และศึกษาเธอทั้งข้อมูลส่วนตัว อุปนิสัยใจคอ

เธอเรียนมาแค่ ม.3 และทางบ้านมีฐานะไม่ดี เธอเคยมีสามีผูกข้อไม้ข้อมือกันมาตั้งแต่อายุ16 พออายุได้20 สามีเธอคนนั้น ก็เลิกกับเธอไป

ทำให้เธอตัดสินใจมาทำงานโรงงานกับเพื่อนที่ชลบุรีจนถึงตอนนี้ มีคนมาจีบมาลัยเยอะ เพราะมาลัยเป็นคนขาว สวย รูปร่างดี ตามฉบับสาวงามเมืองอุบล

หลังเทศกาลปีใหม่ ปี45 ผมกลับมาทำงาน ผมไปรอเจอมาลัยที่ร้านข้าว ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน แต่ผมไม่เจอมาลัย ผมเจอแต่เพื่อนของเธอ ผมทุกข์ใจเพราะเธอไม่มีโทรศัพท์ จะโทรถามก็ไม่ได้ เลยไปถามเพื่อนเธอ ว่ามาลัยหายไปไหน เพื่อนเธอบอกว่า มาลัยย้ายที่ทำงานแล้ว

เพราะทางบ้านมาลัยมีหนี้ก้อนใหญ่ งานโรงงานได้เงินน้อย เธอเลยไปพัทยา จะไปทำงานที่นั่น ผมตกใจเมื่อรู้ว่ามาลัยจะไปทำงานที่พัทยา

คนรูปร่างหน้าตาดี แต่เรียนมาน้อยอย่างมาลัยจะไปทำงานอะไรได้ ให้ได้เงินมากๆ ผมลางานในวันรุ่งขึ้น และจ้างเพื่อนของมาลัยให้พาผมไปหามาลัย ด้วยเงิน1000บาท เพื่อนของมาลัยก็พาผมไปหามาลัยที่พัทยา เป็นร้านนวด

ผมขอเจอมาลัย เจ้าของร้านก็ให้เจอ มาลัยตกใจ แล้วบอกผมว่าจะมาทำไม ผมบอกกับเธอว่าผมรักเธอ และอยากจะรับเธอไปอยู่ด้วยกัน เธอจะได้ไม่ต้องมาทำงานในที่แบบนี้ มันดูไม่ดีนักหรอก ส่วนเรื่องแต่งนั้น ผมจะเข้าไปคุยกับทางบ้านของเธอเองที่อุบล

เธอดูลังเล เธอบอกว่าเธอต้องทำงานเพื่อหาเงินช่วยครอบครัวไปใช้หนี้เขา เธอคงไปอยู่กับผมไม่ได้หรอก ผมถามเธอว่าเท่าไหร่กัน

เธอบอกผมว่า (2แสน) ผมเองตกใจมาก เพราะเงิน2แสน ยุคนั้น มันไม่น้อยเลย ผมเองก็ทำงานมา มีเงินเก็บไม่ถึงแสนเลย

แต่ผมก็บอกเธอไปว่า เดี๋ยวผมจะหาทางช่วยมาลัยเอง ขอแค่มาลัยเลิกทำงานนี้ แล้วไปอยู่เป็นเมียผมที่ห้องเช่า

มาลัยจะทำงานโรงงานตามเดิม หรือทำงานอื่นก็ได้ ส่วนหนี้นั้นผมจะพยายามช่วยเหลือเอง

มาลัยมีความลังเล เหมือนเธอใช้ความคิดอย่างหนัก แต่เพื่อนเธอที่ไปด้วย ก็ช่วยพูด จนมาลัยยอมลาออก และมาอยู่กับผมในฐานะเมีย

ผมโทรไปบอกกับแม่เรื่องผมมีเมียแล้ว แม่ผมก็แสดงอาการไม่พอใจอยู่มาก เมื่อรู้ปูมหลังของเมียคนแรกผม เหมือนจะบอกว่า แม่มองหาสาวแถวบ้านที่เหมาะสมไว้ให้แล้ว อย่าเอาเลยคนนั้น

แต่เมื่อผมบอกไปว่า ผมกับมาลัยได้เสียกันแล้ว และมาลัยก็ท้องกับผมแล้ว แม่จะให้ผมทิ้งเธอกับลูกของผมหรือ แม่ผมเป็นคนธรรมมะธรรมโม เมื่อรู้แบบนั้น แม่ก็ เออๆ แล้วแต่ผมแล้วกัน ผมเลยถือโอกาสขอยืมเงินแม่

