อ่านเรื่องผี | ผับนี้มีอดีต! ผับใจกลางกรุงที่พนักงานยังกลัว
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการอ่านเรื่องผี หรือเป็นแฟนคลับตัวยงรายการวิทยุผีชื่อดัง ย่อมต้องคุ้นกับชื่อคนดังอย่าง “คุณคิง” เจ้าของเรื่องเล่าผีที่มีเอกลักษณ์ตรงที่ความระทึกและรายละเอียดของเหตุการณ์ และเรื่องเล่าผี “ผับนี้มีอดีต” เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ที่คุณคิงได้รับการบอกเล่ามาจากรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์เคยเป็นน้องใหม่ในที่ทำงานของผับบาร์ใจกลางกรุง และโดยที่ไม่ได้รู้ความหลังของห้องห้องหนึ่ง…ที่ซึ่งแม้แต่พนักงานคนอื่นๆยังไม่กล้าเข้าไป ทำให้มีเหตุให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์อันแสนสะพรึงจนไม่อาจลืมได้
อ่านเรื่องผี : ประสบการณ์เจอดีเพราะแอบนอนหลับในผับ
เรื่องเล่าผีนี้เป็นเรื่องที่คุณคิง ผู้ถ่ายทอดรับฟังมาอีกต่อนึงจากคุณจ๊อบ เรื่องของผับดังกลางกรุงเทพ ใครที่เคยไปคงนึกออก แต่ปัจจุบันจ๊อบบอกว่าได้ปิดไปแล้ว ในเบื้องต้นขออธิบายก่อนว่าทางเข้าผับ ลักษณะจะเป็นบันไดชั้น 2 ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ และร้านขายของ พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเป็นผับ เข้าไปถึงก็จะเป็นบูธดีเจ พอเลยบูธดีเจไปทางด้านหลังร้านก็จะเป็นห้องน้ำของผู้ชาย แล้วฝั่งตรงข้ามของห้องน้ำผู้ชายก็จะมีประตูเล็กๆอยู่ประตูนึง ซึ่งถ้ามองไม่สังเกต หรือไม่มองดีๆจะมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่ามีประตูอยู่ตรงนั้น เป็นเหมือนประตูลับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนได้ 15 ปีก่อนในตอนนั้นในคุณจ๊อบอายุยังไม่ถึง แต่ว่าก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของเส้นสาย คนเก่าที่เคยทำมาเป็นญาติกับจ๊อบ ก็เลยฝากให้จ๊อบเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่
ลักษณะการเข้าไปทำงานคือ เข้างานตั้งแต่ 2 ทุ่ม แล้วร้านเขาเนี่ย ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าวิธีไหนยังไง แต่จะปิด 7-8 โมงเช้าเลย ซึ่งก็จะเลิกเช้าๆอย่างนี้ทุกวัน แต่กว่าจะเลิกก็จะมีการแอบดื่มกัน อะไรกันเป็นปกติ พอเลิกงานก็จะไหลไปที่อื่นต่อ เวลาพักผ่อนจะน้อยมาก พอเวลาพักผ่อนน้อยมาก คุณจ๊อบเค้าก็บอกว่า… ก็เที่ยวอยู่อย่างนี้ คบเพื่อนทุกคนในร้านจนสนิทกัน แต่ยังไม่สนิทใจกับใครมาก
จนมีอยู่วันนึง จ๊อบก็รู้สึกว่าสนิทกับพี่คนนี้มากที่สุด ชื่อว่า พี่นพ เขาก็เริ่มปรึกษากันกับพี่ เพราะเขาบอกเลยว่าผับเขาเนี่ยคนจะไหลมาจากที่อื่น ที่อื่นเขาจะปิดตี 2 ตี 3 แล้วก็จะมาต่อกันที่นี่ จนกระทั่งเลิก 7-8 โมงเช้า เขาบอกว่าตั้งแต่ร้านเปิด 2 ทุ่มไปเนี่ย ไม่มีคนเลย จนตี 1-2 จะเริ่มมีคนทยอยมา เค้าก็อาศัยเวลาตรงนี้มาปรึกษากัน…
“เออพี่ ผับเรานี่นะ คือกว่าแขกจะมาก็ตี 1 ตี 2 บางทีตี 3 ไปแล้ว”
“พี่นพ.. ผมว่าเรามาพักผ่อนกันดีกว่ามั้ยมั๊ย”
“คือผมเองก็เป็นเด็กใหม่น่ะพี่ แต่พี่อยู่ที่นี่มานาน ถ้าผมจะเสนออะไรซักอย่างนึงแล้วพี่จะเห็นด้วยมั๊ย”
พี่นพก็ถามว่าอะไร… จ๊อบก็บอกว่า..
“เรามาพักผ่อนกันในช่วง 2 ทุ่มเนี่ย เราไปนอนห้องนั้นกันมั๊ย”
ซึ่งก็คือห้องที่เกริ่นไปก่อนหน้าแล้ว ห้องที่เป็นเหมือนห้องลับประตูเล็กๆ
พี่นพ ก็บอกว่า… “ฮึ้ยย.. จะดีหรอ”
การที่พี่นพพูดว่าจะดีหรอ? ก็เพราะว่า… ห้องนี้เป็นห้องที่คุณจ๊อบสังเกตมานานแล้ว จากที่อยู่มาหลายเดือน แต่ไม่เคยถามอะไร ซึ่งห้องนี้…คือไม่ว่าจะเป็นเด็กคนไหนที่ได้รับหน้าที่เอาขวดที่หมดแล้ว ใส่ลังเอาไปเก็บ ซึ่งต้องไปเก็บที่ห้องนี้ แล้วลักษณะการเก็บของแต่ละคนก็คือ พอเปิดประตูปุ๊ปก็เอาเท้าถีบส่งเข้าไปเลย ไม่หันกลับไปมองด้วย บางทีก็รีบเปิดประตูโยนปุ๊ปก็รีบวิ่งออกมาเลย คุณจ๊อบก็สงสัยว่า เออ..ทำไมทำอย่างนั้นกันวะ อะไรแบบนี้ บางทีก็ได้ยินเสียงขวดแตกแต่ก็ไม่มีใครหันไปมองเลย จ๊อบก็เลยบอกพี่นพว่า…
“พี่ห้องนี้น่ะ ไม่น่ามีใครสนใจหรอก เราเข้าไปนอนกันได้มั๊ย”
พี่นพก็บอกว่า…
“พี่ก็ว่าน่าจะได้นะ เพราะมันก็ไม่มีใครหนิ ก็นั่งเล่นกันไปจนตี 1 ตี 2 แหละถึงจะมีแขกมา”
แต่พี่นพก็บอกจ๊อบอีกว่า…
“ถ้าพี่บอกอะไรกับจ๊อบไปเนี่ย จ๊อบจะต้องทำตามพี่นะ”
จ๊อบก็ถามว่าอะไรอ่ะ พี่นพก็บอกว่า…
“คือเราต้องสัญญากันก่อนว่า ถ้าเราเข้าไปนอนในห้องเนี้ย … ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งที่ตื่นแล้วจะออกจากห้อง จะต้องเรียกอีกคนนึงก่อน เราจะไม่ทิ้งกัน”
จ๊อบก็บอกว่า…
“เฮ้ย พี่มันขนาดนั้นเลยหรอ”
พี่นพก็บอกว่า…
“เอางี้เลยดีกว่าจ๊อบ พี่พูดตรงๆเลยนะ ร้านเรามีผีนะ”
“บ้าาา ผมอยู่มาตั้งนานแล้วเนี่ย ไม่เห็นอะไรพวกนี้เลย หลายเดือนแล้วนะ แล้วไมอยู่ๆพี่พูดแบบนี้เนี่ย”
“เอ็งสังเกตดิ ห้องนั้นเวลาใครไปเปิด มันต้องโยนของ โยนอะไร … ทำไมไม่วางเรียงดีๆล่ะ”
“แล้วเอ็งเชื่อมั๊ย พี่ท้าเลย ขวดมันอยู่สภาพไหนก็อยู่สภาพนั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปจัดของแม้แต่เจ้าของร้าน”
“เจ้าของร้านก็ไม่กล้าบังคับให้เด็กเข้าไป เพราะเด็กก็ไม่กล้าเข้า ประวัติมันดังมากห้องนั้นน่ะ”
จ๊อบก็เลยถามว่า…
“อืมม แล้วเราจะไปนอนได้หรอห้องนั้นน่ะ”
“ได้สิ ถ้าเราไปนอนกัน 2 คน แล้วเราก็ออกมาพร้อมๆกัน เราต้องไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าจ๊อบหรือพี่จะเข้าห้องน้ำ สัญญากันเลยว่าต้องปลุกอีกคนนึงไปด้วย”
“เราอยู่ส่วนเรา เขาอยู่ส่วนเขาเว้ย แล้วอีกอย่างเรา 2 คนก็เมาก่อนที่จะไปนอนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
“ได้พี่”
จากนั้นเค้าก็ตัดสินใจเข้าไปนอน ประตูห้องเนี่ยจะเป็นประตูสปริงที่พอเปิดแล้วมันจะเด้งปิดเอง เค้าก็เอาลังมากันประตูไว้เพื่อให้แสงจากห้องน้ำลอดเข้ามาในประตู คือเดิมทีมันก้พอมีแสงเข้ามาบ้าง แต่การจัดห้องใหม่เขาต้องการให้มีแสงสว่างมากกว่าเดิม