1แสน5หมื่นบาท เมื่อตอนพาเมียลงมาไหว้แม่ ในช่วงสงกรานต์ แม่ผมไม่ขัดข้อง เพราะผมยืนยันว่าผมจำเป็นต้องใช้เงิน

แล้วจะคืนให้แม่ทุกบาท และการเจอกับญาติๆของผมในครั้งนั้น แรกๆก็ดูอึมครึมอยู่บ้าง แต่เพราะมาลัยเป็นคนที่เข้ากับคนได้ค่อนข้างดี สมัยนี้คงใช้คำว่า (เฟรนลี่) น่าจะได้ ทำให้ญาติๆผมรู้สึกชอบมาลัยในที่สุด…

Admin

15/02/2018

เรื่องผี The Shock | รวม 6 เรื่องเดอะช็อคแบบอ่าน

เมื่อการฟังรายการยอดนิยมอย่าง เรื่องผี the shock กลายเป็นความคลาสสิคอย่างนึงคู่สังคมไทย รายการที่มีแฟนคลับติดตามกันเหนียวแน่นมาตลอดหลายสิบปี ใครจะรู้ว่า…มีบางคนเหมือนกันที่ “กลัวที่จะฟัง ไม่กล้าที่จะดูคนเดียว” นั่นเพราะเดอะช็อคมีความตื่นเต้นตรงที่เป็นรายการสดที่นำผู้ประสบเหตุการมาเล่าเรื่องผีกันแบบช็อคคนดูอยู่บ่อยๆ และนี่คือทางเลือกสำหรับปัญหานั้น นี่คือ เดอะช็อค แบบอ่าน 6 เรื่องเล่าสยองสุดสะพรึงจาก THE SHOCK FM 8 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณขวัญ น้ำมันพราย

6 เรื่องผี the shock ที่ชวนคุณทั้งอ่านและฟังไปด้วยกัน

เรื่องผี เดอะช็อค | เสื้อวัด

เรื่องราวของคุณมีนในวันนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาที่ทางภาคเหนือ ตุณมีนให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “เสื้อวัด”

คือเรื่องผี the shock เรื่องนี้มันมีมีอยู่ว่า…คุณมีนเล่าว่าเป็นเรื่องราวสมัยยังเป็นวัยรุ่น มีอยู่คืนนึงเพื่อนชวนออกไป “หาผู้ชาย” ซึ่งตัวคุณมีนนั้นแค่ไปเป็นเพื่อนเท่านั้น

โดยไปกันทั้งหมด 4 สาวรวมตัวคุณมีน ด้วยมอ’ไซค์ 2 คัน

ตอนนั้นเป็นเวลาราว 3 ทุ่มแล้ว ก็พากันไปทางทางขึ้นดอยสุเทพ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตีนดอย” ซึ่งสร้างความสงสัยกับคุณมีนมากกก นางก็งงว่ามาทำไรกันแถวนี้ เพราะถัดจากครูบาศรีวิชัยไปอีก ก็จะมีแต่ป่าเท่านั้น

จนกระทั่งขี่มาเจอวัดวัดหนึ่ง ก็จอดที่วัดนั้น  คิดว่าคงนัดกับเพื่อนชายซึ่งอาจจะมากินเหล้าอะไรกันในที่แบบนี้ล่ะมั้ง ขณะที่รออยู่หน้าบันไดทางขึ้นวัด คุณมีนก็เหลือบไปเห็นลุงคนนึงอยู่แถวนั้นใส่เสื้อม้อฮ่อมของทางเหนือ ใจคอก็ไม่สู้ดีว่านั่นใคร

คุณมีนยังไม่ทันหายสงสัยว่ามาหาใคร สักครู่มีสามเณรเดินมา 3 รูป เรื่องราวมาเฉลยจากปากเพื่อนผู้หญิง 2 คนว่า…

“ก็นี่แหละ…กรูมาหาเณร”

เล่นเอาตะลึงกันเลยทีเดียว ระหว่างนั้นทั้งหมดก็นั่งอยูที่บันไดทางขึ้นวัด คุยกันได้สักพัก คุณมีนกับเพื่อนหญิงอีกคนนึงที่มาเป็นเพื่อนเช่นกัน ก็เดินออกมาจากตรงนั้น เนื่องจากไม่อยากรับรู้กับเรื่องราวอาบัติที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคุณมีนก็ไม่ทรบได้ว่าระหว่างนั้น..2 หญิง 3 เณร จะทำอะไรกันมากไปกว่าคุยหรือไม่ ซึ่งใครที่ได้ฟังเรื่องผี the shock ในวันนั้น คงรู้สึกได้ถึงความดำมืดที่จะตามมาในเหตุการณ์นี้

ส่วนคุณมีนก็เดินห่างออกมาอีกจนไปเจอลุงคนที่เห็นเมื่อสักครู่เข้า… ลุงถามว่า

“หนู เป็นผู้หญิงยิงเรือ มาทำอะไรกันดึกๆแบบนี้ แล้วนี่ก็เป็นวัดนะ”

คุณมีนก็ได้แต่บอกไปว่า…

“หนูมาเป็นเพื่อนเขาเฉยๆ ใจจริงหนูอยากกลับแล้วลุง”

“ลุงช่วยไปบอกเพื่อนหนูทางนู้นทีได้ไหม” … ในใจคุณมีน หวังให้ลุงช่วยไปเอ็ด แต่สิ่งที่ลุงพูดกลับมาคือ..

“กรรมใคร ก็กรรมมัน”!!?

ออกจะเป็นคำพูดที่มีความนัยอยู่…ขณะนั้นเพื่อนคุณมีนอีกคนมาตามบอกว่าเขาจะขึ้นไปบนวัดกันแล้ว จังหวะนั้นคุณมีนหันกลับไปดู ก็ไม่พบลุงคนเมื่อกี้ ราวกับแกหายไปในอากาศซะเฉยๆ

หลังจากคุณมีนต้องตามน้ำขึ้นมาบนวัด เพราะรถมอ’ไซค์ไม่ใช่ของตนเอง คุณมีนบอกเพื่อนแล้วว่า “กลับเถอะ ฉันว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยดีแล้ว” แต่เพื่อนก็ยังรั้นว่า “ไม่มีอะไรหรอก”

เพื่อนของคุณมีน 2 คน นั่งคุยกับเณรอยู่หลังกุฏิ ส่วนคุณมีนกับเพื่อนอีกคนก็รออยู่ด้านหน้า… สักพัก เพื่อน 2 คนก็ออกมาแจ้งข่าวเซอร์ไพรส์ว่า..

“คืนนี้กรูจะนอนกุฏินี่นะ” !!!

คุณมีนก็ได้แต่ทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังเพื่อนทั้งคู่เข้าไปนอนกันสักพักใหญ่ ก็มีเสียงของเพื่อนดังออกมาจากในกุฏิ!

เพื่อนออกมา บอกว่า..เห็นผู้ชาย ผู้หญิงเดินไปมาอยู่นอกหน้าต่างจนนอนไม่ได้ สักพักนอนๆอยู่ก็ถูกดึงขา!

ตอนนั้นคุณมีนบอกว่าใจไม่ดีมาก เลยชวนเพื่อนอีกคนที่รออยู่ไปไหว้ขอขมาศาลในวัด ที่คนเหนือจะเรียกกันว่า “เสื้อวัด”

“หนูไม่ได้ตั้งใจมาทำอะไรไม่ดีเลย หนูแค่มาเป็นเพื่อน และหนูไม่สามารถจะทำอะไรได้จริงๆ หนูขอโทษด้วย”

จนกระทั่งราวตี 2 เพื่อนทั้งคู่ก็ออกมาบอกว่าจะกลับแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร มารู้ตอนหลังว่าเจอหลอกจนนอนไม่ได้เลยกลับ

เช้าวันต่อมา ปรากฎว่าเพื่อนทั้ง 2 คนนั้นกลายเป็นคนสติหลุด ไม่มีสติสัมปัชชัญญะ อย่างกับคนบ้า!