ลักษณะการจัดห้องเค้าก็คือว่า จะกวาดเศษแก้วที่มันแตกออกไปไว้ข้างนึง แล้วก็เอาลังมาต่อๆกันให้เป็นรูปเตียง มีหัวเตียงด้วย เอาลังมากันมาบังไว้ ซึ่งด้านในจะมีประตูอีกชั้นนึงซึ่งมีกุญแจคล้องอยู่เฉยๆ แต่ไม่ได้ล็อค แล้วห้องนี้พี่นพบอกกำชับว่า…
“อย่าแตะต้องห้องนี้เด็ดขาด เราสัญญากันแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับห้องนี้”
“ได้พี่ พี่บอกไม่ให้ยุ่ง ผมก็ไม่ยุ่ง ชอยู่แล้ว ลำพังเข้ามานอนนี่ ผมยังต้องปรึกษาพี่เลย”
“โอเค เราอยู่ส่วนเรา เขาก็อยู่ส่วนเขา”
เค้าก็เอาลังมาตั้ง ตั้ง 7-8 ชั้น เป็นกำแพงเลย ตั้งข้างๆที่นอนของตัวเอง เพื่อไม่ให้เห็นอีกฝั่งนึงที่เป็นประตูห้องที่ว่า ห้องที่มันดำๆมืดๆแล้วเป็นทางลงลงไป ซึ่งก็ไม่เคยมีใครลงไปหรอก แต่รู้ว่ามีบันได เค้าพูดกันมาปากต่อปาก แล้วก็เอากุญแจคล้องไว้
วันที่คุณจ๊อบกับพี่นพเข้าไปนอนกันเนี่ย จะได้ยินเสียงๆนึง เป็นเสียงปริศนา แต่ก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาดู เพราะคุยกันไว้แล้วว่า.. จะไม่ลุก จะไม่ดู ถ้าจะลุกก็จะลุกพร้อมกัน จะไม่ทัก จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น เสียงปริศนาที่ว่าก็คือ จะมีเสียงคนเดินมาจากบันไดชั้นล่างไปที่ห้องประตูนั้น แล้วประตูก็ดัง แอ๊ดดดดดดด… แล้วก็เดินเตะ เหมือนคนเอาเท้าเหยียบเศษขวดแก้ว เพล้ง แกร๊บบบ แกร๊กกก… แล้วก็เดินออกไป แล้วก็เปิดประตูห้อง เพื่อไปเข้าห้องน้ำ ประมาณว่าแบบนั้น ซึ่งเวลาเปิดประตูมันก็ไม่ได้มีแต่เสียง เวลาเปิดแสงมันก็จะรอดเข้ามา พวกเค้าทั้งคู่รับรู้มาทุกวันเป็นเวลากว่า 2 เดือน โดยที่ไม่เคยลุกไปชะโงกดู เพราะถือว่าเมาแล้ว จะนอน คิดแค่นี้กัน
เสียงก็เป็นแบบนี้มาตลอด ทั้งๆที่จ๊อบก็สงสัยว่า ถ้ามันเป็นคนจริงๆ จะเดินขึ้นมาได้ยังไง เพราะว่ากุญแจมันคล้องมาจากข้างนอกจากฝั่งนี้ เขาไม่สามารถจะเปิดเข้ามาได้ แต่ในเมื่อมีคนบอกว่าห้องนี้มีผี เค้าก็สรุปก็คิดกันว่าเป็นผี รู้แล้วก็จบ แล้วไม่ใส่ใจ
ที่นี้…วันที่มันพีคก็คือ เค้านอนกันมาร่วม 2 เดือนก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น วันนั้นเค้าก็นอน อยู่ดีๆ เนี่ยคือคนเราพอนอนบนลังเบียร์นานๆมันก็เมื่อยก็อะไร เพราะนอนบนลังเบียร์ที่มีขวดเปล่าอยู่ข้างในมันก็จะบุ๋มๆ เค้าก็เลยตะแคงมาอีกข้างนึงเพื่อจะหันมาหาพี่ที่ชื่อนพ แล้วเวลาที่หันตะแคงมาก็จะเอาเท้าไปแตะหน่อยเช็คว่าแบบ..เออ พี่มันยังอยู่นะ แต่คราวนี้จ๊อบจะเอาเท้าไปแตะ แต่ว่าไม่เจออะไรเลย ว่าง.. เค้าก็ลืมตามอง ก็ไม่เห็นพี่นพ
“เฮ้ย พี่นพทิ้งนี่หว่า อ้าวไหนตกลงกันไว้แล้วไง”
แต่ตอนนั้นเค้าก็อยู่มาเป็นเดือนๆแล้ว ก็ไม่ได้คิดใส่ใจอะไร ส่วนเรื่องผีเค้าก็ได้ยินอยู่ทุกวันจนชิน และเสียงที่เดินเนี่ย มันเดินอยู่อีกฝั่งนึงที่เอาลังเบียร์ ที่ตั้งไว้ 7 ชั้น ที่ตั้งเอาไว้เป็นแผงเหมือนกำแพง จะไม่เห็นอะไรเลย
ทีนี้จ๊อบก็ทำท่ากำลังจะลุกเหมือนกัน เสียงก็มาละ กึกๆ กึกๆๆ …