พ่อแม่ของทั้งคู่ก็ได้มาถามทางคุณมีนว่า ไปทำอะไรกันมารึเปล่า… แต่ด้วยเรื่องราวที่มันเป็น untold story ไม่สามารถเล่าได้จริงๆ คุณมีนเลยเลี่ยงไปว่า

“ไม่ได้ไปทำอะไรนะคะ แค่ไปเที่ยวแถวคูเมืองเอง เพื่อนไม่สบายรึเปล่า”

ปรากฎว่าเพื่อนไปหาหมอก็แล้ว แต่ก็ไม่หาย จนในที่สุดพาไปหาร่างทรง ทันทีที่ร่างทรงเห็นก็ทักมาคำเดียวว่า…

“พวกเมิงไปทำเรื่องอะไรกันมา เค้าตามกลับมา” … “เตือนแล้วไม่ฟัง รู้มั้ยว่าเค้าจะเอาให้ตาย”

หลังจากนั้นแม่ของเพื่อนก็มาถามมีน ว่าร่างทรงเค้าทักมาแบบนี้..มีนจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

ทันทีที่แม่เค้ารู้เรื่องก็ร้องไห้เสียใจ น้ำตาร่วง จนวันต่อมาต้องพาเพื่อนไปทำพิธีขอขมากับเจ้าที่เจ้าทางที่วัด พร้อมกับสามเณรอีก 3 รูป

ร่างทรงก็ไปด้วยกัน ก็ทำพิธีขอขมา ทำพิธีเสียผี ส่วนสามเณรก็ต้องถูกจับสึก หลังจากทำเสร็จแล้ว…ร่างทรงก็บอกว่า

“กรูไม่ยอม มันมากเกินไป กรูจะเอาให้ตาย!” ราวกับว่ามีบางอย่างสื่อสารผ่านร่างทรง

ตอนนั้นทุกคนต่างกลัวหมด จนร่างทรงบอกว่ามีอยู่วิธีเดียวที่จะแก้ได้คือ..”บวชชี”

คนพ่อคนแม่ก็พยายามเจรจาว่า…เออนี่ จะให้ไปบวชชีก็ได้ ยอมทำตาม แต่ขอให้ลูกกลับมามีสติ พูดรู้เรื่องก่อนได้มั้ย ขืนเป็นแบบนี้คงจะไปบวชไม่ได้

ร่างทรงก็ตอบกลับมาว่า…ให้ไปบวชเถอะ เดี๋ยวจะดีเอง

หลังจากนั้นทางครอบครัวก็พาเพื่อนไปบวชอยู่ 1 เดือน ระหว่างที่บวชก็เจอผีหลอกทุกกกกวัน แต่ก็ผ่านมาได้ จนครบเวลาแล้วก็กลับมามีสติเหมือนดังเดิม…

เรื่องผี the shock เรื่องนี้เป็นสติสอนใจได้ดีเลยว่า…”อะไรควร และไม่ควร” ต้องรู้จักกาละ และเทศะให้มาก

เรื่องผี เดอะช็อค | เฮี้ยนแบบนี้ ต้องปราบ

เรื่องราวที่คุณนุประสพพบเจอกับตัวเองมา ในสถานศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา คุณนุให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “เฮี้ยนแบบนี้ ต้องโดนปราบ”

ขอท้าวความไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ที่สถานศึกษานี้ ที่แห่งนี้อยู่ในจ. ยโสธร ศึกจะพบเจอกับเหตุการณ์ความ “เฮี้ยน” กันมาต่อเนื่อง

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่เคยลืมคือ จะมีน้องผู้หญิงคนนึงที่ถูกสัมภเวสีเข้าสิงเป็นประจำ เธอมักจะกรี๊ดร้องขณะเข้าแถวในตอนกลางวันแสกๆ

บ้างก็วิ่งกระโดลงในสระน้ำของสถานศึกษา บ้างก็ลุกขึ้นด่าอ.ที่มาใหม่ว่า…

“เมิงมาใหม่ ทำไมไม่บอกไม่กล่าวกรู”

จนก็พยายามหาทางช่วยกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรมน้ำมนต์ สวดมนต์ หรือเอาพระมาใส่

หลังจากนั้นผมก็จบจากสถานศึกษาแห่งนี้ไปเรียนต่อ 2 ปี ก่อนจะกลับมาเป็นครูอัตราจ้างที่สถานศึกษาแห่งนี้อีกครั้ง…

ตอนมาผมก็ลืมๆเรื่องนั้นไปบ้าง มาถึงก็ไม่ได้ไหว้หรือจุดธูปอะไร… ผมมาสอนวันแรกก็เจอเลยครับ ที่ห้องพักครูด้านหลังจะเป็นห้องน้ำ ขณะผมเข้าห้องน้ำ…จู่ก็มีน้ำล้น ไหลออกมาจากห้องข้างๆจนนองพื้น

บนน้ำที่กระเพื่อมอยู่นั้น ผมเห็นเป็น “เงาคน” ยืนอยู่ที่นั่น ออกมาจากห้องน้ำ ผมก็สังเกตเห็นได้ว่าห้องข้างๆประตูปิดอยู่ บางทีอาจจะมีคนเข้า ผมคิดเช่นนั้น

จนผ่านไปอีกวัน ผมก็ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ คือเห็นเหมือนมีคนใช้ห้องน้ำข้างๆ และยืนหันหน้ามาทางนี้

วันต่อมาผมจึงถามภารโรงว่า…

“นี่ลุง ทำไมห้องน้ำด้านหลัง มีคนใช้แล้วไม่ปิดน้ำล่ะ”

สิ่งที่ลุงพูดกลับมาคือ… “เป็นไปไม่ได้ ห้องน้ำด้านหลังนั่นไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน เพราะมันเสียรวมทั้งประตูด้วย ยังไม่ได้เบิกงบซ่อมเลย”

สร้างความขนลุกให้ผมเป็นอย่างยิ่ง คืนนั้นผมนั่งทำงานล่วงเวลาจนราว 2 ทุ่ม… ขณะผมจะกลับ ปิดจอคอมเรียบร้อย จู่ๆก็มีเงาคนปรากฎขึ้นสะท้อนบนหน้าจอคอม! ผมตกใจหันหลังไปดูก็ไม่มีอะไร มีเพียงผ้าม่านกระจกหลังโต๊ะทำงาน จากนั้นผมก็ปิดไฟห้องทำงาน ออกมาล็อคประตูกระจกจากด้านนอก

จู่ๆท่ามกลางความมืด…จอคอมเครื่องผม ก็ดันสว่างวาบขึ้นมาซะงั้น ที่น่าตกใจกว่าคือ มันเผยให้เห็น “เงาคน” บางคนที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านนั่น!!

ผมรีบวิ่งกลับไปที่บ้านพักทันที จู่ๆก็ได้กลิ่นเน่าๆทันที พยายามเดินหาแหล่งที่มากลิ่นอยู่นานก็ไม่เจอ จนนอนไปทั้งแบบนั้น สักพักนึงก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก …

Admin

08/02/2018

อ่านเรื่องผี | วิศวกรเจอผีตอนคุมงานใน “ห้างดัง..ใจกลางกทม.”

เคยอ่านเรื่องผีเรื่องนี้รึยัง? เรื่องเล่าผีจากรายการวิทยุชื่อดัง ประสบการณ์โดยตรงของ “คุณภาคิณ” วิศวกรหนุ่มที่มักจะต้องเดินทางไปที่ต่างๆเพื่อคุมงานสร้าง และต้องเจอกับเรื่องราวชวนขนลุก และเรื่องราวในครั้งนี้ผ่านมาเพียง 2 ปีเท่านั้น เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ภาคิณไปคุมงานสร้างอะไรบางอย่างให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร ท๊ซึ่งเอ่ยชื่อไปจะต้องรู้จักทุกคน กับประสบการณ์สยองที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอในที่ๆมีผู้คนพลุกผล่าน โดยให้ชื่อเรื่องว่า “ครั้งเดียวไม่เคยพอ

อ่านเรื่องผี ประสบการณ์ทำงานที่เจอผีคืนแล้วคืนเล่า…ในห้างดังกลางกรุง

เรื่องเล่าผีเรื่องนี้มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อกุมภาพันธ์ปี 2559 ผมได้รับคำสั่งให้ไปเริ่มโครงการสร้างแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุงเทพ พูดเลยว่าแลนด์มาร์คแห่งนี้..หากบอกโลเคชั่นไปนี่ รู้จักกันทุกคนแน่นอน โดยเจ้าของงานก็จะเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งชื่อดังมากๆ เนื่องจากว่าสิ่งที่กำลังจะสร้างเนี่ยอยู่กลางถนน เจ้านายผมต้องการให้มีออฟฟิศสำหรับสายงานก่อสร้าง ก็เลยได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าของงานว่า เค้ามีอาคารจอดรถอยู่ในพื้นที่ห้างของเค้าเป็นตึก 10 ชั้น โดยผมก็เข้าไปติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ผมก็เอาแผนงานไปแจ้งเค้าว่า..จะทำงาน 4 วันไม่เกิน 5 วัน ต่อสัปดาห์

โดยอาคารนี้เป็นอาคารสาฐารณะ ซึ่งเค้าจะอนุญาตให้ใช้ทำออฟฟิศได้ตั้งแต่ชั้นที่ 8 เป็นต้นไป ซึ่งเดิมทีจะมีห้างนึงในเครือของเค้าอินโนเวท ก็จะมีบริษัทนึง มีชื่อและใหญ่ เค้าก็จะจองไว้ชั้น 9 ถึงชั้น 10 ทำเป็นพวกสโตร์ ของผมก็จะได้เป็นพื้นที่อีกโซนนึงซึ่งห่างเค้าพอสมควร ข้อที่ 2 เงื่อนไขเค้าคือต้องเริ่มทำงานหลังห้างปิดตั้งแต่ 23.00 และไม่เกิน 4.00น. และจากที่หัวหน้าผมบอกว่าทางผู้ใหญ่เค้าจะให้มีคนของเค้าเฝ้าระวังความปลอดภัยตลอดเวลาทำงาน โดยเวลาที่ผมจะทำงานก็จะโทรแจ้งเค้าล่วงหน้า ข้อสุดท้ายคือห้างเนี้ยนะครับจะมีทางยาวประมาณ 200 เมตร เป็นลิฟต์ 2 ฝั่ง ฝั่งละ 4 ตัว ตอนกลางคืนจะใช้ได้แค่ 2 ตัว ส่วนห้องน้ำเนี่ยไม่มีจะใช้ต้องลงไปข้างล่าง แล้วอย่างที่บอกผมวางแผนไว้ประมาณ 10 วัน วันแรกผมเข้าไปตอนสี่ทุ่มครึ่ง ผมต้องนัดทีมงานจะทำผนังออฟฟิศผมเนี่ยตอนห้าทุ่มครึ่ง ผมก็เข้าไปล่วงหน้า ก็กะว่าจะไปประสานงานล่วงหน้า

วันนั้นตอนผมไปชั้นหนึ่งก็ยังมีคนจอแจอยู่ เพราะ ห้างเพิ่งปิดก็ยังพอมีคนบ้าง จู่ๆก็ได้กินธูปจนมองไปก็เห็นเป็นโต๊ะบูชาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตึก เป็นเหมือนเครื่องเซ่น คือเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่าไปทำงานห้างก็จะเจอเรื่องไหว้เรื่องอะไรแบบนี้ ก็เป็นปกติ จริงๆใจก็คิดบ้างว่าเออจะเจอผีรึเปล่า เพราะขึ้นไป เพราะขึ้นไปชั้นบนก็ปรากฎว่าก็ไม่เห็นใครเลย ตรงนั้นบรรยากาศออกจะสลัวๆเพราะเค้าจะเปิดไฟแบบ 2 ดวงเว้น 1 ดวง ก็เลยกะว่าจะโทรติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่เขาว่ามาถึงแล้ว เค้าก็ถามว่า “ตอนเนี่ยน้องอยู่ไหน” ผมก็บอกไปว่า “ตอนนี้อยู่ชั้น 10 แล้ว” เค้าก็ถามต่อไปว่า “แล้วตอนนี้อยู่กับใคร” ก็บอกว่าอยู่คนเดียวเดี๋ยวทีมงานจะตามมาอีกประมาณ 10 นาที เขาพูดคำเดียวเลยว่า “หูยยยย” แบบตอนแรกก็งงว่าทำไมอะไรยังไง แล้วเค้าก็บอกว่า “เอองั้นเดี๋ยวผมจะรีบตามขึ้นไปแล้วกัน” ก็นั่งรอไปจนกระทั่ง 20 นาทีลูกน้องผมก็ตามมาบางคน ส่วนทีมงานเนี่ยตอนแรกมาก็ตกใจนะ เค้าจะมาด้วยรถกอล์ฟ รถกอล์ฟเนี่ยปกติก็จะนั่งได้ประมาณสองคน แต่นี่กลับมากันห้าคนนะครับ ทีแรกผมก็คุยเรื่องงานไปว่า อ่าอยากได้แบบนี้นะอะไรงี้ แล้วก็พูดแซวเขาว่า “โห เออพี่ไมมากันเยอะจังอ่ะ” เขาพูดมาคำเดียวที่ทำให้ผมจำขึ้นใจได้เลยคือ “มาเยอะๆอ่ะดีแล้ว อุ่นใจดี” จนกระทั่งเริ่มงานวันที่หนึ่งวันที่สองก็ดีนะครับ แต่ที่น่าสงสัยคือไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครอยู่เลย คือแบบห้าทุ่มจนตีสามก็ยังไม่มีใครมาดู ทั้งๆที่แบบทางผู้ใหญ่เค้าเน้นมาว่าจะต้องมีคนคอยอยู่ดูนะ เพราะว่างานก่อสร้างเนี่ยมันก็จะมีแบบมีงานเชื่อมบ้างอะไรบ้าง ซึ่งด้วยความที่มันเป็นอาคารสาธารณะเนี่ย ถ้ามันเกิดเพลิงไหม้ขึ้นอะไรเงี้ยมันก็จะสร้างความเสียหายมาก ตรงนี้เราก็จะเข้าใจกัน

พอเข้าวันที่ 3 แล้วคืองานมันใกล้จะเสร็จแล้ว คือคืนนั้นก็แบบล้า ซึ่งงานเนี่ยมันก็จะเหลือแค่ติดกระจกหน้าต่างอะไรเนี่ย ผมก็เลยกะว่าอ่ะ นอนซักหน่อยหน้าออฟฟิศที่ก่อสร้างนั่นแหละ จู่ๆมันก็รู้สึกตัวครับเหมือนมีคนมาเขย่าขา พอลืมตาขึ้นมาเนี่ยก็เห็นคนงานสามคน แต่มันแปลกอยู่อย่างนึงคือคนงานเนี่ย ใส่หมวกกระต๊อบ เป็นหมวกสานเหมือนคนหาบขายไข่ปิ้ง ซึ่งผมมั่นใจว่าคนงานของทางบริษัทเนี่ยเป็นไปไม่ได้ที่จะใส่แบบนี้ เพราะเป็นมาตรฐานใหม่ที่คนงานจะต้องใส่เสื้อมีแถบสะท้อนแสง หมวกเซฟตี้ คือเค้าแต่งตัวเหมือนเป็นคนงานยุคเก่ารู้สึกตัวตื่นมาก็มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นลูกน้องผมแปดคนที่ติดตั้งประตูหน้าต่างอยู่ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับเค้านะ ก็โทรถามลูกน้องว่าเออ สร้างออฟิศเสร็จแล้วเหรอ แล้วทำไมไม่ปลุกผมเนี่ย ลูกน้องก็ว่าเห็นช่างหลับสบาย ก็เลยถามต่อไปว่า เออ…แล้วทำงานเสร็จแล้วเหรอ เท่าที่ผมดูเนี่ย เหมือนงานมันไม่ค่อยเรียบร้อยนะ เค้าก็บอกโอเคเดี๋ยวไปเก็บงานให้ แต่…เค้าขอร้องว่าขอไปเก็บให้ตอนกลางวันเท่านั้นนะ คือคนงานเนี่ยผมก็จะจ้างผู้รับเหมาภายนอกมาน่ะนะครับ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

พอวันที่ 4 ตอนกลางวันเนี่ย ก็จะเป็นผมกับลูกน้องบริษัทผมละ ที่จะขนโต๊ะสำนักงานอะไรขึ้นไป ผมก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เค้า แต่เค้าก็ไม่ยอมให้ขึ้นมากลางวัน ต้องไปใช้ลิฟต์ขนของซึ่งมันตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ตอนที่ใช้ลิฟท์อยู่เนี่ย ก็มีลุงรปภ.คนนึงเข้ามาดู ผมก็คุยกับแกว่าเนี่ย มีคนงานเจอเหตุการณ์แบบนั่นนี่มา แกก็ว่า อ๋อ ปกติเจอกันบ่อย ก็เป็นคนงานที่เคยสร้างตึกนี้มาแหละ แล้วเสียชีวิต ลุงก็ถามาว่า เจอ 3 คนใช่มั้ย ชาย 2 หญิง 1 คือแกพูดมามันก็แบบเป๊ะๆๆเลย เราก็แบบคิดว่าเออ เห้ย โดนแล้วเหรอวะเนี่ย ทีนี้ก็คิดอีกว่าเออเดี๋ยวเราจะต้องมาทำงานที่นี่แหละใช่มั้ย ก็เลยถามลุงไปเลยว่า ลุงเอาตรงๆเลยนะ ที่เนี่ยมีอะไรอีกบ้าง ลุงแกก็บอก อ่ะหนึ่งเลย ตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นมาเนี่ย ไม่มีใครขึ้นมากันหรอก พนักงาน รปภ. จะมีก็แค่รถกอล์ฟมา แค่เวลาตี 1 และตี 4 เท่านั้น แล้วเวลามาก็คือมาสองคัน คันนึงก็อัดมากันหลายคน แล้วอย่างผมเนี่ย ถ้าไม่มีคำสั่งผมก็ไม่ขึ้นมาเหมือนกัน ผมกลัว อย่างชั้น 8 เนี่ย ก็มีเหตุการณ์เร็วๆมาเนี้ย เป็นผู้หญิงกระโดดตึกดับ เราฟังแล้วก็แบบ เออ ทำไมต้องมาอยู่ตรงนี้ด้วยวะ อย่างที่เคยบอกว่ามีอีกบริษัทนึง อันนั้นเค้าพอตกกลางคืนก็จะไม่มีใครอยู่กันเลย ผมก็เล่าให้ทางหัวหน้าฟัง แกก็บอกไว้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมีทีมงานมาเยอะ

แล้วก็เหมือนเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผมถูกเลือกให้เป็นคนคุมโปรเจกต์ไซต์ ช่วงกลางคืน คนที่มาดูงานกับผมช่วงกลางคืนเนี่ย มีแค่ 6 คนเท่านั้น อันนี้หมายถึงสตาฟนะครับ ส่วนคนงานเค้าก็จะอยู่หน้างานของเขาอยู่ละ

(เจอผี)ครั้งเดียว…ไม่เคยพอ

จนมีอยู่วันนีง ผมน่ะเคลียร์งานกับโฟร์แมนเสร็จก็ตัดสินใจจะขึ้นออฟฟิศกัน ก็กะจะแวะร้านสะดวกซื้อซื้ออะไรไปกินกัน ปรากฎว่าผมเจอผู้หญิงอยู่คนนึง ลูกน้องก็สะกิด ช่างๆผู้หญิงหน้าตาดีมาก โทรศัพท์อยู่ร้องห่มร้องไห้ แล้วเดินไปทางลิฟต์ ด้วยความที่เป็นช่วงเวลาดึกแล้ว 5 ทุ่มเที่ยงคืน ลูกน้องมันก็บอกช่างไปปลอบๆ ประมาณว่าจะไปหยอกไปจีบทำนองนั้น คือผมไปยืนอยู่หน้าลิฟต์ ซึ่งมันขึ้นไปแล้วตัวนึงมันก็ไปหยุดอยู่ที่ชั้น 8 ลูกน้องผมมันก็กดลิฟต์จะตามขึ้นไปเลยชั้น 8 พอออกลิฟต์มาปุ๊บเนี่ย โอ้โห…มืดตึ้บเลยครับ มืดแบบมันไม่น่ามีอะไรเลย ส่วนตัวผมก็กลัวแหละที่มืดๆ ก็รีบเดินออกไปดู เป็นลานจอดรถกว้างๆ ซึ่งถ้าผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถ มันก็ต้องได้ยินเสียงบ้าง แต่คือมันห่างกันแค่ไม่เท่าไหร่ ไม่น่าจะหายไปแบบไร้ร่องรอยอะไรขนาดนั้น ผมนึกขึ้นได้ก็รีบดึงลูกน้องกลับมา แล้วก็เล่าให้ฟัง มันก็ว่าเออดีๆ เกือบไปแล้ว ดีที่เล่าให้ฟังก่อน

และแล้วก็มีอยู่อีกวันนึง วันนั้นผมก็โทรคุยกับเจ้านาย ผมก็เดินคุยเพลินไปที่ลิฟต์ ปกติเวลาเราคุยโทรศัพท์ในลิฟต์เนี่ย พอเดินเข้าไปสัญญาณมันก็จะตัดเองทันทีเลย ซึ่งผมจะอยู่ชั้น 10 แต่ลิฟท์ที่นี่แปลกมากเลย เพราะจะมีชั้น 1, 3, 5, 6, 8, 9 ชั้น 10ไม่มี ก็พอถึงชั้น 9 ก็ต้องเดินขึ้นบันไดไป พอสัญญาณตัดปุ๊บ ผมก็เงยหน้ามอง ลิฟท์ก็ขึ้นไปชั้น 5 …

Admin

31/01/2018
1 10 11 12